กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--บลจ.แอสเซท พลัส
          บลจ.แอสเซท พลัส เสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 9-15 กุมภาพันธ์ 2554 กองทุน ASP-ACFIXED8 ลงทุนในพันธบัตร และตราสารหนี้ไทย อายุ 3 เดือน ผลตอบแทน 2.00% ต่อปี* 
          ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดตราสารหนี้ไทยในปีนี้ คาดว่า อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นน่าจะมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ตามการทยอยปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับ 3% ในช่วงปลายปี ขณะที่การคุ้มครองเงินฝากแบบเต็มจำนวนจะสิ้นสุดลงและสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะเริ่มจำกัดวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อรายผู้ฝากต่อสถาบันในเดือนสิงหาคม ทำให้ต้องการลงทุนจากผู้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ๆ จะยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า โดยบริษัทฯ ยังคงแนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นไม่เกิน 6 เดือน มากกว่าลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการบันทึกราคาตราสารตามราคาตลาดในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น 
          ดร.วิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างวันที่ 9-15 กุมภาพันธ์ นี้ บลจ.แอสเซท พลัส จะเสนอขาย IPO กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 8 (ASP-ACFIXED8) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทยที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยในรอบการลงทุนแรกนี้ กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชนอายุ ประมาณ 3 เดือน เช่นพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เงินฝากธนาคารออมสิน (GSB) ตั๋วแลกเงินธนาคารเกียรตินาคิน (KK) และตั๋วแลกเงินบริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (ASK) โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 2.00% ต่อปี*
รายละเอียดพอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 8 (ASP-ACFIXED8) 
ชื่อตราสาร                             Credit Rating    ผลตอบแทนของตราสารโดยประมาณ  สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ  ผลตอบแทนจากการลงทุน  
                                     โดยTRIS Rating   (%ต่อปี)*                     (%)                    (%ต่อปี)              
พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นCB11512B  รัฐบาล            2.10                        31.00%                 0.65                
ธนาคารออมสิน(GSB)                     ถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาล  2.40                        25.00%                 0.60                
ธนาคารเกียรตินาคิน(KK)                  A-               2.35                        19.00%                 0.45                
บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (ASK)      BBB+             2.50                        25.00%                 0.63                
รวม                                  100.00%          2.32                        
ประมาณการค่าใช้จ่าย                     0.32             
อัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายโดยประมาณ    2.00
          *สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และผู้ขายตราสาร ณ 1 กุมภาพันธ์ 2554 หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ระบุไว้ และตราสารที่ลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด หรือตามที่ผู้จัดการกองทุนเห็นสมควร
          ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม 
          ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111 
          สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร 
          โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: [email protected]