กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--Public Hit
นับเป็นอีกโครงการหนึ่งที่หลายคนเฝ้าจับตามอง สำหรับ ปาร์คเวนเชอร์ - ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ (Park Ventures — The Ecoplex on Witthayu) สุดยอดโครงการอาคารสำนักงานและโรงแรมระดับ ไฮเอนด์แห่งใหม่ ภายใต้แนวคิด “ประตูต้อนรับสู่ถนนวิทยุ” เนรมิตโอเอซิสใจกลางกรุงด้วยพื้นที่สีเขียวมากถึง 25% ออกแบบผสานนวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในวันนี้และวันข้างหน้า ขณะนี้การก่อสร้างโครงการรุดหน้าไปมากกว่า 60% จึงได้จัดงานเผยความคืบหน้าโครงการขึ้น พร้อมภูมิใจนำเสนอ The Okura Prestige Bangkok สุดยอดโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว สัญชาติญี่ปุ่นอันเลื่องชื่อในเครือโอกูระ ที่จะมาเปิดในเมืองไทยเป็นครั้งแรก บริเวณชั้น 23-34 ของโครงการปาร์คเวนเชอร์ในอนาคตอีกด้วย ณ ห้องคริสตัล บอลรูม โรงแรมพลาซ่าแอทธินี เมื่อวันก่อน
สำหรับการจัดงานแถลงความคืบหน้าโครงการครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Tomorrow Business Greenovation ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี โดยมี กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มร.เซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ มร.โตชิฮิโร่ โอจิตะ ประธานกรรมการ บริษัท โฮเทล โอกูระ จำกัด หนึ่งในผู้นำธุรกิจโรงแรมของประเทศญี่ปุ่นที่มีโรงแรมในเครือรวม 23 แห่งทั่วโลกในปัจจุบัน ที่ให้เกียรติมาร่วมงานด้วยเช่นกัน
อรฤดี ณ ระนอง ประธานอำนวยการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโครงการปาร์คเวนเชอร์ กล่าวว่า ปาร์คเวนเชอร์- ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ เป็นโครงการระดับไฮเอนด์ใจกลางเมืองแห่งแรกของเมืองไทย ที่รวมอาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยมและโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวชั้นนำของโลกไว้ด้วยกัน ภายใต้การออกแบบที่ผสมผสานนวัตกรรมล้ำสมัย โดยมุ่งคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้เช่าอาศัยเป็นหลักสำคัญ ภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นสู่ความเป็น LEED (The Leadership in Energy and Environmental Design) ในระดับ Platinum ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของสถาบันด้านอาคารสีเขียวของสหรัฐอเมริกาที่โด่งดังที่สุดในขณะนี้
“ที่ดินโครงการนี้ นับเป็นที่ดินผืนใหญ่แปลงสุดท้ายบนถนนเพลินจิต-วิทยุ ที่ถือเป็นถนนสายสำคัญที่มีความเขียวชอุ่มร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์เป็นเอกลักษณ์เคียงคู่กรุงเทพฯ มายาวนาน ในปัจจุบันไม่เพียงเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตของหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร หากยังแวดล้อมด้วยสำนักงานธุรกิจมากมาย ถือเป็นถนนสายธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองไทย ด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ และความเขียวชอุ่มอันเป็นลักษณะเฉพาะของถนนวิทยุแห่งนี้ จึงนับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของทีมงานที่จะสร้างสรรค์โครงการให้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอันงดงาม หากแฝงด้วยความทันสมัยและมีระดับ อีกทั้งโครงการนี้มีการคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของ ผู้เช่าอาศัย เน้นในเรื่องของการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงานสูงสุด เพราะในภาวะโลกร้อนแบบนี้ เราจำเป็นต้องช่วยกันอนุรักษ์พลังงาน และหวังว่าทุกท่านที่มาใช้อาคารแห่งนี้จะมีความสุขกายสบายใจ สบายตาในความเขียวขจีและร่วมช่วยกันประหยัดพลังงานด้วย”
อาคารแห่งนี้ประกอบด้วยอาคารสำนักงานตั้งแต่ชั้น 8 — 22 ด้วยแนวคิดของเราอาจเป็นการเชิญชวนให้หลายท่านรู้สึกดีและอยากเข้ามาทำงานในออฟฟิศภายในอาคารแห่งนี้ และเช่นเดียวกันจากชั้นที่ 23 — 34 ก็เป็นที่ตั้งของโรงแรมดิ โอกูระ เพรสทีจ แบงค็อก ซึ่งเป็นสุดยอดแบรนด์โรงแรมระดับ 5 ดาว ในเครือโอกูระ จากประเทศญี่ปุ่น เหมาะแก่การที่จะมาพักผ่อนไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ หรือคนไทยเองก็ตาม ซึ่งท่านจะได้รับการบริการที่ยอดเยี่ยมในระดับมาตรฐานสากล เราพยายามทำให้ในส่วนของสำนักงานและส่วนของโรงแรมมีบรรยากาศกลมกลืนลงตัว เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดี และความประทับใจสูงสุดให้กับทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ทั้งสองส่วนภายในโครงการปาร์คเวนเชอร์
สำหรับความคืบหน้าของโครงการ ขณะนี้รุดหน้าไปแล้วกว่า 60% ในส่วนของสำนักงานนั้นจะเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ แต่ในส่วนของโรงแรมเราคาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนมีนาคม 2555 ค่ะ” อรฤดี กล่าว
วรรณพร พรประภา สถาปนิกสาวฝีมือเยี่ยม ถือเป็นแขกคนสำคัญคนหนึ่งของงานนี้ เพราะเป็นผู้ออกแบบงานภูมิทัศน์ของโครงการปาร์คเวนเชอร์ กล่าวว่าเธอและทีมงานภาคภูมิใจและตั้งใจทำงานมากเพราะเป็นพื้นที่สำคัญในกรุงเทพฯ จึงอยากให้เป็นสิ่งที่รักษาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมด้วย ในการทำงานมีกระบวนการค่อนข้างเยอะกว่าจะมาถึงจุดนี้ ทีมงานหลายๆ ฝ่ายต้องพยายามทำให้ดีที่สุดในข้อกำหนดหลายๆ อย่าง
“พื้นที่นี้จะเป็นแลนด์สเคปกลางใจเมือง มีลักษณะเป็นสวนสาธารณะด้วย เป็นที่รวมของนวัตกรรม สิ่งใหม่ๆ รวมทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม สิ่งที่คาดว่าผู้บริโภคจะได้รับน่าจะมีหลายอย่าง ทางด้านกายภาพก็ได้พื้นที่สีเขียวเพิ่มเติมความร่มรื่นให้กับกรุงเทพฯ ของเรา เพราะโครงการนี้มีต้นไม้ค่อนข้างเยอะ ส่วนทางด้านจิตใจ คงจะเป็นเรื่องทัศนคติเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ที่จะมอบความสุขให้แก่คนเมืองได้มากยิ่งขึ้น อนาคตที่แห่งนี้น่าจะเป็นเสมือนจุดศูนย์กลางของคนกรุงเทพฯได้อีกแห่งหนึ่ง”
“อยากให้กรุงเทพฯมีโครงการคล้ายๆ แบบนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราทุกคนเห็นกันแล้วว่าสวนสาธารณะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ยังมีน้อยอยู่ ดีใจมากกับโครงการนี้เพราะเป็นของเอกชนที่นำร่องแนวความคิดเรื่องการสร้างสวนสาธารณะขึ้นมาในเมือง ถึงแม้จะเป็นขนาดเล็กหรือที่เรียกกันว่า Pocket park ก็ตาม อยากให้มีเพิ่มมากขึ้นอีกถึงแม้แต่ละพื้นที่จะมีไม่มากนัก หากรวมกันก็จะช่วยเพิ่มความเขียวขจีร่มรื่นให้เมืองกรุงเทพของเราน่าอยู่อาศัยยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ค่ะ” สถาปนิกสาวสวย กล่าว
ในมุมมองของนักธุรกิจหนุ่ม ปริญญา รุ่นประพันธ์ เห็นด้วยว่าแนวความคิดในเรื่อง Green Design ควรมีมานานแล้วในกรุงเทพฯ เพราะเป็นเมืองใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยทำมาหากินของคนจากหลายพื้นที่ เป็นศูนย์กลางการค้าธุรกิจที่แข่งขันสูง ทุกคนจึงควรหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น
“ในการสร้างอาคารหรือตึกแต่ละหลังถ้าไม่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม จะมีผลกระทบอย่างแรง ผมว่าผู้พัฒนาโครงการปาร์คเวนเชอร์เขาคิดไกลว่าจะทำอาคารนี้ไม่ใช่ให้มีแค่แบบสวยมีเอกลักษณ์เพียงอย่างเดียว แต่ภายในยังมีองค์ประกอบที่น่าสนใจมากมาย ทั้งการลงทุนในเรื่องของการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์พลังงาน การใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือการมีพื้นที่สีเขียวมากถึง 25% อยู่ภายในโครงการ ผมว่าที่นี่น่าจะเป็นจุดหนึ่งที่น่าสนใจใน skyline ของกรุงเทพฯ”
“ผมมองว่าสิ่งที่เจ้าของปาร์คเวนเชอร์ต้องการจะทำ ไม่ใช่แค่เป็นอาคารสำนักงานเท่านั้น แต่เขาเน้นไปที่เรื่องไลฟ์สไตล์ด้วย ทั้งการมีพื้นที่สีเขียวไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งเรามีน้อยมากสำหรับเมืองใหญ่ขนาดนี้ แล้วยังมีร้านอาหาร มีโรงแรมที่มาจากญี่ปุ่น ที่ผมคิดว่าน่าจะมีร้านอาหารที่น่าสนใจมาเปิดบริการอีกแน่นอน ทำให้เหมาะเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนจะมานัดพบปะกันได้โดยง่ายและสะดวกมากด้วยครับ”
ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ผู้ช่วยรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีอีซี เวิลด์ฯ เผยว่าเมื่อเธอมีอายุเพิ่มมากขึ้นก็เริ่มเห็นแล้วว่าสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ แล้วต่อไปลูกหลานของเราต้องอยู่ในแวดล้อมสมัยใหม่ เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่เป็นเรื่อง Go Green จะเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมด้วย
“ปัจจุบันในกรุงเทพฯ ยังมีการก่อสร้างอาคารตึกรามที่มีลักษณะใส่ใจสิ่งแวดล้อมน้อยอยู่ แต่ต่อไปคงจะมากขึ้นไม่ว่าเป็นตึกใหม่ที่จะสร้างขึ้นมาหรือว่าตึกเก่าที่จะปรับปรุงขึ้นใหม่ เพราะความสัมพันธ์ตรงนี้มันช่วยได้ทั้งหมด ไม่ว่าเรื่องประหยัดพลังงาน เรื่องสิ่งแวดล้อม ช่วยได้ทุกอย่างเลย ถ้าปาร์คเวนเชอร์ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย เปิดตัวอย่างเป็นทางการก็ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เป็นอาคารตัวอย่างที่มีลักษณะ eco design ทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่า ขนาดเจ้าของโครงการเองยังให้ความสำคัญถึงขนาดนี้ แล้วเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ go green เพื่อร่วมกันรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้กันต่อไปได้อย่างไรบ้าง
“อีกเรื่องที่มองว่าความโดดเด่นที่สำคัญของปาร์คเวนเชอร์คือ การตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในสังคม เพราะชีวิตคนยุคนี้ค่อนข้างวุ่นวาย ถ้าใครทำงานในออฟฟิศที่มีโลเกชั่นอยู่กลางเมือง ไปมาสะดวก มีร้านอาหารดีๆ อร่อยๆ คอยรองรับ ก็จะเป็นสิ่งดึงดูดให้คนมาเยือนได้ง่าย ถ้าขอได้ก็อยากให้กรุงเทพฯ มีระบบการขนส่งที่ดี มีคุณภาพและเข้าถึงทุกคน เพราะการจราจรที่ติดขัดทำให้เสียเวลาในการเดินทางมาก หากนำเวลาที่อยู่ในรถหรือบนท้องถนนไปทำอะไรอย่างอื่นได้คงมีประโยชน์มากกว่านี้” ดร.แคทลีน ฝากทิ้งท้าย
ปาร์คเวนเชอร์ — ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ พร้อมเปิดบริการพื้นที่ส่วนสำนักงานอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นทางเลือกชั้นเยี่ยมให้กับเหล่านักธุรกิจและบริษัทชั้นนำในเดือนกันยายนนี้ และจะกลายเป็นประตูต้อนรับสู่ถนนวิทยุ ตั้งตระหง่านทักทายผู้มาเยือนอย่างสง่างาม เพื่อเป็นขุมพลังทางธุรกิจแห่งใหม่ของมหานคร โดยโครงการฯ ได้เปิดให้จองเช่าพื้นที่สำนักงานแล้วตั้งแต่วันนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อขอเยี่ยมชมพื้นที่สำนักงานตัวอย่างโครงการ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่โทร 02-654-1111 หรือ อีเมล์
[email protected] และ www.park-ventures.com
ปาร์คเวนเชอร์ — ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ ความสมบูรณ์แบบสำหรับชีวิตธุรกิจแห่งทศวรรษหน้า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit