กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--วิวาลดี้ พับลิค รีเลชั่นส์
เที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบินกาตาร์เตรียมบินสู่กรุงนิวยอร์กในวันที่ 26 มิถุนายน 2550 เผยเป็นสายการบินตะวันออกกลางรายแรกที่ให้บริการเส้นทางบินสู่สนามบินนานาชาติเนวาร์ก ลิเบอร์ตี้ นิวยอร์กซิตี้ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยบินผ่านกรุงเจนีวา อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่กำลังมีการเติบโตสูง
หลังจากนั้นอีกเพียง 3 สัปดาห์ ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2550 สายการบินกาตาร์เตรียมจะให้บริการเส้นทางบินเชื่อมเมืองหลวงของกาตาร์กับสหรัฐอเมริกา โดยจะเป็นสายการบินตะวันออกกลางเพียงสายการบินเดียวที่บินแบบไม่หยุดพัก สู่สนามบินนานาชาติดัลเลสในกรุงวอชิงตันดีซี
โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สายการบินกาตาร์ได้ประกาศแผนขยายเส้นทางบินหลายแห่ง โดยมีการเปิดเที่ยวบินใหม่รวมทั้งสิ้น 9 เส้นทางตลอดปี 2550
มร. อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ กล่าวถึงการเปิดเที่ยวบินสู่สหรัฐฯ ว่า “ถือเป็นเวลาแห่งความน่าตื่นเต้นยินดีของสายการบินกาตาร์ ซึ่งได้เปิดเส้นทางบินใหม่หลายแห่งตลอดปี 2550 นี้ รวมถึงเที่ยวบินที่จะไปยังนิวยอร์กและวอชิงตันด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้เราได้เปิดเส้นทางบินใหม่ 5 เส้นทาง รวมถึงการเพิ่มเที่ยวบินในหลายเส้นทาง การเพิ่มเส้นทางบินใหม่ทั้งนิวยอร์ก วอชิงตัน รวมทั้งเจนีวา และสต๊อคโฮล์ม จะทำให้เรามีเส้นทางบินใหม่รวม 9 เส้นทางในปีนี้”
สำหรับการโปรโมทเส้นทางบินใหม่สู่สหรัฐฯ นี้ สายการบินกาตาร์ได้จัดทำแคมเปญสื่อประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ โดยเฉพาะภายในสมาพันธ์ความร่วมมือประเทศในอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council — GCC) โดยใช้สัญลักษณ์ซึ่งเป็นที่รู้จักอาทิ รูปปั้นเทพีเสรีภาพในนิวยอร์ก และทำเนียบขาวในวอชิงตันดีซี
ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่ใช้บริการของสายการบินกาตาร์และเดินทางจากโดฮาหรือแวะเปลี่ยนเครื่องที่โดฮา จะสามารถใช้บริการพรีเมียม เทอร์มินัลใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับบริการผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและบิสเนสคลาสโดยเฉพาะ อาคารพรีเมียมเทอร์มินัลดังกล่าวเพียบพร้อมด้วยบริการทั้งสปา จากุซซี่ ร้านค้าสินค้าปลอดภาษี ศูนย์ธุรกิจ และภัตตาคารอาหารชั้นเลิศ โดยใช้งบประมาณในการสร้างทั้งสิ้น 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นเป็นอาคารผู้โดยสารเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่สร้างขึ้นสำหรับ ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและบิสเนสคลาสโดยเฉพาะ ล่าสุดที่ผ่านมา สายการบินกาตาร์ยังมีความคืบหน้าในการยืนยันใบสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350 ใหม่ จำนวน 80 ลำ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 16,000 ล้านดอลลาร์ ในงานปารีสแอร์โชว์ ซึ่งเพิ่งจัดขึ้นเร็วๆนี้ นอกจากนี้ ยังได้มีการยืนยันข้อตกลงมูลค่า 5,600 ล้านดอลลาร์ กับโรลซ์รอยซ์ สำหรับเครื่องยนต์ไอพ่นแบบ 2 เครื่องยนต์ (twin-jet) สำหรับ A350 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ในปี 2556 เป็นต้นไป
ปัจจุบันสายการบินกาตาร์ให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัสจำนวน 58 ลำ สู่ 75 เส้นทางทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา ตะวันออกไกล และอนุทวีปอินเดีย เที่ยวบินใหม่ในเส้นทางโดฮา-สหรัฐฯจะเป็นการเชื่อมเส้นทางสำหรับกลุ่มประเทศภายในสมาพันธ์ความร่วมมือประเทศในอ่าวอาหรับได้เป็นอย่างดี
เส้นทางใหม่ของสายการบินกาตาร์ในปี 2550-
ลากอส 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
ดาร์ เอส ซาลาม ทุกวัน
เชนไน ทุกวัน
บาหลี 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
โฮจิมินห์ซิตี้ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
เจนีวา 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2550
นิวยอร์ก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2550
วอชิงตัน ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2550
กรุงสตอกโฮล์ม 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป
ข้อมูลของสายการบินกาตาร์
สายการบินกาตาร์ เป็น 1 ใน 4 สายการบินที่ได้รับรางวัลให้เป็นสายการบินระดับ 5 ดาวด้านการบริการจากสกายแทร็กซ์ และยังได้รับรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกกลางเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน และเป็นอันดับ 2 ของโลก จากการสำรวจจากผู้โดยสารกว่า 12 ล้านคนทั่วโลก
ฝูงบินของสายการบินกาตาร์จะเพิ่มขนาดเป็น 2 เท่าหรือกว่า 110 ลำ ภายในปี 2558 โดยล่าสุดในมีการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 80 ลำ และโบอิ้ง 777 จำนวน 22 ลำ โดยมีกำหนดเริ่มรับมอบในเดือนพฤศจิกายน 2550
สายการบินเป็นลูกค้ารุ่นแรกของเครื่องบิน 2 ชั้น Airbus A380 รุ่น‘super jumbos’ ด้วยการสั่งเครื่องบิน 4 ลำ กำหนดเริ่มส่งมอบในปี 2552 ซึ่งตรงกับการเปิดตัวสนามบินนานาชาติโดฮาใหม่ หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.ndiaproject.com
สำหรับสื่อมวลชน หากต้องการภาพเกี่ยวกับสายการบินกาตาร์ กรุณาเยี่ยมชมและดาวน์โหลดจากเว็บไซต์
FTP URL: ftp://ftp.qatarairways.com.qa
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ภัทรนิษฐ์ อิ่มอำไภย
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์อาวุโส
วิวาลดี้ พับลิค รีเลชั่นส์
โทร. 02 319 1031 ต่อ 1195 แฟ็กซ์ 02 319 9303
โมบายล์ 089 893 4819
อีเมล์ pattaranit.imampai@vivaldipr.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net