"มันแปลกดีนะ”จับมือ ช่างภาพรางวัลระดับโลกชาวไทย พิสูจน์ข่าวดัง ปาฎิหาริย์ดวงไฟคล้ายจตุคามฯ ที่แท้เกิดขึ้นได้ จากแสงแฟลชตกกระทบละอองฝุ่น/ ละอองน้ำ

ข่าวทั่วไป Thursday June 21, 2007 14:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--จีเอ็มเอ็ม ทีวี
รายการ “มันแปลกดีนะ” ร่วมกับช่างภาพรางวัลระดับโลกชาวไทย ท้าพิสูจน์ ที่มาของปาฏิหาริย์ดวงไฟลักษณะกลม ที่ทุกคนลงความเห็นว่าภายในดวงไฟนั้น มีลักษณะใกล้เคียงกับเหรียญจตุคามรามเทพที่เป็นข่าวดังตลอดเดือนที่ผ่านมา โดยช่างภาพชั้นเซียนเผยความจริงว่า ภาพดวงไฟดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ หากสถานที่นั้นๆ มีละอองน้ำหรือหมอก รวมถึง ฝุ่นละออง และผู้ถ่ายภาพใช้กล้องดิจิตอลที่เลนส์และแฟลชอยู่ในระนาบเดียวกัน ก็สามารถทำให้เกิดดวงไฟดังกล่าวในภาพได้อย่างง่ายดาย พร้อมเปิดใจ การออกมาพิสูจน์ในครั้งนี้มิได้คิดลบหลู่ เพราะส่วนตัวก็นับถือองค์จตุคามรามเทพมาร่วม 20 ปี แต่ในฐานะช่างภาพมืออาชีพที่มีความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพจึงต้องการนำเสนอความจริง เพื่อเป็นความรู้และให้ผู้ที่นับถือองค์จตุคามรามเทพไม่นับถืออย่างงมงาย
วานนี้ เวลาประมาณ 20.00 น. ณ ตึก จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส รายการ “มันแปลกดีนะ”ผลิตโดย บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด โดยพิธีกร “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์”และ “นายวรนันท์ ชัชวาลทิพากร” ช่างภาพอาชีพชาวไทย ที่มีชื่อเสียงและได้รับรางวัลระดับโลกมามากมาย พร้อมด้วยทีมงานและผู้สื่อข่าว ได้เดินทางมาที่ ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส เพื่อถ่ายทำรายการ “มันแปลกดีนะ” ในช่วง “ไขปริศนาจตุคามรามเทพ”ซึ่งเป็นช่วงหนึ่งในรายการที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับจตุคามรามเทพโดยละเอียด และในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนนี้ จะนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับ ภาพถ่ายปาฏิหาริย์เกี่ยวกับ ดวงไฟที่มีลักษณะคล้ายกับเหรียญจตุคามรามเทพ ที่ประชาชนหลายต่อหลายคนถ่ายได้จากงานประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับการสร้างองค์จตุคามรามเทพตามสถานที่ต่างๆ โดยทาง นายวรนันท์ ได้กล่าวว่า ภาพดวงไฟที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นได้ หากในสถานที่นั้นๆ มีฝุ่นหรือละอองน้ำกระจายตัวอยู่ ทั้งที่เห็นและไม่เห็นด้วยตาเปล่า และมักจะเกิดขึ้นกับภาพถ่ายที่ถ่ายโดยกล้องดิจิตอล ที่มีเลนส์และแฟลชอยู่ในระนาบเดียวกัน เนื่องจากระยะสะท้อนของแฟลชนั้น ทำให้เห็นได้ชัดเจนกว่า ซึ่งทฤษฎีดังกล่าวสามารถพิสูจน์ได้ โดยอุปกรณ์ในการพิสูจน์นั้น จะประกอบไปด้วย ห้องที่ผนังเป็นสีเข้มเพื่อให้เห็นดวงไฟได้ชัดเจน, ฝุ่นช็อก , กระบอกฉีดน้ำ, กล้องถ่ายภาพแบบดิจิตอล, กล้องถ่ายภาพแบบซิงเกิ้ลเลนส์, คอมพิวเตอร์
จากนั้นทีมงานรายการก็ได้ให้ “กฤษณ์”พิธีกรรายการไปยืนในเฟรมภาพ จากนั้นนำกระบอกฉีดน้ำให้เป็นละออง รอสักพักให้ละอองน้ำกระจายตัว นายวรนันท์ได้ใช้กล้องดิจิตอลลองถ่าย ก็ปรากฏภาพดวงไฟกลมๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงเหรียญจตุคามรามเทพที่เป็นข่าวขึ้นอยู่เต็มภาพ จากนั้น จึงพิสูจน์ด้วยฝุ่นชอล์ค โดยให้ “กฤษณ์” เข้าไปยืนในเฟรมภาพเหมือนเดิม และให้ทีมงานทำฝุ่นชอล์คให้กระจายตัวด้านหน้ากล้อง รอสักพักให้ฝุ่นชอล์ กสลายตัว และถ่ายภาพ ภาพกฤษณ์ที่ได้ ก็มีภาพดวงไฟปาฏิหาริย์ย์ดังกล่าวติดมาด้วยเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน แต่เมื่อนำกล้องประเภทซิงเกิ้ลเลนส์มาถ่ายภาพ บางภาพก็เห็นดวงไฟบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะไม่เห็นเลย ซึ่งก็เป็นไปตามทฤษฏีที่นายวรนันท์กล่าวไว้ข้างต้นว่า ดวงไฟที่เกิดขึ้นนั้น แท้ที่จริงแล้วเกิดขึ้นจากแสงแฟลชที่ทำมุมพอดีกับละอองฝุ่น หรือละอองน้ำในอากาศ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า เป็นทฤษฏีทางการถ่ายภาพ ที่เคยถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆที่ปัจจัยเอื้ออำนวย และเกิดภาพลักษณะดังกล่าวมาหลายต่อหลายครั้ง จึงนำมาบอกกล่าวและพิสูจน์ให้เห็นกัน ซึ่งผู้ที่ถ่ายภาพและติดดวงไฟลักษณะนี้มานั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นความบังเอิญที่ในบริเวณนั้นมีละอองฝุ่น หรือละอองน้ำกระจายตัวอยู่และมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อถ่ายภาพและใช้แฟลชจึงเกิดดวงไฟดังกล่าวขึ้นในภาพ และเมื่อผู้สื่อข่าวได้ถามถึงผู้บูชาจตุคามฯจะต่อต้านและออกมาต่อว่าว่าการออกมาพิสูจน์ใน
ครั้งนี้เป็นการลบหลู่ นายวรนันท์กล่าวว่า โดยส่วนตัวก็นับถือองค์อตุคามรามเทพเช่นเดียวกัน โดยนับถือมาร่วม 20 ปี ซึ่งการออกมาบอกเล่าความจริงและพิสูจน์ในครั้งนี้ ถือเป็นคนละเรื่องกัน การพิสูจน์ในครั้งนี้ถือเป็นการทำหน้าที่ในฐานะช่างภาพ ที่เมื่อเรามีความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพ และเรารู้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร เราก็ควรจะออกมานำเสนอเพื่อประโยชน์แก่ผู้ชม นอกจากนี้ ยังต้องการให้ผู้ที่นับถือองค์จตุคามรามเทพนั้น นับถืออย่างมีสติไม่งมงาย เมื่อกล่าวจบ นายวรนันท์ก็ได้ล้วงไปหยิบสร้อย ซึ่งห้อยเหรียญจตุคามรามเทพ รุ่นปี 32 ออกมาให้กฤษณ์ได้ชมอีกด้วย
ส่วนพิธีกรรายการ “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์”ได้กล่าวถึงการพิสูจน์ในครั้งนี้ว่า “ผมได้ถ่ายทำรายการ “มันแปลกดีนะ” ในช่วง “ไขปริศนาองค์จตุคามรามเทพ” มาหลายเดือนแล้ว และได้รับความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และที่มาของการสร้างองค์จตุคามฯอย่างละเอียด ได้มีโอกาสลงไปดูการเก็บมวลสารในการสร้างจตุคามฯถึงสำนักเขาอ้อ จ.พัทลุง ก็รู้สึกทึ่งนะครับ แต่ในความทึ่งในบางเรื่องที่พิสูจน์ได้ ก็อยากจะพิสูจน์ให้ทุกๆคนได้เห็น อย่างเรื่องการดูของจริงของปลอมก็มีการนำเสนอไปแล้ว วันนี้จึงมาพิสูจน์เรื่องของดวงไฟในสถานที่ต่างๆ ที่ทุกคนลงความเห็นว่า คล้ายคลึงกับเหรียญจตุคามฯ พอพี่วรนันท์บอกว่าเกิดขึ้นจากอะไร และยินดีที่จะพิสูจน์ในรายการ เราก็ตัดสินใจถ่ายทำทันที ซึ่งส่วนตัวผมเคยถ่ายภาพและติดดวงไฟลักษณะนี้มาแล้ว ตอนไปเที่ยวทางภาคเหนือ ตอนนั้นก็ยังงงๆนะครับไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร แต่พอได้มาพิสูจน์ในวันนี้ก็ทำให้ถึงบางอ้อครับ และการพิสูจน์ในครั้งนี้ ทางรายการมิได้ตั้งใจจะลบหลู่หรือทำลายความเชื่อถือ เราทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง และนำเสนอเป็นแง่มุมความรู้ให้กับผู้ชม ซึ่งการจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ชมเองครับ”
ส่วนข้อซักถามเกี่ยวกับ ดวงไฟกลมๆ ว่าเพราะเหตุใดจึงมีทรงกลม และทำไมจึงมีลวดลายภายในใกล้เคียงกับเหรียญจตุคามฯนั้น ทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามได้ยัง ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิทยาศาสตร์สังกัด สวทช.(สำนักงานวิทยาศาสตร์แห่งชาติ) จึงได้คำตอบมาว่า จริงๆแล้วรูปทรงของโมเลกุลของฝุ่นนั้น มีทั้งเป็นเหลี่ยมและกลม แล้วแต่ชนิดของฝุ่น แต่หากมองด้วยตาเปล่าแล้ว ละอองฝุ่นจะมีลักษณะสัญฐานเป็นจุดๆ และกล้องถ่ายรูปไม่ใช่กล้องขยาย เมื่อถ่ายภาพออกมาจึงเห็นแต่สัญฐานของฝุ่นคือทรงกลมเท่านั้น ส่วนที่เห็นว่าเป็นลายนั้น เกิดขึ้นจากมวลของฝุ่น ที่มีความหนาแน่นไม่สม่ำเสมอ ประกอบกับการหักเหของแสงแฟลชที่มาตกกระทบไม่เท่ากัน จึงทำให้เห็นเหมือนเป็นลวดลายดังกล่าว
นายวรนันท์ ชัชวาลทิพากร ปัจจุบันอายุ 53 ปี เป็นช่างภาพอาชีพมากว่า 20 ปี มีผลงานที่ได้รับเกียรติบัตรและเกียรตินิยมชั้นสูงจากสมาคมถ่ายภาพมาแล้วทั่วโลก อาทิ F.RPS (ชั้นเฟลโลว์ของสมาคมถ่ายภาพหลวงของประเทศอังกฤษ) , P.S.A.DIAMOND GALAXY (ชั้นไดมอนด์กาแล็กซี่ของสมาคมถ่ายภาพสหรัฐอเมริกา) นอกจากนี้ยังมีผลงานภาพถ่ายในหนังสือสำคัญๆ มากมาย อาทิ มรดกโลกอยุธยา เฉลิมกาญจนาภิเษก ราชอาณาจักรไทย 50 ช่างภาพ บันทึกแผ่นดินทองฉลองกาญจนาภิเษก, ทฤษฎีใหม่ในหลวง
: ชีวิตที่พอเพียง, สมุดภาพแห่งกรุงเทพมหานคร 220 ปี, สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯลฯ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษากิตติมาศักดิ์สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, ที่ปรึกษากิตติมาศักดิ์สมาคมถ่ายภาพสยามคัลเลอร์สไลด์, ที่ปรึกษาสมาคมถ่ายภาพกรุงเทพ, ที่ปรึกษาสมาพันธ์การ ถ่ายภาพไทย
ส่วนเรื่องราวการพิสูจน์ดวงไฟปริศนานี้ ทางรายการ “มันแปลกดีนะ” จะนำเสนอในช่วง “ไขปริศนาจตุคามรามเทพ” ในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนนี้ เวลา 14.00-15.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ