กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้บาดเจ็บ 22 ราย อพยพราษฎรแล้ว 23,118 คน (ศรีสะเกษ 16,668 คน สุรินทร์ 2,800 คน อุบลราชธานี 3,650 คน) การช่วยเหลือได้จ่ายเงินทดรองราชการไปแล้ว 260,000 บาท มอบผ้าห่มกันหนาว 6,970 ผืน จัดตั้งจุดอพยพรวม 49 จุด (ศรีสะเกษ 40 จุด สุรินทร์ 3 จุด อุบลราชธานี 6 จุด) พร้อมสั่งการศูนย์ ปภ.เขต และปภ.จังหวัดใกล้เคียงเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมสนับสนุนจังหวัดที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงกรณีเหตุปะทะกันตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า ปภ.ได้ประสานข้อมูลความเสียหายและการช่วยเหลือกรณีดังกล่าวจากจังหวัดศรีสะเกษ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 4 — 7 กุมภาพันธ์ 2554 มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (พลเรือน 1 ราย ทหาร 1 นาย) ผู้บาดเจ็บ 22 ราย (พลเรือน 8 ราย ทหาร 14 นาย) บ้านเรือนเสียหายรวม 17 หลัง (ทั้งหลัง 7 หลัง บางส่วน 10 หลัง) อาคารเรียนโรงเรียนบ้านภูมิซรอล เสียหายบางส่วน 2 หลัง หลังคาอาคารสำนักงาน อบต. เสาธงชัย ได้รับความเสียหายบางส่วน สวนยางพาราเสียหาย 50 ไร่ และได้อพยพราษฎรไปยังจุดรองรับการอพยพ จำนวน 40 จุด ใน 11 อำเภอ รวม 16,668 คน พระภิกษุ 8 รูป สำหรับการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น จังหวัดศรีสะเกษได้ประกาศให้พื้นที่ตำบลเสาธงชัย หมู่ที่ 2 3 9 10 12 13 และตำบลรุง หมู่ที่ 5 7 10 อำเภอกันทรลักษ์ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (ภัยอันเนื่องจากกองกำลังจากนอกประเทศ) พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดศรีสะเกษ ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ รวมถึงศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของที่จะนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้จังหวัดศรีสะเกษ ได้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ แก่ผู้ประสบภัยแล้ว 260,000 บาท แยกเป็น เงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต 50,000 บาท เงินชดเชยค่าบ้านที่เสียหายทั้งหลัง จำนวน 7 หลังๆ ละ 30,000 บาท เป็นเงิน 210,000 บาท ซึ่งจะได้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป ตลอดจนมอบผ้าห่มกันหนาวแก่ผู้ประสบภัยแล้ว 6,970 ผืน นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานในเบื้องต้นว่าผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดน ทำให้ ต้องอพยพราษฎรในพื้นที่อำเภอกาบเชิง และอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 2,800 คน และราษฎรในพื้นที่อำเภอน้ำขุ่น อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 3,650 คน ไปอาศัยยังจุดรองรับผู้อพยพของจังหวัด ส่วนสถานการณ์ชายแดนในจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด ยังไม่มีข้อมูลการปะทะหรือการอพยพราษฎรแต่อย่างใด
“สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะดังกล่าว ปภ. ได้สนับสนุนการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกและให้บริการแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้ รถยนต์ผลิตน้ำดื่ม 4 คัน รถบรรทุกน้ำ 7 คัน ถังน้ำ 6,000 ลิตร 7 ใบ เพื่อให้บริการน้ำดื่มสะอาดสำหรับใช้อุปโภคบริโภคแก่ผู้อพยพ รถไฟฟ้าส่องสว่าง 2 คัน รถบรรทุกเล็ก 4 คัน รถตู้ 2 คัน สำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน และเต้นท์สนาม(ขนาด 5 คน รวม 300 หลัง ขนาด 10 คน รวม 10 หลัง เพื่อให้ผู้ประสบภัยใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะยุติ รวมถึงถุงยังชีพ 2,000 ชุด สำหรับแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานสั่งการให้ศูนย์ ปภ.เขต และ ปภ.จังหวัดใกล้เคียงสนับสนุนรถยนต์ เครื่องจักรกลและวัสดุอุปกรณ์สำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแก่จังหวัดที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และอุบลราชธานี”
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th