กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--IR PLUS
TNDT มั่นใจปี 54 ธุรกิจกลับมาสดใสอีกครั้ง หลังนักลงทุนเริ่มเดินหน้าแผนการลงทุนรอบใหม่ หนุนงานที่ค้างในมือเริ่มทยอยรับรู้เป็นรายได้ ในขณะที่งานใหม่เริ่มกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง ส่วนเรื่องแผนงาน โกอินเตอร์ เห็นภาพชัดในไตรมาส 2/2554 หลังศูนย์ระยองช่วยเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ล่าสุดโชว์สปิริตปันผลงวดครึ่งปีหลังเพิ่มอีก 0.10 บ./หุ้น รวมจ่ายทั้งปี 0.20 บ./หุ้น
นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2554 ว่า มีโอกาสเติบโตได้อย่างชัดเจน หลังจาก พบว่าสัญญาณการลงทุนเริ่มกลับเข้ามาสู่ตลาดอีกครั้ง จากที่ชะลอไปเพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่นิ่ง ทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าลงทุนตามแผนงานที่วางไว้ โดยพบว่าขณะนี้งานเก่าที่ชะลอ การลงทุนเริ่มเดินหน้าลงทุนใหม่อีกครั้ง และงานใหม่ก็เริ่มไหลลงสู่ตลาด จึงเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯ อย่างชัดเจน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ มีงานในมือที่รอการส่งมอบให้กับลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถ รับรู้รายได้ตามกำหนดเดิมได้เพราะลูกค้าชะลอการส่งมอบงานออกไปก่อน ซึ่งหลังจากนี้คงเห็นความคืบหน้า ของการรับรู้รายได้ชัดเจนขึ้น
" ต้องยอมรับว่าในปีที่ผ่านมางานต่างๆ ที่ได้รับมาแล้วเลื่อนออกไปค่อนข้างมาก เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่นิ่ง ทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าลงทุน และกระทบรายได้ของบริษัทฯ แต่ปีนี้ ในไตรมาส 1 ยังไม่เห็นสัญญาณการเลื่อนของงานเลย สถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมามาก และจากงานในมือที่รอ รับรู้เป็นรายได้ ( Backlog) ที่บริษัทฯ มีอยู่แล้วจะทำให้แนวโน้มรายได้ในปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน " นางสาวชมเดือน กล่าว และว่า ในปี 2554 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปี 2553 ที่มีรายได้อยู่ที่ 244.016 ล้านบาท เพราะงานในมือที่มีอยู่กว่า 200 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย
ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทฯ ยังคงคาดว่า Net Profit Margin มีโอกาสทำได้มากกว่า 15% เพราะสามารถบริหารจัดการต้นทุนในการดำเนินงานได้ดี ส่วนศูนย์บริการทดสอบและตรวจสอบด้านวิศวกรรมบริการสาขา จังหวัดระยอง หลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและมีความพร้อมในการให้บริการลูกค้าได้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการติดต่องานกับลูกค้าในต่างประเทศ
สำหรับความคืบหน้าเรื่องการตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศลาวและประเทศเวียดนาม เพื่อเพิ่มสัดส่วนการรับงานในต่างประเทศให้เป็น 5% จากปัจจุบันที่ 2% นั้น กำลังอยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมายของประเทศต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าไม่เกินไตรมาส 2/2554 คงจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเงินลงทุนและรายละเอียดที่ชัดเจนของเรื่องดังกล่าว
ส่วนเรื่องผลตอบแทนที่มอบคืนกลับให้กับผู้ถือหุ้นในปีนี้นางสาวชมเดือนกล่าวว่า ยังคงมอบผลตอบแทนให้อย่างสม่ำเสมอ ตามนโยบายที่ให้ไว้ คือไม่น้อยกว่า40% ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทและตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าผลประกอบการในปี 2553 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 40.72 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 65.12 ล้านบาท โดยล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินผลปันงวดครึ่งปีหลัง (1 กรกฎาคม -31 ธันวาคม 2553)ในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น เพิ่มเติมจากครึ่งปีแรกที่จ่ายไปแล้วในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น รวมจ่ายทั้งปี 0.20 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็น 50% ของกำไรสุทธิ เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯ ยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก หลังจากที่ได้ลงทุนก่อสร้างศูนย์ให้บริการที่ จังหวัดระยองไปเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จึงสามารถจ่ายเงินปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราที่ดีขึ้นดังกล่าว ให้สมกับที่ผู้ถือหุ้นให้การสนับสนุนบริษัทฯ เป็นอย่างดีเสมอมา
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
IR PLUS : คุณปภาดา สุวรรณกูฏ (ตุ้ย) Tel. 02-5549396 E-mail :
[email protected]