สรรพสามิตเพิ่มประสิทธิภาพด้านการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 21, 2011 09:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--กรมสรรพสามิต สรรพสามิตนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้บูรณาการด้านการป้องกันและปราบปราม หวังเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพของเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกันและปราบปราม พร้อมเปิดตัวเรือเร็วตรวจการณ์ “ราชวัตร 1” และ “ราชวัตร 2” วันนี้ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังได้มอบนโยบายให้กรมสรรพสามิตกวดขันสินค้าหลีกเลี่ยงภาษี รวมถึงดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต และจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาสู่ระบบภาษี ซึ่งที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจ กสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพเรือ เพื่อร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เช่น บริเวณแนวตะเข็บชายแดน แหล่งชุมชน และสถานบริการ เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าโดยทั่วไป ทั้งนี้ จากการติดตามของเจ้าหน้าที่พบว่าการกระทำผิดในคดีน้ำมันเป็นการลักลอบนำน้ำมันจากต่างประเทศผ่านเข้ามาทางทะเล และแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านในลักษณะของกองทัพมด รวมถึงการลักลอบนำน้ำมันออกจากรถ ขนส่งน้ำมันเพื่อส่งไปจำหน่ายต่อยังผู้ค้ารายย่อยในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ซึ่งหากประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ตัดสินใจซื้อน้ำมันที่หลีกเลี่ยงภาษีมาใช้เพราะเห็นว่าราคาถูกก็จะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้ เนื่องจากเป็นน้ำมันที่ด้อยคุณภาพและไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนั้น การลักลอบกระทำผิดเกี่ยวกับสุราและยาสูบ ได้มีการนำเข้าสุราและยาสูบต่างประเทศตามแนวชายแดน เช่น จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูล เป็นต้น ส่วนการลักลอบกระทำผิดเกี่ยวกับสุราชุมชน จะพบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น เขตบางบอน และในต่างจังหวัดจะพบมากในเขตภาคเหนือ เ ่น จังหวัดแพร่ พะเยา และลำปาง เป็นต้น กรมสรรพสามิตจึงได้มุ่งเน้นการบูรณาการด้านการควบคุมและตรวจสอบผู้กระทำผิด โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการป้องกันและปราบปรามมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลปราบปรามทั้งประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย 1. จัดซื้อเรือเร็วตรวจการณ์ทางทะเลและเรดาห์ตรวจจับพิกัด เนื่องจากการกระทำความผิดในคดีน้ำมัน สุราและยาสูบ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งทางบกและทางน้ำ กรมสรรพสามิตจึงเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดด้วยการจัดซื้อเรือตรวจการณ์ “ราชวัตร 1” และ “ราชวัตร 2” ขนาด 500 แรงม้า ที เปิดตัวในวันนี้ รวมถึงได้ขยายภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการที่ใช้ติดตามตำแหน่งเรือผ่านดาวเทียม (GPS1) ให้สามารถติดตามรถขนส่งน้ำมันทางบก (GPS2) โดยติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายพร้อมอุปกรณ์เพื่อรองรับระบบทั่วประเทศ 2. ติดตั้งระบบการควบคุมและติดตามการขนส่ง (GPS) โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม ณ กรมสรรพสามิต ซึ่งกำหนดให้เรือบรรทุกน้ำมันและเรือสถานีบริการน้ำมันติดตั้งอุปกรณ์ติดตามตำแหน่งเรือผ่านดาวเทียม (Global Positioning System: GPS) 3. ติดตั้งระบบแผนที่ภาษี (Tax Map) และแผนที่ผู้กระทำผิด เพื่อตรวจสอบและจัดเก็บข้อมูลสถานประกอบการที่เปิดใหม่ และปิดกิจการโดยไม่ได้แจ้งต่อกรมสรรพสามิต ผลการปราบปรามผู้กระทำความผิดตามกฎหมายสรรพสามิตใน 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 (ตุลาคม 2553 — กุมภาพันธ์ 2554) กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 16,406 ราย และคิดเป็นค่าปรับ 284 ล้านบาท โดยน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันของกลางสามารถจับกุมได้ 3,959,207 ลิตร สุราในประเทศ 91,476 ลิตร สุราต่างประเทศ 6,471 ลิต ร ยาสูบในประเทศ 27,976 ซอง และยาสูบต่างประเทศ 117,136 ซอง สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 (ต.ค. 2553 — มี.ค. 2554) กรมสรรพสามิตคาดว่าจะจัดเก็บได้ 226,228.05 ล้านบาท สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน 18,902.68 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 9.12 (ปีก่อนจัดเก็บได้ 207,325.37 ล้านบาท) และสูงกว่า ประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 28,593.04 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.47 และสูงกว่า ประมาณการตามมติครม. 9,844.54 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.55 โดยภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้สูงสุด 79,259.90 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามมติ ครม. 577.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.73 รองลงมา ได้แก่ ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 46,489.40 ล้า บาท สูงกว่าประมาณการตามมติ ครม. 2,300.62 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.21 อันดับที่สาม ได้แก่ ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ 33,152.92 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามมติ ครม. 1,385.25 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.36 อันดับที่สี่ ได้แก่ ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 28,998.79 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามมติครม. 856.82 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.04 และอันดับที่ห้า ได้ ก่ ภาษีสุรา จัดเก็บได้ 27,516.12 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามมติ ครม. 4,761.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.93 เพื่อให้ผลการจัดเก็บประจำปีงบประมาณ 2554 เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ และสอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงการคลัง ในการจัดทำงบประมาณสมดุล สร้างความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม และเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน กรมสรรพสามิตจึงได้กำหนดนโยบายภาษี 5 ปี (ปีงบประมาณ 2554 - 2558) โดยแก้ไขพระราชบัญญัต ยาสูบ ปรับโครงสร้างภาษีบาป (Sin Tax) ศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งระบบ ศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีน้ำมัน ยกเลิก Nuisance Tax และหาแหล่งรายได้ใหม่โดยศึกษาการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมตามหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย (Polluters Pay Principle) นอกจากนั้นอธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวต่อว่าในปี 2554 กรมสรรพสามิตได้กำหนดให้เป็น “ปีแห่งความโปร่งใส” โดยมุ่งเน้นด้านการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้องและมีต้นทุน ี่ต่ำที่สุด โดยปรับปรุงระเบียบ ข้อบังคับ ภายใต้กฎหมายสรรพสามิต ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น การลดขั้นตอน การกำหนดมาตรฐานในการจัดเก็บภาษีของสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน การเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วแก่ ผู้เสียภาษี การคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษี ขณะเดียวกันกรมสรรพสามิตจะดำเนินงานด้านการตรวจสอบภาษีอย่างล เอียดและรัดกุมเพื่อสร้างความเป็นธรรมและความเสมอภาคให้แก่ผู้เสียภาษีสรรพสามิตทุกราย กรมสรรพสามิต สำนักงานเลขานุการกรม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร./ โทรสาร 02 241 4778

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ