กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--ปตท.
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่สถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส (Moody’s Investors Service) ประกาศปรับลดเครดิตเรตติ้ง หรืออันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินสำหรับการออกตราสารสกุลเงินต่างประเทศ (PTT’s issuer and foreign currency bond ratings) ของ ปตท. จากระดับ A3 ลงมาอยู่ที่ระดับ Baa1 โดยยังคงมุมมองความมีเสถียรภาพทางด้านการเงินของ ปตท. (Stable outlook) ว่า การที่เครดิตเรตติ้งของ ปตท. ยังคงอยู่ในระดับที่สูงเท่ากับระดับของประเทศนั้นก็บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานของ ปตท. ที่ปรับดีขึ้นมาก ดังจะเห็นได้จากกำไรสุทธิในรอบเก้าเดือนของปี 2553 ที่ 61,410 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2552 ที่ 59,548 ล้านบาท นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2553 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมทั้งปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับสาเหตุที่ มูดีส์ ตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ ปตท. ในครั้งนี้ เนื่องจากภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากแผนการลงทุนที่มีมูลค่าสูงของ ปตท. และ ปตท.สผ. นั้น ปตท. มีการบริหารการเงินภายใต้กรอบวินัยทางการเงินที่เข้มงวด และเชื่อมั่นว่า แผนการลงทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว นอกจากจะสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศแล้ว ยังเป็นโครงการที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและสร้างความเติบโตในระยะยาวให้กับกลุ่ม ปตท.
ทั้งนี้ การลดอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินในปัจจุบัน สำหรับการจัดหาเงินทุนในอนาคต ต้นทุนทางการเงินจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด ซึ่ง ปตท. จะพิจารณาแนวทางที่มีผลกระทบน้อยที่สุด