รัฐประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาเด็กตั้งครรภ์ไม่พร้อม ย้ำ ๘ หน่วยงานหลัก เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ สู่ภาคปฏิบัติ

ข่าวทั่วไป Monday February 21, 2011 11:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--สป.พม. ‘อภิสิทธิ์’ เดินหน้าประกาศขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อมสู่ภาคปฏิบัติ ย้ำทุกหน่วยงาน เร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่เด็กและเยาวชน พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการร่วมกัน วันนี้ (๒๑ ก.พ.๕๔) เวลา ๐๘.๑๕ น.ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดพิธีเปิดการมอบนโยบายการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายแก่คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางและหน่วยงานภาคเอกชน รวมจำนวน ๑,๐๐๐ คน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม เป็นปัญหาหนึ่งที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอของสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และกลไกการควบคุมจากสังคม ซึ่งเป็นผลให้เด็กและเยาวชนมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรจนนำไปสู่การตั้งครรภ์ไม่พร้อม จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า เด็กและเยาวชน อายุระว่าง ๑๕ — ๑๙ ปี ของไทยที่คลอดบุตรมีจำนวนสูงเกินกว่าเกณฑ์ของระดับเอเชียและระดับโลก จำนวนมากเกิดจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และในกลุ่มอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี ก็เชื่อว่ามีสถิติการตั้งครรภ์ที่เกิดจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ด้วยเช่นกัน ซึ่งนำมาสู่ปัญหาการทำแท้ง รัฐบาลรับทราบและตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ จึงมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะกระทรวงเจ้าภาพในงานด้านสังคม ไปบูรณาการกำหนดวิธีการแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นที่มาของการจัดทำยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม เพื่อให้ทุกส่วนราชการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ฯ โดยให้ความรู้และสร้างความตระหนักแก่เด็กและเยาวชน ครอบครัว ชุมชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการที่จะป้องกันปัญหาเด็กและเยาวชน มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งอาจนำไปสู่การตั้งครรภ์ไม่พร้อม หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการคุมกำเนิด นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในการดำเนินตามยุทธศาสตร์ฯ ขอให้แต่ละส่วนราชการเร่งดำเนินการ ดังนี้ กระทรวงศึกษาธิการ จัดระบบให้แม่วัยเยาว์ที่คลอดบุตรแล้วได้กลับมาเรียนต่อ และพัฒนาหลักสูตรการสอนวิชาเพศศึกษาให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละช่วงวัย กระทรวงแรงงาน ช่วยให้แม่วัยเยาว์ได้รับการอบรมวิชาชีพและจัดหางานให้ทำ รวมทั้งควรมีการพัฒนาฝีมือแรงงานให้กลุ่มแม่วัยเยาว์เป็นแรงงานที่มีทักษะและแรงงานที่มีคุณภาพในอนาคต กระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้เรื่องสุขภาวะทางเพศ หรือการจัดบริการให้คำปรึกษาในรูปแบบต่างๆ กระทรวงวัฒนธรรม ดูแลในเรื่องมิติทางสังคมและวัฒนธรรมไทย เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความเป็นไทย รักนวลสงวนตัว กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตรวจสอบเรื่องการเผยแพร่รูปภาพ คลิป เว็ปไซต์ ที่เกี่ยวกับเรื่องเพศที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อประเภทต่างๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจตราสถานที่เสี่ยงสำหรับเด็กและเยาวชน และเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน กระทรวงมหาดไทย ผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งทั่วประเทศ ร่วมดำเนินการตามยุทธศาสตร์ เพื่อลดปัญหาเด็กและเยาวชนในแต่ละพื้นที่ ให้ได้ผลอย่างจริงจัง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ดูแลกลุ่มเด็กและเยาวชนนอกสถานศึกษา โดยส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ เข้าไปพบปะให้คำปรึกษาและประเมินสภาวะเพื่อวางแนวทางในการให้ความช่วยเหลือแม่วัยเยาว์และครอบครัว ประสานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในระดับจังหวัดและชุมชน เช่น สภาเด็กและเยาวชนระดับตำบล และศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน ร่วมเป็นกลไกขับเคลื่อน ในส่วนของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด ให้จัดทำกิจกรรมและโครงการ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ฯ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้มีแผนปฏิบัติการระยะสั้น ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ — เมษายน ๒๕๕๔ และรายงานผลมายังคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ภายในเดือนพฤษภาคม เพื่อให้มีผลการสร้างกระแสสังคมในภาพรวมทั่วประเทศ ให้เกิดความตระหนักเพื่อป้องกัน ดูแล บุตรหลานมิให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ทั้งนี้ จะจัดให้มีเวทีในการติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดตามยุทธศาสตร์ฯนี้ และจะได้มอบหมายให้คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติวางระบบการติดตามและรายงานผลการดำเนินงานให้รัฐบาลทราบอย่างต่อเนื่อง นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะเจ้าภาพหลักในการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานและจัดทำร่างยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกันของภาคีเครือข่าย และเพื่อเป็นการยกระดับความสำคัญของการปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมให้เป็นที่ตระหนักในสังคม และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากทุกส่วนราชการ รวมทั้งในระดับจังหวัด และหน่วยงานภาคเอกชน ภาคประชาชน ได้ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และนำไปปฏิบัติเป็นภารกิจเร่งด่วน จึงจัดให้มีการมอบนโยบายการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวันนี้ โดยเรียนเชิญนายกรัฐมนตรี มามอบนโยบายแก่คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางและหน่วยงานภาคเอกชน รวมจำนวน ๑,๐๐๐ คน นายอิสสระ กล่าวต่อว่า ในส่วนภารกิจของกระทรวงฯ มีนโยบายให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่คลอดบุตร โดยแบ่งเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ อายุต่ำกว่า ๑๕ ปี ,๑๕-๑๘ ปี ,๑๙-๒๐ ปี และรวบรวมข้อมูลเด็กและเยาวชนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศและมีการตั้งครรภ์ จากนั้นจัดประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด เพื่อให้รับทราบสถานการณ์ปัญหาและแนวทางในการป้องกัน รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการระยะสั้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ — เดือนเมษายน ๒๕๕๔ ที่สำคัญคือการขยายระบบงานลงสู่ชุมชน โดยอาจนำร่องในแต่ละอำเภอหรือปูพรมทั้งจังหวัด เมื่อพบเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม ให้มีการส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ เข้าไปให้คำแนะนำ ประเมินสภาวะเพื่อให้การช่วยเหลือแม่วัยเยาว์และครอบครัว โดยขอเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ เนื่องจากเป็นกลไกที่อยู่ใกล้ตัวเด็กมากที่สุด รวมทั้งขอให้ทุกจังหวัดเร่งจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนระดับตำบล ให้ครอบคลุมทุกตำบล ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ ๓,๓๓๕ แห่ง จากจำนวนตำบลทั่วประเทศ ๗,๒๕๕ ตำบล คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๙๗ โดยใช้องค์กรนี้ให้มีบทบาทร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ร่วมกับอีกหนึ่งกลไกคือ ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน ซึ่งจะเป็นด่านแรกที่จะพบแม่วัยเยาว์และให้คำแนะนำช่วยเหลือได้ “ยุทธศาสตร์ฉบับนี้ เป็นกรอบแนวคิดที่ใช้ในการดำเนินการระดับประเทศ ระดับจังหวัด และในชุมชน เมื่อทุกระดับมีกรอบแนวคิดและทิศทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเหมือนกัน การแก้ไขปัญหาจะตรงจุดตรงประเด็น ความรุนแรงของปัญหาจะลดลง เนื่องจากเด็กและเยาวชนได้รับการคุ้มครองดูแลจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ จะจัดให้มีการประชุมเพื่อบูรณาการ และรวบรวมกิจกรรมหรือโครงการที่จัดทำโดยหน่วยงานในส่วนกลาง ในต้นเดือนมีนาคมนี้ ” นายอิสสระ กล่าว.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ