"Rabbit Hole" เข้าฉาย 24 กุมภาพันธ์ 54

ข่าวบันเทิง Friday January 28, 2011 14:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม บางฝันร้าย หลอกหลอน จนคุณไม่อาจตื่น บางบาดแผล กัดกินหัวใจ จนไม่อาจเยียวยา RABBIT HOLE เข้าฉาย 24 กุมภาพันธ์ 2554 กำกับ จอห์น คาเมรอน มิทเชลล์ / บทภาพยนตร์ เดวิด ลินด์เซย์-เอแบร์ / ประเภท ดราม่า / ประเทศ อเมริกา / นำแสดง นิโคล คิดแมน, แอรอน เอ็คฮาร์ต, ไดแอน วีสต์ / ความยาว 91 นาที / ฉาย 24 กุมภาพันธ์ 2554 เรื่องย่อ Rabbit Hole เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยแสงรำไรแห่งความหวัง ท่ามกลางความหม่นเศร้าจากการสูญเสียหรือหมดอาลัยตายอยากในชีวิต มันเป็นการถ่ายทอดแง่มุมเล็กๆ ที่ทุกครอบครัวอาจเคยประสบมาแล้ว เบ็คก้า และ ฮาวี่ คอร์เบตต์ (นิโคล คิดแมน และ แอรอน เอ็คฮาร์ต) พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกลับไปใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ หลังจากที่เพิ่งสูญเสียลูกชายไปจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อ 8 เดือนก่อน พวกเขาเคยเป็นคู่รักที่น่าอิจฉา อะไรๆ ก็ดูจะเป็นไปด้วยดี แต่แล้วความหวังอันงดงามถึงอนาคตก็มาพังครืนลง พร้อมๆ การจากไปของลูกชาย ทั้งคู่หากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อให้สมองไม่ว่างคิดถึงเรื่องแย่ๆ ทั้งยังพาตัวเองไปเข้ากลุ่มบำบัดผู้สูญเสียลูก แต่นั่นยังไม่ใช่ทางออกที่แน่ชัด เบ็คก้า ออกตัวอย่างเห็นได้ชัดว่า เธอไม่ต้องการบำบัดอะไรทั้งนั้น ส่วนฮาวี่ ยังคงอาลัยอาวรณ์ถึงลูกชายที่ตายจากไป นับวันสองสามีภรรยาก็ค่อยๆ ห่างเหินกัน เบ็คก้าเริ่มเวียนหัวกับทุกคนรอบข้าง ตั้งแต่แม่ และสามีของเธอ เธอหาทางออกให้กับตัวเองด้วยการเข้าไปผูกมิตรกับเด็กชายคนที่ขับรถชนลูกของเธอ ส่วนฮาวี่นั้น เขากำลังเผลอเหยียบย่างเข้าไปในดินแดนของการนอกใจคู่สมรส Rabbit Hole เป็นภาพยนตร์ผลงานของ จอห์น คาเมรอน มิทเชลล์ (Hedwig and the Angry Inch) จากบทภาพยนตร์โดย เดวิด ลินด์เซย์-เอแบร์ (ดัดแปลงมาจากบทละครรางวัลพูลิตเซอร์ของเขาเอง) นำแสดงโดย นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ นิโคล คิดแมน ร่วมด้วยแอรอน เอ็คฮาร์ต และ ไดแอน วีสต์ กว่าจะมาเป็น Rabbit Hole เมื่อตอนเริ่มต้นเขียนบทละครเรื่อง Rabbit Hole นั้น เดวิด ลินด์เซย์-เอแบร์มีปมบางอย่างติดค้างอยู่ในใจมานานแล้ว เขาคิดถึงคำของ มาร์ชา นอร์แมน (นักเขียนบทละครชื่อดังและเป็นอาจารย์ของเขา) ที่เคยบอกว่า “ลองเขียนถึงสิ่งที่คุณหวาดกลัวที่สุดในชีวิต” เขาสารภาพว่าเขานึกไม่ออกเลยว่า นอร์แมนหมายถึงอะไร หลังจากนั้นไม่นาน เดวิด ลินด์เซย์-เอแบร์ ก็มีลูกชาย เขาเลยถึงบางอ้อทันที “เมื่อผมจินตนาการว่า หากผมต้องสูญเสียลูกชายไป ถึงตอนนั้นเองที่ความหวาดกลัวอันหนาวเหน็บ เข้ามาเกาะกินหัวใจของผม” เอแบร์เล่าว่าจุดนั้นเอง “ที่กลายมาเป็นไอเดียทั้งหมดของ Rabbit Hole” Rabbit Hole เริ่มต้นที่ประเด็นเรื่องความกลัว และการสูญเสีย ผ่านเรื่องราวของครอบครัวคอร์เบตต์ ครอบครัวชนชั้นกลางที่ต้องรับมือกับการที่ลูกชายตัวน้อยของพวกเขาประสบอุบัติเหตุ (อย่างไม่มีใครตั้งใจให้มันเกิดขึ้น) ชีวิตหลังจากนั้นของสองสามีภรรยา คือการพยายามทำชีวิตให้เป็นปกติ แต่ในฉากหน้าที่ดูสวยงามนั้น ความตึงเครียดกลับคุกรุ่นอยู่ภายใน Rabbit Hole ฉบับละครเวทีประสบควาสำเร็จอย่างสูง นั่นนำมาสู่การดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์ เดวิด ลินด์เซย์-เอแบร์ถือโอกาสนี้ ในการเติมเต็มเรื่องราวของครอบครัวคอร์เบตต์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น “ฉบับละครเวทีนั้น เหตุการณ์ต่างๆ เกือบทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายในบ้านของทั้งคู่ แต่การได้มาเขียนเป็นบทภาพยนตร์ มันอนุญาตให้ผมได้เล่าเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือจากนั้น ผมสามารถพาคนดูไปชมโลกส่วนตัวของทั้งเบ็คก้าและฮาวี่” เขาอธิบาย “มันมีบางเหตุการณ์ที่ผมอยากจะเล่ามาก เช่น การที่ทั้งคู่ไปเข้ากลุ่มบำบัดผู้สูญเสียลูก หรือตอนที่เบ็คก้ามีเรื่องกับแม่คนหนึ่งในซูเปอร์มาร์เก็ต” นิโคล คิดแมน ได้อ่านบทละครก่อน และในฐานะโปรดิวเซอร์เธอสนใจงานชิ้นนี้มาก ทันทีที่ได้อ่านบทภาพยนตร์ เธอก็ตกหลุมรักมันอีกรอบหนึ่ง “เขาเล่าเรื่องอย่างเป็นธรรมชาติ” คิดแมนกล่าว “เขารู้ว่าควรจะเล่าเรื่องทั้งหมดด้วยภาษาภาพยนตร์อย่างไร รวมถึงเขาเข้าอกเข้าใจตัวละครเหล่านั้นเป็นอย่างดี ฉันชอบที่ได้ทำงานกับเขา” ในส่วนของการดัดแปลงบทสนทนา ลินด์เซย์-เอแบร์ เลือกที่จะคงอารมณ์ขันที่ปรากฏในฉบับละครไว้ครบถ้วน “ตอนที่ผมเขียนบทละครเรื่องนี้ ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะใส่ความตลกขบขันลงไปในเรื่องราวที่อาจจะดูเศร้าหมอง ผมคิดว่าในโลกความเป็นจริง ถึงเราจะประสบพบเจอกับเรื่องที่เศร้าขนาดไหนก็ตาม แต่เราก็ยังจะยิ้ม หรือปล่อยมุกตลกได้บ้าง โดยปกติแล้ว สองสามีภรรยาคอร์เบตต์เป็นคนอารมณ์ดี แต่เขาบังเอิญมาเจอเรื่องแย่ๆ ในชีวิตเท่านั้นเอง ซึ่งมันก็คงไม่ทำให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขายังต้องมีอารมณ์ขันอยู่บ้าง” เกี่ยวกับฉบับละครเวที Rabbit Hole ออกแสดงอย่างเต็มรูปแบบในนิวยอร์ก ปี 2006 และตระเวนไปแสดงในเมืองใหญ่ๆ อย่างลอส แองเจลิส, ฟิลาเดลเฟีย และพิตต์สเบิร์ก กลายเป็นละครเวทีแนวชีวิตหนักๆ (แต่ยังส่วนที่คลุกเคล้าอารมณ์ขันไว้) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง นักแสดงสาว ซินเธีย นิกสัน ดารานำจาก Sex and the City มารับบทนำเป็น เบ็คก้า และคว้ารางวัลโทนี่ อวอร์ด สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปี 2006 มาครอง เกี่ยวกับผู้เขียนบท เดวิด ลินด์เซย์-เอแบร์ เดวิด ลินด์เซย์-เอแบร์ เกิดเมื่อปี 1969 เขาเป็นนักเขียนบทละครและคนเขียนเพลงละครชื่อดัง เคยได้รับรางวัลพูลิตเซอร์จากผลงานการเขียนบทละครเรื่อง Rabbit Hole ในปี 2007 และเคยเข้าชิงรางวัลโทนี่มาหลายครั้งด้วยกัน ลินด์เซย์-เอแบร์ เกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงานในรัฐแมสซาชูเสตต์ เริ่มสนใจการละครมาตั้งแต่เรียนมัธยมต้น เคยสอบชิงทุนและได้รับทุนจากมูลนิธิการละครต่างๆ มากมาย จนได้เข้าเรียนวิชาเขียนบทที่ Juilliard School กลางยุค 90 ลินด์เซย์-เอแบร์ เริ่มเข้าสู่วงการละครอย่างจริงจัง จนกระทั่งมาได้รับการจับตามองจากละครเรื่อง Fuddy Meers ในปี 1999 หลังจากนั้นมาเขาก็ไม่ใช่มือเขียนบทโนเนมอีกต่อไป เดวิด ลินด์เซย์-เอแบร์ อธิบายว่าบทละครส่วนใหญ่ของเขามักเกี่ยวข้องกับ "คนชายขอบที่พยายามหาความหมายให้ชีวิต" ซึ่งเขามีประสบการณ์ตรงมาจากชีวิตของตัวเอง เขาเคยเขียนบทหนังเรื่อง Robots แอนิเมชั่นในปี 2005 และ Inkhart ในปี 2007 และเขียนบทพร้อมเนื้อเพลงในเวอร์ชั่นละครเพลงของ High Fidelity และ Shrek เกี่ยวกับผู้กำกับ จอห์น คาเมรอน มิทเชลล์ ณ เวลานี้คงไม่มีคอหนังคนไหนไม่รู้จัก จอห์น คาเมรอน มิทเชลล์ อีกแล้ว ผู้กำกับที่เปิดเผยว่าตนเองเป็นเกย์ วัย 47 ปีผู้นี้มีประวัติโชกโชนและยาวนาน รวมถึงได้สร้างผลงานสุดอื้อฉาวที่ลืมไม่ลง จอห์น คาเมรอน มิทเชลล์ เกิดในปี 1963 ในครอบครัวนายทหาร และเติบโตในโรงเรียนสอนศาสนาอันเคร่งครัด เขาเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในสาขาการละคร เมื่อเรียนจบก็กระโจนเข้าสู่วงการละครเวทีทันที โดยเล่นบทสมทบในละครบรอดเวย์และนอกบรอดเวย์หลายเรื่องในยุค 80 ขณะเดียวกันก็รับแสดงในบทรับเชิญของรายการทีวีชื่อดังในยุคนั้นอย่าง MacGyver, Head of the Class, Law & Order, The New Twilight Zone, Freddy's Nightmares รวมถึงบทเล็กๆ ในภาพยนตร์เล็กๆ ที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไร ในปี 1998 จอห์น คาเมรอน มิทเชลล์ ก็สั่นสะเทือนวงการละครด้วย Hedwig and the Angry Inch ละครเพลงนอกบรอดเวย์ว่าด้วยชีวิตอันรันทดของนักร้องเพลงร็อคสาวประเภทสองจากเยอรมันตะวันออก อีก 3 ปีต่อมาเขานำละครเรื่องนี้ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ และได้รับเสียงตอบรับจากคนดูและนักวิจารณ์อย่างท่วมท้น ปี 2006 จอห์น คาเมรอน มิทเชลล์ ไปไกลกว่าความอื้อฉาวทั้งปวงด้วยการทำหนังเรื่อง Shortbus หนังที่อุดมไปด้วยฉากเซ็กซ์ที่โจ่งแจ้ง นักแสดงมีเพศสัมพันธ์กันจริงๆ และตั้งคำถามกับผู้ชมเรื่องเพศอย่างตรงไปตรงมา นอกเหนือจากงานกำกับหนัง จอห์น คาเมรอน มิทเชลล์ยังเป็นโปรดิวเซอร์ในการผลักดันคนทำหนังหน้าใหม่ และยังกำกับมิวสิควิดีโออีกด้วย เหตุผลที่จอห์น คาเมรอน มิทเชลล์ มารับงานกำกับ Rabbit Hole ทั้งๆ ที่มันดูแตกต่างจากตัวตนของเขาที่ทุกคนรู้จักก็คือ เขาเองเคยมีประสบการณ์การสูญเสียคนในครอบครัวมาแล้ว 24 กุมภาพันธ์ 2554 ความรักทำให้แผลใจทุเลา (เฉพาะที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์, เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า, เอเพ็กซ๋ สยามสแควร์ และเฮ้าส์ อาร์ซีเอ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ