ซีเกทยกระดับผลิตภัณฑ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กร โดยการเปิดตัวโซลูชั่นโซลิดสเตทไดรฟ์และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รุ่นใหม่

ข่าวเทคโนโลยี Thursday March 31, 2011 16:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--ซีเกท เทคโนโลยี โซลูชั่นเหล่านี้ประกอบด้วยโซลิดสเตทไดรฟ์รุ่นพัลซ่าร์ (Pulsar Solid State Drive) ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ฮาร์ดไดรฟ์รุ่นแซฟวิโอ (Savvio hard drives) ที่มีความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความจุ รวมทั้งฮาร์ดไดรฟ์รุ่นคอนสเตลเลชั่น (Constellation hard drives) ซึ่งมีความจุสูง ซีเกท เทคโนโลยี (NASDAQ: STX) เปิดตัวโซลูชั่นสำหรับจัดเก็บข้อมูลในองค์กรรุ่นล่าสุดเพื่อนำมาซึ่งการจัดเก็บข้อมูลสำหรับระบบปฏิบัติการจัดเก็บข้อมูลที่มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายที่สุด จากการที่ซีเกทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ได้รับรางวัลประเภทผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรมากที่สุดของอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงโซลูชั่น 2 ตัวซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ของตระกูลพัลซ่าร์ โซลิดสเตทไดรฟ์ ซึ่งมีประสิทธิภาพอัน ยอดเยี่ยมสำหรับใช้งานในองค์กร มีความคงทนและมีความน่าเชื่อถือ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สองรุ่นถัดไปคือแซฟวิโอ 15เคและ 10เค (Savvio? 15K and 10K) เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความจุสูง รวมทั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รุ่นล่าสุดคือคอนสเตลเลชั่น อีเอส.2 ความจุ 3 เทราไบต์ (Constellation? ES.2 3TB HDD) เพื่อตอบสนองความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก “การบริโภคผลิตภัณฑ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลมากขึ้นไม่ได้เกิดจากการเติบโตของข้อมูลและการใช้งานภายในองค์กรเท่านั้น แต่ยังถูกผลักดันโดยระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์ใหม่ ๆ ซึ่งใช้จัดเก็บข้อมูลภายในองค์กรทั้งทางตรงและทางอ้อม” นายเคิร์ท ริชาร์ซ รองประธานบริหารสายผลิตภัณฑ์ของซีเกท (Kurt Richarz, Seagate EVP of Product Line Management) กล่าว “โซลูชั่นสำหรับจัดเก็บข้อมูลในองค์กรตระกูลใหม่ของซีเกทตอบสนองความต้องการอันหลากหลายในการจัดเก็บข้อมูลของระบบปฏิบัติการที่มีการเติบโตสูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแม่ข่ายสำหรับฐานข้อมูลที่สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็ว การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากและการดึงข้อมูลมาใช้ หรือการทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง” “เมื่อเราเพิ่มความเป็นไปได้ในการจัดเก็บข้อมูล ณ จุดใดก็ตามในเวิลด์ ไวด์ เว็บ เราได้เพิ่มความเป็นไปได้สำหรับการจัดเก็บข้อมูลทุกจุดในเวิลด์ ไวด์ เว็บ” นายจอห์น มอนโรว์ รองประธานฝ่ายวิจัย กลุ่มระบบศูนย์ข้อมูลของการ์ทเนอร์ (John Monroe, a research vice president in Gartner’s Data Center Systems group) กล่าว “มีเดีย แท็บเล็ต (media tablets) และอุปกรณ์มือถืออันชาญฉลาดอื่น ๆ จะทำหน้าที่สร้างความต้องการที่มากขึ้นสำหรับทั้งการจัดเก็บข้อมูลที่มีความจุสูงและมีความเร็วสูงในคลาวด์ ซึ่งต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลสายพันธุ์ใหม่เพื่อจัดการกับการเติบโตของข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและมีความสลับซับซ้อนด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น” พัลซ่าร์.2 (Pulsar.2) และพัลซ่าร์ XT.2 (PulsarXT.2) ประสิทธิภาพที่แท้จริงด้วยความทนทานในระดับองค์กร โซลิดสเตทไดรฟ์รุ่นพัลซ่าร์.2 (Pulsar.2 SSD) เป็นโซลิดสเตทไดรฟ์ตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยีมัลติ-เลเวล เซลล์ (มีความจุสูงถึง 800 กิกะไบต์) จากผู้จำหน่ายฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำหรับองค์กรซึ่งจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพคุ้มราคา ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของข้อมูลและความทนทานที่จำเป็นสำหรับระบบปฏิบัติต่าง ๆ ขององค์กรที่เน้นหนักในด้านประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เหมือนกับโซลิดสเตทไดรฟ์ที่ใช้เทคโนโลยีมัลติ-เลเวล เซลล์อื่น ๆ ซึ่งเคยได้รับการออกแบบสำหรับระบบปฏิบัติการของผู้บริโภค ซึ่งขาดคุณสมบัติความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของข้อมูลและความทนทานที่ถูกกำหนดมาว่ามีความจำเป็นสำหรับระบบปฏิบัติการองค์กร โซลิดสเตทไดรฟ์รุ่นพัลซ่าร์.2 ได้รับการออกแบบตั้งแต่ต้นจนจบสำหรับการใช้งานในองค์กร มันมีความฉลาดในการตรวจพบและแก้ไขความผิดพลาดของข้อมูลจำนวนมากโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงานของไดรฟ์โดยปกติเพื่อนำมาซึ่งความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันของข้อมูลและความทนทานในระดับองค์กรที่สูงที่สุด ในการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีมัลติ-เลเวล เซลล์ แนน (MLC NAND technology) สำหรับองค์กร ไดรฟ์รุ่นนี้ตอบสนองความต้องการของตลาดเกี่ยวกับราคาและความทนทานของโซลิดสเตทไดรฟ์ และจะเอื้ออำนวยให้มีการยอมรับโซลิดสเตทไดรฟ์ในองค์กร พัลซ่าร์.2 มีทั้ง อินเตอร์เฟซแบบ 6 กิกะบิตต่อวินาที ซีเรียล แอทแทช สกั๊ตซี่แบบดั้งเดิม (native 6Gb/s SAS interface) และ อินเตอร์เฟซแบบซาต้า 6 กิกะบิตต่อวินาที (SATA 6Gb/s interface) พัลซ่าร์ เอ็กซ์ที.2 เป็นฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 2.5 นิ้ว ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีซิงเกิ้ล-เลเวล เซลล์ (เอสแอลซี) มีอินเตอร์เฟซแบบ 6 กิกะบิตต่อวินาที ซีเรียล แอทแทช สกั๊ตซี่ (native 6Gb/s SAS interface) เป็นโซลิด สเตทไดรฟ์สำหรับใช้งานในองค์กรที่มีความจุสูงถึง 400 กิกะไบต์จากซีเกท ซึ่งเป็นผู้นำของโลกในด้านการจัดเก็บข้อมูลในองค์กร โซลิดสเตทไดรฟ์รุ่นพัลซ่าร์ เอ็กซ์ที.2 นำมาซึ่งประสิทธิภาพ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของข้อมูล และความทนทานของไดรฟ์ในระดับสูงสุดเพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับการใช้งานภายในองค์กร พัลซ่าร์ เอ็กซ์ที.2 เป็นไดรฟ์ที่ทำงานเร็วที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ ซีเกท ด้วยอัตราการอ่านข้อมูลแบบสุ่ม (sustainable random reads) ที่ 48เค และอัตราการเขียที่ 22เค ไอโอพีเอส (IOPS)ตามลำดับ มีอัตราการอ่านแบบลำดับ 360 เมกกะไบท์ต่อวินาที (360MB/s sequential read) และการเขียนแบบลำดับ 300 เมกกะไบท์ต่อวินาที (300 MB/s sequential write) พัลซ่าร์ เอ็กซ์ที.2 เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริงที่มีความสลับซับซ้อนและมีภารกิจในการทำงานที่ผสมผสานกันภายในองค์กร ทั้งพัลซ่าร์.2และพัลซ่าร์ เอ็กซ์ที.2 เสริมสร้างความเป็นผู้นำของซีเกทในการตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้าองค์กรในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ คุณสมบัติ ความพึงพอใจและการสนับสนุนที่กำลังดำเนินไปทั่วโลก กว่า 200 ปีของการพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์โซลิดสเตทไดรฟ์พัลซ่าร์รุ่นที่สอง ด้วยความน่าเชื่อถือขององค์กรที่ได้รับการยืนยันจากทีมงานที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูลรวมกันกว่า 1,500 ปี ด้วยอัตราความล้มเหลวโดยเฉลี่ย (AFR) เพียงร้อยละ 0.44 ต่ออัตราการใช้งานโดยเฉลี่ย (MTBF) จำนวน 2 ล้านชั่วโมง ผลิตภัณฑ์พัลซ่าร์.2และ พัลซ่าร์ เอ็กซ์ที.2 นำมาซึ่งความน่าเชื่อถือในการจัดเก็บข้อมูลซึ่งศูนย์ข้อมูลขององค์กรต่าง ๆ สามารถไว้วางใจได้ ปัจจุบัน พัลซ่าร์ เอ็กซ์ที.2 กำลังถูกจัดส่งไปยังโออีเอ็ม ทั้งพัลซ่าร์.2และพัลซ่าร์ เอ็กซ์ที.2 จะมีวางจำหน่ายในเครือข่ายการจัดจำหน่ายเริ่มตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ “เอชพียังคงเห็นโอกาสใหม่ ๆ ของเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบโซลิดสเตท เนื่องจากลูกค้าเพิ่มปริมาณงานของระบบเวอร์ชวล (virtual) ซึ่งต้องการประสิทธิภาพสูงขึ้นในขณะที่ลดความต้องการใช้พลังงาน” นายจิม แกนเทียร์ รองประธานฝ่ายการตลาด ระบบและซอฟท์แวร์มาตรฐานอุตสาหกรรมของเอชพี (Jim Ganthier, HP Industry Standard Software and Systems vice president of Marketing) กล่าว “เอชพียังคงตั้งตาคอยความก้าวล้ำนำสมัยของเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลจากซีเกท รวมทั้ง โซลิดสเตทไดรฟ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้นสำหรับใช้งานในระบบและปริมาณงานต่าง ๆ ทั่วทุกส่วนของเอชพี” แซฟวิโอ 15เค.3 (Savvio 15K.3) และแซฟวิโอ 10เค.5 (Savvio 10K.5) - ประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลของฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศที่สูงขึ้น ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำหรับองค์กรขนาดเล็กเพียง 2.5 นิ้ว รุ่นแซฟวิโอรุ่นล่าสุดของซีเกทได้รับการผลิตเพื่อนำมาซึ่งประสิทธิภาพสูง ความน่าเชื่อถือและความจุสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลและเครื่องแม่ข่ายที่มีภารกิจสำคัญ เทียร์ 1 (tier 1, mission-critical server and storage systems) ผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กเพียง 2.5 นิ้วสำหรับการใช้งานในองค์กรกำลังได้รับความนิยมมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีขนาด 3.5 นิ้ว ด้วยไดรฟ์แซฟวิโอซึ่งเพิ่มศักยภาพของศูนย์ข้อมูลโดยไม่เพิ่มพื้นที่ จากการผสมผสานของขนาดที่เล็กกับประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและความจุที่มากขึ้น และใช้อินเตอร์เฟซแบบ 6 กิกะบิต ซีเรียลสกั๊ตซี่รุ่นล่าสุด (the latest 6Gb SAS interface) ในที่สุด ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์แซฟวิโอช่วยทำให้ศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศมีประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลสูงขึ้น แซฟวิโอ 10เค.5 (Savvio 10K.5) นำมาซึ่งความจุสูงที่สุดในฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ขนาด 2.5 นิ้วที่มีหน้าที่สำคัญด้วยความจุสูงถึง 900 กิกะไบต์ ทำให้มันง่ายขึ้นและสะดวกขึ้นในการอัพเกรดการจัดเก็บข้อมูลเพื่อสร้างระบบต่าง ๆ ที่มีความจุและมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากเป็นไดรฟ์ในตระกูลที่หมุนด้วยความเร็ว 10,000 รอบต่อนาที ซึ่งมีขนาดเพียง 2.5 นิ้ว นำเสนอความจุถึงสี่ระดับ (900 กิกะไบต์, 600 กิกะไบต์, 450 กิกะไบต์และ 300 กิกะไบต์) ในแพล็ทฟอร์มแบบเดียวกัน และมีอินเตอร์เฟซให้เลือกทั้ง 6 กิกะบิตต่อวินาที ซีเรียลสกั๊ตซี่ (6Gb/s SAS) หรือ 4 กิกะบิต ไฟเบอร์ ชานเนล (4Gb Fibre Channel) แซฟวิโอ 10เค.5 นำมาซึ่งความสามารถรอบด้านซึ่งโออีเอ็ม ผู้สร้างระบบและผู้ใช้ต้องการ แซฟวิโอ 15เค.3 (Savvio 15K.3) เป็นฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับระบบปฏิบัติการจัดเก็บข้อมูลเทียร์ 1 (tier 1 storage applications) ด้วยความจุ 300 กิกะไบต์และ 146 กิกะไบต์แซฟวิโอ 15เค.3 เหมาะสำหรับระบบที่เน้นหนักในด้านประสิทธิภาพซึ่งยังคงคุ้มค่าสำหรับงบประมาณทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเหมาะสมกับระบบปฏิบัติการจำนวนมาก “เดลล์กำลังตั้งตารอคอยการเปิดตัวของฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 2.5 นิ้วแซฟวิโอรุ่นใหม่ของซีเกท ไดรฟ์รุ่นนี้จะช่วยยกระดับสายผลิตภัณฑ์เครื่องแม่ข่ายและระบบจัดเก็บข้อมูลของเรา ซึ่งได้รับการออกแบบสำหรับผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใส่ใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและต้องการความสมดุลระหว่างความจุ ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ” นายมิเชล มิโตม่า ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิศวกรรมการจัดเก็บข้อมูลของเดลล์ (Michael Mitoma, executive director of Storage Engineering at Dell) กล่าว “ระบบจัดเก็บข้อมูลและเครื่องแม่ข่ายระดับโลกอันหลากหลายของเดลล์ซึ่งใช้ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รุ่นแซฟวิโอของซีเกทสามารถช่วยผลักดันความต้องการของธุรกิจต่าง ๆ ต่อไปในขณะที่นำมาซึ่งผลตอบแทนอันมหาศาลสำหรับการลงทุนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของลูกค้าของเรา” ทั้งแซฟวิโอ 10เค.5และแซฟวิโอ 15เค.3 มีความน่าเชื่อถือด้วยอัตราความล้มเหลวโดยเฉลี่ย (AFR) เพียง ร้อยละ 0.44 ต่ออัตราการใช้งานโดยเฉลี่ย (MTBF) จำนวน 2 ล้านชั่วโมง รวมทั้งมีระยะเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังมีคุณสมบัติในการปกป้องข้อมูล (Protection Information) เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของข้อมูลที่สูงขึ้นและทางเลือกในการเข้ารหัสไดรฟ์ด้วยตนเองหรือเอสอีดี (Self-Encrypting Drive (SED) option) เพื่อปกป้องข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์แซฟวิโอทั้งสองรุ่นกำลังถูกจัดส่งไปยังโออีเอ็ม และจะมี แซฟวิโอ 10เค.5 วางจำหน่ายผ่านทางเครือข่ายการจัดจำหน่ายในช่วงต้นไตรมาสที่ 1 ส่วนแซฟวิโอ 15เค.3 จะมีวางจำหน่ายผ่านทางเครือข่ายการจัดจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่ 2 คอนสเตลเลชั่น อีเอส.2 (Constellation ES.2) ไดรฟ์สำหรับองค์กรที่มีความจุสูงที่สุดจากผู้นำของตลาดเนียร์ไลน์ (Nearline) ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รุ่นคอนสเตลเลชั่น อีเอส.2 เป็นไดรฟ์สำหรับองค์กร ที่มีความจุสูงที่สุด นำเสนอประสิทธิภาพที่ระบบปฏิบัติการซึ่งทำงานตลอด 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันและ 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ต้องการ ทำให้มันเหมาะสมที่สุดสำหรับโซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลที่มีราคาต่อกิกะไบต์ถูกและมีคุณค่าสูง ด้วยความจุมากถึง 3 เทราไบต์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รุ่น คอนสเตลเลชั่น อีเอส.2 มีสมรรถนะเหมาะสำหรับโซลูชั่นของเครื่องแม่ข่ายและโซลูชั่นสำหรับจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก เพิ่มศักยภาพในการจัดเก็บข้อมูลสูงสุดโดยการซัพพอร์ตสูงถึง 114 เทราไบต์ต่อตารางฟุต นอกจากนี้ คอนสเตลเลชั่น อีเอส.2 ยังมีคุณสมบัติ ซีเกท เรด รีบิวด์ (Seagate RAID Rebuild?) ใหม่สำหรับฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ใช้งานในองค์กร ไดรฟ์ที่มีความจุสูงทำให้ต้องใช้เวลาในการกู้คืนของเรด (RAID recovery time) นานขึ้น แต่ด้วยแพล็ทฟอร์มในการพัฒนาซีเกท เรด รีบิวด์ใหม่ ลูกค้าสามารถย่นระยะเวลาของการสูญเสียผลิตภาพได้หลายชั่วโมงระหว่างที่มีการกู้คืนของเรด ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รุ่นคอนสเตลเลชั่น อีเอส.2 เสริมสร้างความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีองค์กรที่ไม่มีใครเทียบได้ของซีเกท โดยการนำเสนอไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้ว รุ่นที่ห้าที่มีความจุสูงที่สุดซึ่งกินไฟต่ำที่สุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล จากการผลิตบนพื้นฐานของความเป็นผู้นำในการพัฒนาฮาร์ดไดรฟ์สำหรับองค์กรของซีเกทด้วยอินเตอร์เฟซซีเรียล แอทแทช สกั๊ตซี่ รุ่นที่สาม คอนสเตลเลชั่น อีเอส.2ยังมีคุณสมบัติต่าง ๆ ในการปกป้องข้อมูลบนพื้นฐานของซีเรียล แอทแทช สกั๊ตซี่ (SAS-based Protection Information) เพื่อการปกป้องข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบ ทางเลือกในการเข้ารหัสข้อมูลด้วยตนเองหรือเอสอีดี (Self-Encrypted Drive (SED) option) สำหรับปกป้องข้อมูลที่จัดเก็บไว้ เทคโนโลยีป้องกันการหมุนและการสั่นสะเทือนหรืออาร์วีเอฟเอฟ (Rotational Vibration Feed Forward (RVFF) technology) ที่ดีที่สุด ซึ่งช่วยรักษาประสิทธิภาพในการทำงานเมื่อฮาร์ดไดรฟ์ถูกนำไปวางในระบบที่มีไดรฟ์หลายตัวจัดเรียงชิดกันมาก และพาวเวอร์ช้อยส์ (PowerChoice) ซึ่งเป็นทางเลือกในการใช้พลังงานต่ำตามที่ต้องการซึ่งช่วยทำให้ไดรฟ์และระบบต่าง ๆ ทำงานอย่างดี “ลูกค้าของเอสจีไอต้องการระบบต่าง ๆ ที่สามารถนำมาซึ่งการผสมผสานของประสิทธิภาพของอินพุตและเอ้าท์พุตสูงและการจัดเก็บข้อมูลอย่างหนาแน่นที่มีความน่าเชื่อถือสูงสำหรับการคำนวณทางด้านเทคนิคและโซลูชั่นสำหรับจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ” นายโฮเซ่ เรโนโซ่ รองประธานฝ่ายวิศวกรรมจัดเก็บข้อมูลของเอสจีไอ (Jose Reinoso, vice president of Storage Engineering at SGI) กล่าว “ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในตระกูลคอนสเตลเลชั่น อีเอสของซีเกทนำเสนอการผสมผสานที่สำคัญของประโยชน์ในการจัดเก็บข้อมูลเพื่อเพิ่มผลิตภาพของลูกค้าของเราและช่วยเอสจีไอในการรักษาระดับความเป็นผู้นำในการนำเสนอระบบต่าง ๆ ในระดับโลก” “ไดรฟ์ที่มีความจุสูงสุดกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากจากฐานลูกค้าของเราและผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีการเติบโตสูงที่สุดและสร้างรายได้มากที่สุดสำหรับธุรกิจของเรา” นายสตีฟ อิชินาก้า รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบูรณาการระบบของซินเน็ค (Steve Ichinaga, senior vice president and general manager of Systems Integration Division at SYNNEX) กล่าว “ไดรฟ์คอนสเตลเลชั่น อีเอสความจุ 3 เทราไบต์ของซีเกทจะช่วยเพิ่มศักยภาพของลูกค้าของเราในการนำมาซึ่งคุณค่าในการจัดเก็บข้อมูลที่สูงขึ้นในโอกาสต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งระบบ ต่าง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับการจัดเก็บข้อมูลแบบเนียร์ไลน์และการใช้งานในคลาวด์ (cloud environment)” คอนสเตลเลชั่น อีเอส.2 มีจำหน่ายทั้งอินเตอร์เฟซ 6 กิกะบิตต่อวินาที ซีเรียล เอทีเอ (ซาต้า) (6Gb/s Serial ATA (SATA)) และ 6 กิกะบิตต่อวินาที ซีเรียล แอทแทช สกั๊ตซี่ (เอสเอเอส) (6Gb/s Serial Attached SCSI (SAS)) ปัจจุบัน ไดรฟ์รุ่นนี้กำลังถูกจัดส่งไปยังโออีเอ็มและมีวางจำหน่ายผ่านทางเครือข่ายการจัดจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ