กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเล 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงและคลื่นซัดชายฝั่ง ในระหว่างวันที่ 26-29 มกราคม 2554 พร้อมสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดภัย
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้ทะเลมีคลื่นสูงและคลื่นซัดชายฝั่งอย่างรุนแรง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สินในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเล 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่
สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะคลื่นลมแรงและคลื่นซัดชายฝั่งอย่างรุนแรง โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยแจ้งเตือนประชาชน และรายงานสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที และหากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ
นายวิบูลย์ กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลภาคใต้ 7 จังหวัด ให้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์คลื่นซัดชายฝั่งอย่างรุนแรง โดยดูแลซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง และเสริมแนวคันตลิ่งริมชายฝั่งทะเลให้มีความมั่นคงแข็งแรง หมั่นติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศแจ้งเตือนภัย ให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และจัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น เช่น ไฟฉาย ยารักษาโรค เป็นต้น หากเกิดสถานการณ์ภัยจะได้สามารถนำมาใช้งานได้ทันที
ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และสำนักงานป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย หากประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากคลื่นลมแรงและคลื่นซัดชายฝั่ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป