กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปรับลดลง 8.70 USD ต่อออนซ์ ปิดที่ 1,426.2 USDต่อออนซ์ เนื่องจาก เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจยุติการอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจตามมาตรการ QE2 เร็วกว่ากำหนดการเดิมในเดือน มิ.ย. เล็กน้อยทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น
Key Points in Gold Market
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ GDP ในไตรมาสที่ 4 ของสหรัฐเท่ากับ 3.1% มากกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.8 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 3.0% ส่วนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้คาดว่า การจ้างงานในเดือนมี.ค.คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จากยอดขอสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงต่อเนื่อง ( - )
- ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นจากการที่เงินยูโรอ่อนค่าลง จากความวิตกกังวลเรื่องหนี้ของโปรตุเกส และจากการที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2553 ที่ขยายตัวสูงกว่าประมาณการครั้งก่อน ( - )
- สถานการณ์ในลิเบีย ฝ่ายกลุ่มต่อต้านรุกเข้าไปในเมืองอัจดาบียา และท่าเรือขนส่งน้ำมันในเมือง ราสลานุฟ และเมืองเบรก้า ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ หลังจากที่ฝ่ายพันธมิตรนาโต้ได้เข้าโจมตีรถถัง และฐานกำลังทางทหารของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายต่อต้านได้ตกลงขายน้ำมันให้กับประเทศการ์ต้าเป็นจำนวน 100,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 บาร์เรลต่อวันได้ จากการเข้ายึดพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมัน โดยก่อนหน้าที่จะมีการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายต่อต้าน ลิเบียผลิตน้ำมันได้ประมาณ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน คาดว่าหลังจากการต่อสู้การผลิตจะลดลงไปประมาณ 2 ใน 3 จากที่เคยผลิตได้ (+/-)
- พันธมิตรนาโต้ 28 ประเทศเข้ามาบัญชาการรบแทนที่สหรัฐ ฝรั่งเศส และอังกฤษ
- SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมจำนวน 1,213.96 ตัน
Technical Analysis:
ราคาทองคำส่งสัญญาณในการกลับตัว หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาราคาทองคำสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ได้ถูกแรงเทขายลงมาจนกระทั่งจุดต่ำสุดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของวันก่อนหน้า และราคาปิดก็ต่ำกว่าวันก่อนหน้าเช่นเดียวกัน ในขณะที่ Stochastic ส่งสัญญาณในการปรับตัวลดลงของราคา ทำให้ในระยะสั้นต้องติดตามว่าสามารถยืนอยู่เหนือแนวรับที่ 1,418 ได้หรือไม่ หากหลุดแนวรับดังกล่าว ราคาทองคำก็จะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,405 อีกครั้ง