กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--กทม.
เผยบริการสาธารณสุขยุคใหม่ของกรุงเทพมหานคร เน้นบริการเชิงรุกครอบคลุมประชาชนชาวกรุงเทพฯ ทุกกลุ่มเป้าหมาย อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ย้ำการป้องกันควบคุมโรคดีกว่ารักษาพยาบาล ส่งเสริมความรู้ด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน มุ่งเป้าประชาชนดูแลสุขภาพตนเองได้ก่อนส่งต่อถึงมือแพทย์
วันนี้ (3 พ.ค.50) ที่ห้องประชุม (ชั้น 6) อาคารเพชรรัตน์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงนโยบายด้านการสาธารณสุขเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นนโยบายด้านการสาธารณสุขแนวใหม่ของกรุงเทพมหานคร ให้แก่ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี บุคลากรด้านการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร และประชาชนนับพัน ร่วมรับฟังนโยบายดังกล่าว
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้กำหนดวิสัยทัศน์การพัฒนาสู่ความเป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ชุมชนเข้มแข็ง
ครอบครัวอบอุ่น ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม โดยได้กำหนดทิศทางการพัฒนากทม. ตามหลักสมดุล 4 มิติ ประกอบด้วย มิติด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นให้คนกรุงเทพฯ มีชีวิตภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี มิติด้านวัฒนธรรม มุ่งเน้นให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่ลงตัวทั้งความเป็นไทยในความเป็นสากล มิติด้านเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการเป็นศูนย์กลางแห่งเศรษฐกิจที่สมดุลภายใต้พื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง และมิติด้านคุณภาพชีวิต มุ่งเน้นให้คนกรุงเทพฯ มีความสุขอย่างพอเพียงมีความมั่นคงและปลอดภัยในการดำรงชีวิต ได้รับความสะดวกในการจราจรขนส่ง ปลอดจากปัญหาน้ำท่วม เข้าถึงบริการพื้นฐานได้อย่างทั่วถึงทั้งด้านการศึกษา การแพทย์และสาธารณสุข กีฬาและนันทนาการ การบริการที่ดีของสำนักงานเขต เป็นต้น
นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับบริการด้านสาธารณสุขซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายด้านคุณภาพชีวิตนั้น กรุงเทพมหานครได้มีนโยบายปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการด้านการสาธารณสุขแนวใหม่ โดยมีแนวทางการทำงาน 3 แนวทาง ประกอบด้วย การให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในเขตเมืองของกรุงเทพฯ ได้แก่ จัดบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขแบบผสมผสาน ทั้ง การออกหน่วยบริการสาธารณสุขเชิงรุกแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ โดยเน้นการป้องกันโรคมากกว่าการรักษาพยาบาล พร้อมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ จัดบริการด้านสุขภาพในสวนสาธารณะ ติดตามสถานการณ์เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรคทั่วกรุงเทพฯ ขยายและพัฒนาศูนย์สุขภาพชุมชนเพื่อให้บริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกช่วงวัย พัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัดให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครฯ เป็นศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์อุบัติเหตุ ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลกลาง เป็นศูนย์จักษุ โรงพยาบาลตากสิน เป็นศูนย์เวชศาสตร์มารดาและทารก โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เป็นศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและเวชศาสตร์ฟื้นฟู ศูนย์ตรวจวินิจฉัยและรักษาด้วยกล้องส่อง เป็นต้น และในอนาคตจะจัดสร้างศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุในพื้นที่เขตบางขุนเทียน นอกจากนี้ได้สร้างระบบการประสานงานและความร่วมมือของสถานพยาบาลต่างสังกัด เป็นเครือข่ายความร่วมมือด้านการสาธารณสุข เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน และจัดสร้างหน่วยบริการแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency Medical service: Bangkok EMs) อย่างมีคุณภาพครอบคลุม ทั่วถึง 50 เขต
ส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ เช่น ลดมลภาวะด้านต่างๆ ทั้งอากาศ น้ำ และเสียง การควบคุมคุณภาพอาหารและน้ำดื่ม โดยการประสานงานใกล้ชิดกับสำนักงานอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เพื่อคุมครองผู้บริโภคในกรุงเทพฯ จัดทำศูนย์ศึกษาชีวิต กทม. (Life Education Center) เพื่อให้เด็กและผู้สนใจมีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับสรีระและระบบการทำงานของร่างกายมนุษย์ และการดำเนินงานแก้ไขปัญหาสาธารณสุขเร่งด่วนเฉพาะด้าน เช่น การแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง จัดตั้งคลินิกสุขภาพจิต ประสานงานเครือข่ายสุขภาพจิตกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข