กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนในภาคะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วงระยะ1 - 2 วันนี้ ( วันที่ 6-8 ก.ค. 2550 ) พร้อมประสานผู้ว่าราชการจังหวัดให้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด24ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนประชาชน และเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือ รวมทั้งอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในระยะนี้อาจมีฝนตกหนัก เนื่องจากมีพายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ ซึ่งเคลื่อนตัวไปทางเหนือค่อนตะวันตก ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรงส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก มีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด รวมทั้งประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและอันตรายที่เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งดินโคลนถล่มตามแนวเชิงเขา ส่วนชาวเรือให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-3เมตร และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 6-8 สิงหาคม 2550 เบื้องต้นกรมป้องกันฯ ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสั่งการไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 — 12 พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และคลื่นลมแรงขึ้นในระหว่างวันที่ 6-8 สิงหาคม 2550 พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมเครื่องจักรกล ยานพาหนะและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆเพื่อช่วยเหลือประชาชนและขอประชาชนให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศแจ้งเตือน ให้เตรียมขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของขึ้นที่สูงและเตรียมการอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย สุดท้ายนี้ประชาชนพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อได้ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ปภ.เขตและสำนักงาน ปภ.จังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบหรือสายด่วนสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด24 ชั่วโมงเพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป