กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--บลจ.แอสเซท พลัส
          บลจ.แอสเซท พลัส เสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม — 7 เมษายน 2554 กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 9 (ASP-ACFIXED9) ลงทุนในพันธบัตร และตราสารหนี้ธนาคารในประเทศ อายุประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทน 2.25% ต่อปี* 
          ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ปัจจัยด้านการลงทุนในตราสารหนี้ที่ยังต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งปัจจุบันปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อ และเริ่มกระจายวงกว้างขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สถานการณ์ในประเทศภายหลัง การเลือกตั้งในช่วงครึ่งปีหลัง หากรัฐบาลมีการประกาศลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล จะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศมีโอกาสปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 4% และกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อได้ ในส่วนของบริษัทฯ มีมุมมองว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะอยู่ที่ระดับ 3.50-4.00% ภายในสิ้นปีนี้ ดังนั้น ในด้านกลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ บริษัทฯ แนะนำให้นักลงทุนลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นภายในประเทศ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้นในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น
          ดร.วิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม — 7 เมษายน นี้ บลจ.แอสเซท พลัส จะเสนอขาย IPO กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 9 (ASP-ACFIXED9) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทยที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยในรอบการลงทุนแรกนี้ กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงิน และหุ้นกู้ระยะสั้นที่ออกโดยธนาคารในประเทศ ประมาณ 3 เดือน เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วแลกเงินธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) ตั๋วแลกเงินธนาคารทิสโก้ (TISCO) และหุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารดอยช์แบงก์ (DB) โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 2.25% ต่อปี* 
          *รายละเอียดพอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 9 (ASP-ACFIXED9)
ชื่อตราสาร                              Credit Rating    ผลตอบแทนของตราสารโดยประมาณ  สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ  ผลตอบแทนจากการลงทุน  
                                      โดย TRIS Rating  (%ต่อปี)*                     (%)                    (%ต่อปี)              
พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่น CB11630B  รัฐบาล            2.40                        31.00%                 0.74                
ตั๋วแลกเงินธนาคารนครหลวงไทย (SCIB)       A+               2.60                        20.00%                 0.52                
ตั๋วแลกเงินธนาคารทิสโก้ (TISCO)            A                2.65                        25.00%                 0.66                
หุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารดอยช์แบงก์ (DB)          FITCH: AA-/ F1+  2.50                        24.00%                 0.60                
รวม                                   100.00%          2.53                        
ประมาณการค่าใช้จ่าย                      0.28             
อัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายโดยประมาณ     2.25
          *สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และผู้ขายตราสาร ณ 28 มีนาคม 2554 หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ระบุไว้ และตราสารที่ลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด หรือตามที่ผู้จัดการกองทุนเห็นสมควร
          ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม 
          ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111 
          สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร 
          โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: [email protected]