ออฟฟิศ ดีโป เผยความสำเร็จปี 53 รายได้ทะลุศ 3,000 ล้านบาท ทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาทในปี 54 ด้วยยุทธศาสตร์แบบก้าวกระโดด

ข่าวทั่วไป Thursday March 3, 2011 15:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--ออฟฟิศ ดีโป ประเทศไทย ออฟฟิศ ดีโป เผยความสำเร็จปี 53 รายได้ทะลุศ 3,000 ล้านบาททุ่มงบกว่า 300 ล้านบาทในปี 54 ด้วยยุทธศาสตร์แบบก้าวกระโดด รุกเดินหน้าขยายธุรกิจในทุกมิติ เพิ่มการบริการรูปแบบใหม่ “Pay Per Print” เน้นลดต้นทุนองค์กรตอกย้ำโพสิชั่นนิ่งผู้นำค้าปลีกอุปกรณ์สำนักงาน คาดสิ้นปียอดโต 15% ออฟฟิศ ดีโป ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงานอันดับ 1 ของประเทศไทย เผยในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จโดยมีรายได้ทะลุ 3,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตกว่า 7 % แม้ภาพรวมเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมืองในเดือนพฤษภาคม 53 ทั้งนี้ มาจากการปรับใช้กลยุทธ์ไดเร็คเซลที่แยบยลในการเข้าถึงลูกค้า และการเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง สำหรับปี 54 ออฟฟิศ ดีโปตั้งงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ด้วยยุทธศาสตร์แบบก้าวกระโดด รุกเดินหน้าขยายธุรกิจในทุกมิติ เพิ่มการบริการรูปแบบใหม่ “Pey Per Print” หรือ “3P” เน้นลดต้นทุนให้กับองค์กร พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำค้าปลีกอุปกรณ์สำนักงาน คาดพิชิตเป้ายอดขาย 3,500 ล้านบาท เติบโต 15% นายสมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ออฟฟิซ คลับ (ไทย) จำกัด ผู้บริหาร “ออฟฟิศ ดีโป” ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงานอันดับ 1 ของประเทศไทย เปิดเผยว่า “ในปีที่ผ่านมา ออฟฟิศ ดีโป มีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 7 ซึ่งสูงกว่าอัตราของตลาดที่โตร้อยละ 5 โดยมีปัจจัยความสำเร็จมาจากการใช้แผนการตลาดที่แม่นยำ ด้วยการเน้นความแกร่งของกลยุทธ์การตลาดแบบไดเร็คเซล และการเปิดสาขาใหม่ที่อโศก และ ตะวันนาสแควร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แผนพัฒนาธุรกิจของออฟฟิศ ดีโป มีประสิทธิภาพที่สามารถเล็งเห็นทำเลการค้า และวิเคราะห์พื้นที่การเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการปรับภาพลักษณ์ของร้าน วางแผนผังของร้านใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Ink tech and paper depot” แบ่งแยกสินค้าหมึกพิมพ์ และกระดาษ อย่างชัดเจน เพิ่มความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมึกพิมพ์และกระดาษนั้นเป็นกลุ่มหมวดสินค้าขายดีอันดับต้นๆ ของเรา” ในส่วนแผนการดำเนินธุรกิจปี 2554 นี้ ออฟฟิศ ดีโป เตรียมงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ต่อยอดความสำเร็จด้วยการเดินหน้าเปิดสาขาใหม่อีก 5 สาขาในทำเลยุทธศาสตร์ รวมแล้วในปีนี้ออฟฟิศดีโป จะมีสาขารวม 36 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในกรุงเทพ และหัวเมืองใหญ่ อาทิ สาขาสิรินทร ฝั่งธนบุรี ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนมีนาคมนี้ ตลอดจนพื้นที่เขตมีนบุรี และ เขตบางนา พร้อมเปิดแฟลกชิปสโตร์อีก 1 สาขาที่พระรามเก้า โดยตั้งงบสำหรับการขยายสาขาไว้ที่ 200 ล้านบาท “ในปีนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าเราเร่งปรับกลยุทธ์การตลาดเข้มข้นกว่าเดิม หลังจากแผนการตลาดแบบไดเร็คเซลได้ผลอย่างยอดเยี่ยม โดยมุ่งเพิ่มสัดส่วนการขายผ่านช่องทางแบบ non retail : retail เป็น 50 ต่อ 50 ภายในปี 2556 พร้อมเพิ่มพูนศักยภาพความแข็งแกร่งของระบบโลจิสติกและการขนส่งสินค้าให้มีมากกว่ามาตราฐาน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข็งขันของออฟฟิศ ดีโป อย่างก้าวกระโดด พร้อมกันนี้ยังได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีล่าสุด e-procurement เข้ามาช่วยให้ระบบการจัดซื้อสินค้าแบบ B2B (Business to Business) และ B2C (Business to Customer) เป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวก ที่สำคัญช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย โปร่งใส และยังเข้าเช็คสถานะการสั่งและส่งสินค้าได้อย่างมีระบบ นอกจากนี้ e-procurement ยังสามารถแสดงและวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ตลอดจนองค์กรที่สั่งสินค้าได้อย่างถูกต้อง ทำให้ออฟฟิศ ดีโป สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง และลูกค้าเองยังสามารถประเมินปริมาณการสั่งซื้อ การใช้สินค้าของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมั่นว่ามีลูกค้าองค์กรให้ความสนใจเข้าร่วมในระบบ e-procurement อย่างมาก” นอกจากนี้ ในส่วนการให้บริการกับลูกค้าถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจออฟฟิศ ดีโป เราพยายามคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าของเรา และพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้เราได้เพิ่มการบริการรูปแบบใหม่ “Office Depot Pay Per Print” หรือ “3P” อีกหนึ่งของการให้บริการเพื่อลูกค้ากลุ่มองค์กรสำนักงาน มุ่งช่วยลดต้นทุนงานถ่ายเอกสาร และงานพิมพ์เอกสารในสำนักงาน สามารถลดต้นทุนได้สูงถึง 30% อีกทั้งไม่ต้องลงทุนค่าอุปกรณ์เครื่องพิมพ์ทั้งระบบ อาทิ เครื่องพิมพ์ ผงหมึก ตลับหมึก เป็นต้น การให้บริการในรูปแบบ “3P” นี้ ลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุด เพียงชำระค่าบริการงานถ่าย-พิมพ์เอกสารที่ใช้งานจริงเท่านั้น นอกจากนี้ลูกค้าไม่ต้องแบกรับภาระค่าบำรุงรักษาเครื่องตลอดอายุสัญญาโครงการ ซึ่งออฟฟิศ ดีโป ได้จัดทีมผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเป็นผู้จัดการดูแล และรักษาเครื่อง พร้อมจัดส่งวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของเครื่องถ่าย-พิมพ์ ให้ฟรีทุกเดือน สำหรับแผนการพัฒนาสินค้านั้น เราเตรียมเพิ่มรายการสินค้าเฮาส์แบรนด์ให้ครบครันและหลาก หลายกว่า 3,000 รายการในทุกหมวดสินค้า ซึ่งคาดว่าหลังจากที่มีการเพิ่มรายการสินค้าจะสร้างยอดขายกว่า 600 ล้านบาทในปีนี้ ในส่วนสินค้ากระดาษที่เป็น Flagship ของ Office Depot นั้น ในปีนี้มุ่งให้ความสำคัญกับกระดาษถ่ายเอกสาร โดยเน้นจุดขาย “กระดาษถ่ายเอกสาร Office Depot สามารถรองรับงานพิมพ์สองหน้า(duplex printing)” เพื่อช่วยให้ลูกค้าประหยัดต้นทุน และ ยังสนองตอบนโยบาย Office Depot Go Green อีกด้วย นอกจากสินค้าแบรนด์ Office Depot ที่เน้นสินค้าคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสมแล้ว เรายังได้ออกสินค้าแบรนด์ Value Choice เพิ่มขึ้นอีก 1 แบรนด์ ซึ่งเป็นสินค้าที่เน้นราคาถูกลงให้ลูกค้าประหยัดได้ทุกวันโดยมีคุณภาพที่เหมาะสมกับการใช้งาน จะเห็นได้ว่าแผนการพัฒนาสินค้าเฮาส์แบรนด์ในปีนี้ เราดำเนินการควบคู่ไปกับกลยุทธ์การลดต้นทุนให้ลูกค้าเป็นหลัก ด้านการทำกิจกรรมการตลาดส่งเสริมการขาย ในปีนี้ได้เตรียมงบการตลาดกว่า 100 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยใช้การตลาดแบบ above the line สร้างภาพลักษณ์และการรับรู้ให้กับหมายเลข 02 808 5555 Call Center หมายเลขใหม่ ผ่านสื่อมัลติมิเดียต่างๆ ในพื้นที่การตลาด เพื่อการสนับสนุน B2C (Business to Customer) ทำการตลาดแบบ E-Commerce ผสมผสานกับ Social Commerce ผ่าน Facebook เพื่อสร้าง Digital Content กับผู้บริโภคแบบต่อเนื่อง เป็น Online Network ที่มีสีสัน สดใส ทันสมัยมากขึ้น และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสนับสนุนงานด้านการตลาดและการขายของออฟฟิศ ดีโป พร้อมกันนั้นก็ใช้การตลาดแบบ below the line เข้าถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้นด้วยการจัดสัมมนาโรดโชว์ แนะนำสินค้า ตลอดจนการทำกิจกรรมทางการตลาดกว่า 40 รายการ ตามศูนย์การค้าและไอทีเซ็นเตอร์ อีกทั้งยังโหมแผนโปรโมชั่นสินค้าราคาสุดพิเศษทุกเดือน อาทิ ซื้อ 1 แถม 1 สินค้า crazy sale ลดต่ำกว่า 30% นอกเหนือจากนั้น ยังมีแคมเปญใหญ่ฉลองครบ 14ปี ในเดือนมิถุนายน ร่วมกับพันธมิตรและบัตรเครดิตชั้นนำมอบส่วนลด ของแถม และสิทธิประโยชน์มากมาย ในส่วนกลยุทธ์ CRM กับบัตร The1Card ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ยังคงนำมาใช้สร้างความภักดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพบว่าต่อเดือนนั้น ออฟฟิศ ดีโป มีฐานสมาชิกกว่า 60,000 ราย ที่เข้ามาใช้จ่ายในร้าน เราจึงจัดสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่ม The1Card ด้วยการนำคะแนนสะสมไปแลกคูปอง หรือส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 40% จากออฟฟิศ ดีโป รวมถึงห้างร้านในเครือเซ็นทรัลรีเทล กว่า 300 จุดบริการ โดยตั้งเป้าว่าปีนี้จะมีฐานสมาชิกที่ใช้จ่ายในร้านเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเป็น 100,000 รายต่อเดือน” สำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ออฟฟิศ ดีโป ยังคงสานต่อกิจกรรมที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โดยปีนี้เราได้เข้าร่วมโครงการ “กระดาษเพื่อต้นไม้” ร่วมกับ ชมรมสภาวะสิ่งแวดล้อมสยาม ด้วยการรับบริจาคกระดาษที่ใช้แล้วทั้ง 2 หน้า โดยลูกค้าหรือผู้ที่สนใจโครงการสามารถนำกระดาษมาร่วมบริจาคได้ที่ร้านออฟฟิศ ดีโป ทุกสาขาทั้งในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล โดยรายได้ที่ได้จากการขายกระดาษทั้งหมด ทางออฟฟิศ ดีโป จะนำไปทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ต่างๆ เพื่อสังคม ในโครงการของชมรมสภาวะสิ่งแวดล้อม นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมถึงภาพรวมตลาดอุปกรณ์สำนักงานว่า “ในปีที่แล้วตลาดอุปกรณ์สำนักงานมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 21,000 ล้านบาท คาดว่าภายในปีนี้จะเติบโตถึง 22,000 ล้านบาท โดยออฟฟิศ ดีโป มีส่วนแบ่งอยู่ 16% ซึ่งปัจจัยที่คาดว่าทำให้เติบโตนั้น มาจาก GDP ของประเทศโต 3.5-4% อัตราการจดทะเบียนบริษัทใหม่ มีแนวโน้มสูงกว่าปีที่แล้ว พื้นที่ว่างของการเช่าออฟฟิศลดลง รวมถึงอัตราการว่างงานที่ลดลง เราคาดว่าภายในสิ้นปี 54 นี้ ออฟฟิศ ดีโปจะทำยอดขายถึง 3,500 ล้านบาท มีอัตราเติบโต 15% ด้วยการใช้ยุทธศาสตร์แบบก้าวกระโดด รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นลดต้นทุนให้ลูกค้า ผลักดันให้ยอดขายเติบโตขึ้น. ต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด โทร. 0-2101-8466 / 0-2101-8467 โยธิน ธรรมจำรัส (โย) ปิยะนุช ไชยรัตน์ (เดือน) ประภาพร นามวงศ์ (น้องเล็ก)/ กฤตยาวีร์ สุมาลี (วี) เมธินี ชาญวลิชล (เมย์) /อารญา สุขหอม (อุ๊ย) ฝ่ายการตลาด บริษัท ออฟฟิซ คลับ (ไทย) จำกัด โทร. 02 101 7521 แฟกซ์ 02 630 0825 จารวี เกียรติศักดิ์ขจร (เตย) / คันธรัตน์ ภักดีบัญชาศักดิ์ (แอม)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ