ไซแมนเทคเปิดตัว เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชัน 5.0 เอชเอ

ข่าวทั่วไป Tuesday January 23, 2007 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
ไซแมนเทคเปิดตัว เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชัน 5.0 เอชเอ สำหรับวินโดวส์มาตรฐานใหม่แห่งระบบจัดการหน่วยเก็บข้อมูล คลัสเตอริ่ง และการกอบกู้ระบบจากภัยพิบัติ บนวินโดวส์ดาต้าเซ็นเตอร์
ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น เปิดตัว เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น 5.0 ไฮอะแวลิบิลิตี้ (Veritas Storage Foundation 5.0 HA - High Availability) สำหรับวินโดวส์ ที่ช่วยขับเคลื่อนขับเคลื่อนข้อมูลและแอพพลิเคชั่นให้พร้อมใช้งานบนสภาพแวดล้อมของไมโครซอฟท์วินโดวส์ โดยได้รวมสุดยอดโซลูชั่นอย่าง สตอเรจ ฟาวเดชั่น (Storage Foundation) สำหรับวินโดวส์ และ เวอริทัส คลัสเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ (Veritas Cluster Server) เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมด้วยชุดเครื่องมือที่ช่วยให้การจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างสะดวก มีความพร้อมสูง และสามารถรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นกับแอพพลิเคชั่นสำคัญอย่าง ไมโครซอฟท์เอ็กซ์เซนจ์ (Microsoft Exchange) ซีควลเซิร์ฟเวอร์ (SQL Server) และแชร์พ้อยต์พอร์ตทอลเซิร์ฟเวอร์ (SharePoint Portal Server) ได้อย่างดี
"มีลูกค้าจำนวนมากที่พึ่งพาวินโดวส์แพลตฟอร์มในการรองรับแอพพลิเคชั่นสำคัญขององค์กร ทำให้พวกเขาต้องการโซลูชั่นในการจัดการกับระบบจัดเก็บข้อมูลที่ให้ความพร้อมของระบบที่เหนือกว่า และมีความสามารถในการกอบกู้ระบบจากภัยพิบัติที่ดีขึ้นกว่าเดิม" ลอรา ดูโบอิส ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ซอฟต์แวร์ด้านระบบจัดเก็บข้อมูล ของไอดีซี (IDC) กล่าว "สตอเรจ ฟาวเดชั่น เอชเอ (HA) สำหรับวินโดวส์ ให้คุณสมบัติอันโดดเด่นแก่องค์กรในการดูแลระบบจัดเก็บข้อมูลให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง มีความพร้อมของระบบสูง และสามารถรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างดี พร้อมยังช่วยแสดงภาพรวมของระบบจัดเก็บข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลางเพื่อให้สามารถควบคุมดูแลได้สะดวกขึ้น ซึ่งความสามารถดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติหลักที่จำเป็นภายใต้สภาพแวดล้อมของวินโดวส์"
มาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานซอฟต์แวร์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์
เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น ช่วยรับมือกับการเพิ่มขึ้นของข้อมูล เพิ่มความคุ้มค่าให้แก่การลงทุนบนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เสริมความพร้อมของแอพพลิเคชั่นในการทำงานให้ดีขึ้น และลดต้นทุนการปฏิบัติงานให้ต่ำลงด้วยชุดเครื่องมือมาตรฐานสำหรับวินโดวส์ ลินุกซ์ และยูนิกซ์ โดย สตอเรจ ฟาวเดชั่น สำหรับวินโดวส์ ได้มาพร้อมกับความสามารถใหม่ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูแลระบบจัดเก็บข้อมูลให้เป็นมาตรฐานและมีโครงสร้างพื้นฐานซอฟต์แวร์ที่มีความพร้อมในการทำงานสูงขึ้น
ซอฟต์แวร์ใหม่ในการเปิดตัวครั้งนี้มี เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น เบสิค (Storage Foundation Basic) สำหรับวินโดวส์ รวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นโซลูชั่นในชุด สตอเรจ ฟาวเดชั่น ที่สามารถใช้งานได้ฟรี และออกแบบมาให้รองรับปริมาณงานบนโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างดี ทำให้ลูกค้าใช้งาน สตอเรจ ฟาวเดชั่น สำหรับวินโดวส์ ได้อย่างคุ้มค่า และได้รับประโยชน์จากโซลูชั่นพื้นฐานดังกล่าวบนเซิร์ฟเวอร์ทุกเครื่องในดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งนี้ สตอเรจ ฟาวเดชั่น เบสิค สำหรับวินโดวส์ มีคุณสมบัติ ไดนามิค มัลติ-พาธิ่ง (DMP - Dynamic Multi-Pathing) และทำงานได้บนเซิร์ฟเวอร์จริงและเวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์ (virtual server) ที่มีคุณลักษณะของระบบไม่เกิน 4 วอลูม (volume) หรือมีโพรเซสเซอร์ไม่เกิน 2 หน่วย ในหนึ่งเครื่อง ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด สตอเรจ ฟาวเดชั่น เบสิค สำหรับวินโดวส์ได้ที่ www.symantec.com/sfbasic
ลูกค้าที่ใช้ สตอเรจ ฟาวเดชั่น สำหรับวินโดวส์ และดีเอ็มพี (DMP) จะได้รับประโยชน์จากการรองรับการจัดกลุ่มอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่สนับสนุนคุณสมบัติมัลติ-พาธิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยอาเรย์ (array) ตระกูลต่างๆ จาก อีเอ็มซี (EMC) เอชพี (HP) เอชดีเอส (HDS) ไอบีเอ็ม (IBM) เน็ตเวิร์กแอลไพลเอนซ์ (Network Appliance) และซัน (Sun) เพื่อให้ได้รับความคล่องตัวและได้ผลตอบแทนจากการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์จัดเก็บข้อมูลที่คุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้ลูกค้ายังได้รับความยืดหยุ่นในการเลือกใช้ระบบเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลที่เหมาะสมกับความต้องการ ซึ่งไซแมนเทคเป็นเพียงผู้ค้ารายเดียวที่ได้รับการรับรองตามกรอบเอ็มพีไอโน (MPIO) ของไมโครซอฟท์ ทั้งสำหรับ ไฟเบอร์แชนเนลเอชบีเอส สตอร์พอร์ต (Fibre Channel HBA StorPort) และไมโครซอฟท์ ไอสกัชซี่ (iSCSI) และ สตอเรจ ฟาวเดชั่น สำหรับวินโดวส์ ยังมีระบบจัดการชั้นสูงสำหรับ ไอสกัชซี่ แซน (iSCSI SAN) ที่ช่วยตรวจสอบค้นหา จัดการ และตั้งค่าระบบแซนบนไอพี (IP-based) ให้โดยอัตโนมัติด้วย
"มาตรฐานบน สตอเรจ ฟาวเดชั่น เอชเอ สำหรับวินโดวส์ ช่วยให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการตัดสินใจเลือกใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และยังช่วยลดต้นทุนปฏิบัติงานผ่านการใช้เครื่องมือจัดการระบบเพียงหนึ่งเดียว" ร็อบ โซเดอร์เบอรี รองประธานอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์สตอเรจ ฟาวเดชั่น ของไซแมนเทค กล่าว "เวอร์ชั่นใหม่นี้ยังช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนด้วยการลดต้นทุนในการติดตั้งสตอเรจ ฟาวเดชั่น บนเซิร์ฟเวอร์ และช่วยให้ลูกค้าสามารถรับรู้และจัดการกับระบบจัดเก็บข้อมูลได้อย่างสะดวกจากศูนย์กลาง มีความพร้อมของระบบที่สูงขึ้น และมีความสามารถในการรับมือและกอบกู้ความเสียหายจากภัยพิบัติได้อย่างครอบคลุมทั่วถึงทั้งดาต้าเซ็นเตอร์"
ปรับปรุงการบริหารและเพิ่มสมรรถนะหน่วยเก็บข้อมูล
สตอเรจ ฟาวเดชั่น สำหรับวินโดวส์ ช่วยลดต้นทุนปฏิบัติงานให้แก่ลูกค้า ขณะเดียวกันก็ยังช่วยปรับปรุงระดับการให้บริการของแอพพลิเคชั่นสำคัญโดยการนำเสนอความสามารถใหม่หลายอย่างที่ช่วยปรับปรุงการบริหารและสมรรถนะของหน่วยเก็บข้อมูล ไซแมนเทคได้เพิ่มการรองรับสำหรับ สตอเรจ ฟาวเดชั่น แมเนจเมนต์ เซิร์ฟเวอร์ (Storage Foundation Management Server) ที่ให้ความครบถ้วนทั้งด้านการดูแลและควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมด ซึ่งความสามารถในการจัดการดูแลหลายโฮสต์ (host) พร้อมกันทำให้องค์กรสามารถจัดการแอพพลิเคชั่น เซิร์ฟเวอร์ และหน่วยเก็บข้อมูลได้จากศูนย์กลาง ทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้สะดวก ให้ระดับบริการที่สูงกว่า และลดความเสี่ยงอันอาจเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ สำหรับ สตอเรจ ฟาวเดชั่น แมเนจเมนต์ เซิร์ฟเวอร์ นั้น ทำงานได้อย่างดีร่วมกับ สตอเรจ ฟาวเดชั่น สำหรับวินโดวส์ เวอร์ชั่น 4.x และ 5.0 (Storage Foundation for Windows 4.x & 5.0) เวอริทัส วอลูม รีพลิเคเตอร์ ออพชั่น (Veritas Volume Replicator Option) และ สตอเรจ ฟาวเดชั่น เบสิค สำหรับวินโดวส์ (Storage Foundation Basic for Windows) ซึ่งหมายความว่า ลูกค้าสามารถตรวจสอบและจัดการกับทุกส่วนสำคัญของ สตอเรจ ฟาวเดชั่น บนดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างครอบคลุมโดยผ่านชุดเครื่องมือหนึ่งเดียวจากไซแมนเทค
นอกจากนี้ต้นทุนการดูแลระบบยังลดลงกว่าเดิมด้วยตัวช่วยเหลือในการกำหนดค่ารูปแบบใหม่ ที่ทำให้การสร้างหน่วยเก็บข้อมูล คลัสเตอร์ และการทำซ้ำชุดติดตั้ง เป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าเดิมถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และยังมีอินเทอร์เฟสแบบกราฟิกอย่างง่ายๆ ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดวันเวลาในการสำเนาด้วยการใช้ แฟลชสแน็ป (FlashSnap) ด้วย
เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้อย่างเต็มที่ถึงสมรรถนะที่เหนือชั้นกว่า สตอเรจ ฟาวเดชั่น สำหรับวินโดวส์ จึงได้เพิ่มความสามารถใหม่ที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบให้ดียิ่งขึ้นในหลายด้าน ได้แก่:
- การปรับปรุงโครงสร้างของวอลูมหน่วยเก็บข้อมูลที่ทำให้ได้สมรรถนะที่ดีขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ พร้อมด้วยความสามารถในการจัดแทร็ก (track) แบบอัตโนมัติ
- อัลกอริธึม (algorithms) สำหรับโหลดบาลานซิ่ง (load-balancing) รูปแบบใหม่ 4 ชุด ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะของไมโครซอฟท์เอ็กซ์เชนจ์และซีควลเซิร์ฟเวอร์
- เวอริทัส แฟลชสแน็ป ออพชั่น (Veritas FlashSnap Option) ให้สมรรถนะในด้านการบันทึกสถานะของระบบได้ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 60 เปอร์เซ็นต์
"ความสะดวกในการใช้งานสำหรับการสร้างคลัสเตอร์ ทำสำเนาเก็บสถานะของระบบ การกอบกู้ดิสก์ที่เสียหาย และการกำหนดค่าของเซิร์ฟเวอร์ให้เหมาะสม ถือเป็นเรื่องสำคัญ" เจอรี คราฟท์ ผู้ช่วยรองประธานและผู้จัดการด้านบริการระบบเครือข่าย ของธนาคารเพื่อเกษตรกรและพ่อค้า (Farmers and Merchants Bank) แห่งลองบีช (Long Beach) แคลิฟอร์เนีย กล่าว "ตัววิซาร์ดช่วยเหลือใน เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น 5.0 เอชเอ สำหรับวินโดวส์ ได้ช่วยให้ทีมของผมประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดลง ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องมาเสี่ยงกับการคาดเดาบนการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลที่ถือเป็นส่วนสำคัญของระบบไอทีในองค์กรอีกต่อไป"
ทำคลัสเตอร์ได้อย่างสะดวกด้วย เวอริทัส คลัสเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ (Veritas Cluster Server)
เวอริทัส คลัสเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ โซลูชั่นที่ช่วยเพิ่มความพร้อมของระบบและช่วยจัดการด้านการกอบกู้ระบบจากภัยพิบัติ ได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่ปรับปรุงระบบจัดการและลดความซับซ้อนในการดูแลความพร้อมของระบบ โดย คลัสเตอร์ แมเมจเมนต์ คอลโซล (Cluster Management Console) ระบบที่ทำงานอย่างปลอดภัยผ่านเว็บ จะช่วยให้งานในด้านการบริหาร ตรวจสอบ และกำหนดค่าให้แก่เซิร์ฟเวอร์จำนวนมากบนวินโดวส์ ลินุกซ์ และยูนิกซ์ ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นบนดาต้าเซ็นเตอร์ที่แตกต่างกัน อีกทั้ง คลัสเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ยังช่วยลดต้นทุนการปฏิบัติงานด้วยการให้การปกป้องที่ครอบคลุมทั้งเซิร์ฟเวอร์แบบกายภาพและเสมือน ทั้งบนวินโดวส์ (Windows) วีเอ็มแวร์ (VMware) และ ไมโครซอฟท์เวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์ (Microsoft Virtual Server)
คลัสเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติ ไฟร์ ดริลล์ (Fire Drill) ที่ช่วยให้องค์กรสามารถทดสอบแผนรับมือภัยพิบัติตามสถานการณ์จำลองต่างๆ ได้โดยไม่ส่งผลกระทบหรือมีความเสี่ยงต่อการทำงานของแอพพลิเคชั่นปกติ อีกทั้งรูปแบบการกำหนดค่าทีละขั้นตอนยังให้ความสะดวกในการตั้งค่า ไฟร์ ดริลล์ การทำซ้ำจำลองข้อมูล และการใช้โซลูชั่นที่ให้ความพร้อมในการทำงานและรับมือกับภัยพิบัติ ทั้งสำหรับเอ็กซ์เชนจ์ ซีควลเซิร์ฟเวอร์ ออราเคิล และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ที่สำคัญยังช่วยลดความเสี่ยงให้แก่ธุรกิจโดยการตรวจสอบปัญหาในการตั้งค่าต่างๆ ก่อนเกิดขึ้นจริงด้วยการจับตาดูการกำหนดค่าบนคลัสเตอร์โหนดอย่างใกล้ชิด
สำหรับแอพพลิเคชั่นสำคัญที่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของแอพพลิเคชั่นคลัสเตอริ่งและการปกป้องข้อมูลจากทางไกล ตัวเลือก เวอริทัส วอลูม รีพลิเคเตอร์ (VVR - Veritas Volume Replicator) จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำสแน็ปช็อต (snapshot) ร่วมกันได้ทั้งที่ศูนย์ปฏิบัติการหลักและจากทางไกล เพื่อให้การสำรองข้อมูลหรือการกอบกู้ภัยพิบัติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้คุณสมบัติใหม่ในการทำซ้ำข้อมูลของวีวีอาร์ (VVR) ยังช่วยให้องค์กรสามารถเลือกกลยุทธ์ในการทำซ้ำข้อมูลจากทางไกลอย่างครบถ้วนทุกธุรกรรมรายการ ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลกันเท่าไรก็ตาม ซึ่งไซแมนเทคถือเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ให้ความสามารถในการปกป้องข้อมูลได้อย่างครอบคลุมที่สุดทั้งบนเซิร์ฟเวอร์และหน่วยเก็บข้อมูล
เกี่ยวกับ ไซแมนเทค
ไซแมนเทค เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่องค์กร ทั้งในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซและองค์กรส่วนบุคคลในเรื่องการใช้งานข้อมูลร่วมกัน รวมถึงความพร้อมในการเรียกใช้และความปลอดภัยของข้อมูล โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่คิวเปอร์ติโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีศูนย์ปฏิบัติการอยู่กว่า 40 ประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.symantec.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
คุณจารุณี สินชัยโรจน์กุล บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด
โทรศัพท์ : 0-2655-6633, 081-488-8442 โทรสาร: 0-2655-3560 Email: jarunee@apprmedia.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ