กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--พีอาร์ 360 องศา
คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์เชิญชมการแสดงของคนรุ่นใหม่ในสองรั้วมหาวิทยาลัย ที่รวมพลังสืบสานศิลปการแสดงไทยที่กำลังจะหาย มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตกับ“หนังใหญ่” มหรสพหลวงที่เป็นต้นแบบหนึ่งของศิลปการแสดงไทย และมหาวิทยาลัยเกริกกับ “เพลงนา จังหวัดชุมพร” บทเพลงพื้นบ้านเฉพาะถิ่นวิถีชีวิตชาวนา ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในรายการไทยโชว์ ตอน ม.มิตรวัฒนธรรม วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2554 เวลา 18.00 น. ทางทีวีไทย
นับเป็นอีกหนึ่งโชว์สร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ในรั้วสถาบันระดับอุดมศึกษาที่รายการไทยโชว์ภูมิใจนำเสนอครับ เพราะเป็นโชว์ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันศึกษาค้นคว้าถึงแก่นศิลปการแสดงไทยแบบลึกซึ้งของสองมหาวิทยาลัยเอกชน เริ่มจากมหาวิทยาลัยเกริก ลงพื้นที่ไปศึกษาเรื่องเพลงนากับครูสพรั่ง ยินดี หรือในวงการศิลปินพื้นบ้านจะรู้จักกันดีในนาม มโนราห์สพรั่ง สวีศิลป์ ที่ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ส่วนมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ไปที่อัมพวาเพื่อไปศึกษาการเชิด “หนังใหญ่”กับพ่อครูสมพร เกตุแก้ว ฉายาพญาซอ ปราชญ์ศิลปินพื้นบ้านแห่งบางคนฑี อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการเล่าที่มาของโชว์ครั้งนี้ให้ฟัง
ทั้งสองมหาวิทยาลัยไม่ได้เรียนรู้แล้วมานำเสนอทั้งดุ้นนะครับ เขานำมาสร้างสรรค์ในมุมมองใหม่ อย่างหนังใหญ่เขาหยิบเอาตอน จับลิงหัวค่ำมาปัดฝุ่นนำเสนอ เป็นหนังใหญ่ที่ไม่ต้องตั้งฉากหรือขึงจอหนัง แต่งแต้มสีสันใหม่บนตัวหนังให้แปลกแตกต่าง เดิมจับลิงขาวลิงดำก็มาเป็นจับลิงหมู่แบ่งเป็นสองฝ่ายเพื่อเพิ่มพลังความยิ่งใหญ่ จับเรื่องตอน หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา มานำเสนออย่างกระชับฉับไว ระหว่างเชิดหนังใหญ่ก็สลับฉากนำโขนตัวลิงกับตัวนาง และหุ่นกระบอกคนมาสลับเล่าเรื่องราวสร้างความหลากหลายน่าชม ซึ่งพ่อครูสมพร เกตุแก้วบอกว่า “เด็กๆนักศึกษาเขานำหนังใหญ่ที่ถ่ายทอดแบบดั่งเดิม มาสร้างสรรค์ต่อยอดเอง ซึ่งมองว่าทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น ดีกว่าไม่ทำอะไรแล้วปล่อยให้สูญหาย คือของเก่าก็ต้องเรียนรู้ไว้” อาจารย์ชนะ กล่ำกระโทก ศูนย์วัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เสริมว่า “เราต้องการนำเสนอให้คนรุ่นใหม่สนใจ หากใครสนใจอยากดูหนังใหญ่แบบดั้งเดิมก็สามารถไปดูได้ที่วัดขนอน ราชบุรี, วัดบ้านดอน ระยอง และวัดสว่างอารมณ์ สิงห์บุรี”
ส่วนการแสดงของมหาวิทยาลัยเกริกนั้น เกิดจากการลงภาคสนามจริงๆ ของ อาจารย์ศรุต แจ้งอนันต์ ศูนย์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเกริก กับคณาจารย์ น้องๆนักศึกษา แล้วจึงมานำเสนอ สื่อให้เห็นถึงการถ่ายทอดศิลปะระหว่างคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่บนเวทีไทยโชว์เลยครับ เริ่มจาสาธิตการทำขวัญข้าวไหว้แม่โพสพของ ครูสพรั่ง ยินดีที่เมตตาเดินทางมาที่สตูดิโอ พร้อมยกข้าวของเซ่นไหว้บูชามาทำพิธีกันจริงๆ ซึ่งปกติในอดีตเขาทำกันที่คันนาช่วงเวลาข้าวออกรวงครับ จากนั้นเขาสู่ช่วงสาธิตเพลงนา แบบฉบับจังหวัดชุมพร ซึ่งสมัยก่อนมีคำกล่าวว่า “มวยดีไชยา เพลงนาชุมพร” โดยครูสพรั่ง ยินดี เป็นหัวไฟ หรือพ่อเพลง และนักศึกษามหาวิทยาลัยเกริกเป็นท้ายไฟ หรือลูกคู่ เริ่มสาธิตจากไหว้ครู ชมโฉม ฝากรัก และจบด้วยจากลา ในอดีตที่ชุมพรเขาจะร้องกันช่วงลงแขกเกี่ยวข้าว ตั้งแต่เช้าจนพลบค่ำ รูปแบบวาระโอกาสในการร้องเหมือนกับเพลงพื้นบ้านภาคกลางอย่างเพลงเกี่ยวข้าว,เต้นกำ แต่สำเนียงเสียงร้องท้องถิ่น ผมฟังดูแล้วมีความคล้ายเพลงเรือ ของกระบุรี และเพลงบอก ของนครศีธรรมราช ที่รายการไทยโชว์เคยนำเสนอครับ
ม. มิตรวัฒนธรรม ที่รายการไทยโชว์นำเสนอน่าจะจุดประกายความคิดให้อีกหลายสถาบันการศึกษา ได้รวมตัวกันเพื่อศึกษาค้นคว้าศิลปการแสดงไทยกันแบบถึงรากแท้ แล้วนำมาต่อยอดสร้างสรรค์ผลงานเพิ่มมูลค่าให้คนรุ่นใหม่ยอมรับและสนใจ รักษาให้คงอยู่ต่อไปครับ คมสันต์ สุทนต์ พูดปิดท้ายโชว์
พลาดไม่ได้ ชมรายการไทยโชว์ตอน รายการไทยโชว์ ตอน ม.มิตรวัฒนธรรม วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2554 เวลา 18.00 น. ทางทีวีไทย ชมรายการไทยโชว์ย้อนหลังทาง www.thaipbs.or.th/Thaishow แนะนำโชว์ thaishow@thaipbs.or.th