ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เพิ่มประสิทธิภาพขั้นสูงให้กับ AMS 1000 ระบบสตอเรจระดับกลางชั้นยอด

ข่าวทั่วไป Wednesday February 7, 2007 15:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--คอร์ แอนด์ พีค
AMS1000 ของฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 20% นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมด้วยการมอบความคุ้มค่าสูงสุดให้กับระบบสตอเรจระดับกลาง
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ เอชดีเอส ผู้ให้บริการด้านประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลครบวงจรทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเซอร์วิส หรือเอโอเอส (Application Optimized Storage?) และเป็นธุรกิจในเครือของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก: HIT) เปิดเผยถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพครั้งสำคัญให้กับระบบสตอเรจระดับกลางขั้นสูงสุดรุ่นใหม่ Hitachi Adaptable Modular Storage รุ่น AMS1000 ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ด้านการประมวลผลหลากหลายรูปแบบสำหรับ AMS 1000 นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมด้วยการมอบความคุ้มค่าสูงสุดให้กับระบบสตอเรจระดับกลาง
ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น 20% ให้กับ AMS 1000 ซึ่งเป็นระบบสตอเรจที่มีการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2549 มีหลายรายการ เช่น 32 Logical Cache Partition, การย้ายข้อมูลข้าม volume โดยไม่มีการหยุดการทำงานของระบบ, การป้องกันข้อมูล แบบ RAID-6 ที่มีความสามารถในการป้องกันข้อมูลสูญหายในระดับสูง และการสนับสนุนมัลติ-โปรโตคอล (multi-protocol) บนสตอเรจเดียวกัน สำหรับ iSCSI, NAS และ Fibre Channel โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์ต่อพวงภายนอก นอกจากนี้ AMS 1000 ยังให้การเชื่อมต่อกับ Fibre Channel SAN ในความเร็วที่ 4 กิกะบิตต่อวินาที ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแอพพลิเคชั่น เช่น ระบบ Video-On-Demand และการประมวลผลภาพทางการแพทย์ ไม่มีผู้ค้าสตอเรจรายใดที่สามารถให้โซลูชั่นที่รวมประสิทธิภาพเช่นนี้ไว้ภายในระบบสตอเรจระดับกลางได้โดยไม่มีการเพิ่มอุปกรณ์และ/หรือซอฟต์แวร์ภายนอก ด้วยเหตุนี้ AMS 1000 จึงเป็นระบบสตอเรจระดับกลางที่ยืดหยุ่นที่สุดในตลาดปัจจุบัน
“ประสิทธิภาพเป็นปัจจัยพื้นฐานหลักอย่างหนึ่งของระบบสตอเรจ” โทนี อาซาโร นักวิเคราะห์อาวุโสบริษัท เอ็นเตอร์ไพรซ์ สตราทีจี กรุ๊ป กล่าว และว่า “ประสิทธิภาพการประมวลผลของระบบสตอเรจเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ ลูกค้าจึงควรวางแผนความต้องการด้านประสิทธิภาพในปัจจุบันและสำหรับอนาคต โดยพวกเขาต้องการระบบสตอเรจที่สามารถตอบสนองความต้องการเมื่อพวกเขาขยายโตมากขึ้น”
การรวมความสามารถพื้นฐานทั้งหมดไปจนถึงการรองรับความยืดหยุ่นสูงสุดให้กับลูกค้า AMS 1000 ทำให้ลูกค้าสามารถผสมผสานชั้นสตอเรจจำนวนมากได้ในชุดเดียวกัน (ได้แก่ ไดรฟ์ Fibre Channel 73 กิกะไบต์, 146 กิกะไบต์ และ 300 กิกะไบต์ รวมถึง SATA 500 กิกะไบต์) ที่รวมเอาทั้ง Fibre Channel SAN, NAS หรือ iSCSI ไว้ภายในชุดเดียวกัน ด้วยความสามารถในการแยกทรัพยากรสำหรับการบริการที่มีคุณภาพได้อย่างสอดคล้อง การเข้าถึงความปลอดภัยหลายระดับ และให้การโยกย้ายข้อมูลปริมาณมากโดยไม่หยุดการทำงานของระบบ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลปริมาณมากสามารถย้ายจากไดรฟ์ SATA แบบประหยัดไปยัง Fibre Channel จาก RAID 5 ไปยัง RAID 6 หรือจาก RAID หนึ่งไปยัง RAID อื่นได้ ซึ่งให้อำนาจลูกค้าในการปรับโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองให้สามารถเปลี่ยนแปลงตามความต้องการด้านธุรกิจหรือความต้องการด้านข้อมูลได้
“ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น ไม่เพียงแค่ค่าใช้จ่ายสำหรับสตอเรจต่อปีเท่านั้น แต่ยังมีต้นทุนด้านพลังงานและการบริหารสตอเรจที่ดี ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่กำลังมองหาระบบที่รวมเป็นหนึ่งเดียวและสร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้กับระบบสตอรเจ” จอห์น เว็บสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านไอที บริษัท อิลลูมินาตา อิงค์. กล่าว และว่า “ด้วยการให้ลูกค้าสามารถย้ายข้อมูลแอพพลิเคชั่นระหว่างชั้นของสตอเรจที่แตกต่างกันภายในระบบ และยังได้ปรับปรุงประสิทธิภาพและส่วนติดต่อมัลติ-โปรโตคอล ทำให้ AMS 1000 ได้รับการพิจารณาว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่น และสามารถเก็บรวมข้อมูลระยะยาวให้เป็นหนึ่งเดียวได้”
AMS 1000 เป็นส่วนสำคัญของระบบสตอเรจระดับกลางขั้นสูงที่สามารถปรับขนาดได้สูงสุดและมีประสิทธิภาพสูง นั่นคือ สายผลิตภัณฑ์ Hitachi Adaptable Modular Storage และ Workgroup Modular Storage บริษัทยังได้จัดวางให้ระบบสตอเรจระดับกลางขั้นสูงมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีบัสความเร็วสูงของตัวควบคุมแบบคู่ที่มีราคาน่าสนใจ และให้ประโยชน์ด้าน Logical Cache Partitioning, Virtual Ports และ Host Storage Domains ภายในระบบเดียว หรือทำให้ Network Storage Controller หรือ Universal Storage Platform สมบูรณ์มากขึ้นในฐานะสตอเรจที่เป็นชั้น โดยเฉพาะเมื่อถูกกำหนดค่ากับไดรฟ์ SATA เพื่อลดต้นทุนให้น้อยลง นอกจากนี้ บริษัท การ์ทเนอร์ อิงค์. ยังได้มอบตำแหน่งหนึ่งในสี่ “ผู้นำ” ในรายงาน “Magic Quadrant for Midrange Enterprise Disk Arrays, 2H06” ให้กับบริษัทฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ด้วย (ดูข่าวประชาสัมพันธ์ประกอบ: “ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คว้าตำแหน่งหนึ่งในสี่ “ผู้นำ” ของระบบ Disk Array สำหรับองค์กรขนาดกลาง)
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ มีแหล่งวิจัยและพัฒนาทั่วโลกที่พร้อมพัฒนาโซลูชั่นระบบบริหารการจัดเก็บข้อมูลด้วยเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ ใช้ได้ง่าย และสามารถรองรับการขยายระบบงานเพื่อให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงสุดและช่วยลดความเสี่ยงของลูกค้า จากการที่มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ด้วยการเลือกสรรฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการที่ดีที่สุดจากฮิตาชิและพันธมิตร ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าโดยตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าได้
ด้วยพนักงานประมาณ 3,200 คน บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ สามารถผลักดันธุรกิจผ่านทางช่องทางจำหน่ายทั้งทางตรงและอ้อม ได้แก่ ภาครัฐ เอกชน และส่วนอื่นๆ ในกว่า 170 ประเทศ และภูมิภาคต่างๆ ที่สำคัญลูกค้าของบริษัทฯ กว่า 50% อยู่ใน100 อันดับองค์กรยอดเยี่ยมของนิตยสารฟอร์จูน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชม ได้ที่เว็บไซต์ www.hds.com .
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก คือ HIT/ชื่อในตลาดหุ้นโตเกียว คือ 6501) มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก ด้วยจำนวนพนักงานประมาณ 356,000 ราย โดยในปีงบประมาณ 2548 (จนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2549) บริษัทฯ มียอดขายรวม 9,464 พันล้านเยน (80.9 พันล้านดอลลาร์) บริษัทฯ จัดหาระบบงาน ผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลายให้กับหลายภาคธุรกิจในตลาด ได้แก่ ระบบสารสนเทศ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟฟ้าและอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค บริการด้านการเงินและวัสดุต่างๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของฮิตาชิ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.hitachi.com .
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์
เมรี่ แอน กัลโล
(408) 970-4836
mary.ann@hds.com
คอร์ แอนด์ พีค
ศรีสุพัฒ เสียงเย็น
(02) 439-4600 ต่อ 8300
Srisuput@corepeak.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ