กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--เวิรฟ
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคงปฏิเสธไม่ได้ในกระแสความแรงของแท็บเล็ตทั่วโลก ที่ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกมีเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางการแข่งขันในตลาดที่ร้อนระอุ บรรดาผู้ประกอบการชั้นนำทั้งหลายต่างพากันเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นต่างๆ ออกมาแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำและดีไซน์สุดเฉียบที่ไม่มีใครยอมน้อยหน้าใคร ประโยชน์ก็คงตกอยู่ที่ผู้บริโภคที่มีทางเลือกมากขึ้น ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม
ซัมซุง หนึ่งในผู้นำนวัตกรรมสมาร์ทแท็บเล็ตระดับโลกที่นับได้ว่าเป็นผู้กระตุ้นตลาดและสร้างกระแส ความตื่นตัวให้กับตลาดโดยการเปิดตัว “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ (Samsung Galaxy Tab)” สมาร์ทแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว พกพาสะดวก และทำยอดขายทั่วโลกสะพัดได้มากกว่า 2 ล้านเครื่อง นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับ ผลิตภัณฑ์เซ็กเมนท์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย ซึ่งซัมซุงเป็นอินเตอร์แบรนด์เจ้าแรกและเจ้าเดียวในตลาดที่มี แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว ก่อให้เกิดเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ในการใช้งานแท็บเล็ตเพื่อการทำงาน โทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร และการใช้เพื่อความบันเทิงแบบ On the Go และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในระยะเวลาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีผู้ประกอบการอีกหลายแบรนด์ทยอยเปิดตัวแท็บเล็ตออกมาสู้ศึกกันอย่างมากมาย
เมื่อกระแสการใช้แท็บเล็ตถาโถมอย่างรุนแรง การแข่งขันที่ดุเดือดจึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านนวัตกรรมล้ำหน้า ดีไซน์ที่สวยงามบางเฉียบ หรือแข่งที่ราคาซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผู้บริโภคพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ในการเลือกซื้อแท็บเล็ต เมื่อมีรุ่นใหม่ๆ ออกมา แท็บเล็ตรุ่นก่อนๆ ก็ต้องปรับราคาลงตามกลไกทางการตลาดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค
หลังจากได้เปิดตัว ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ ขนาด 7 นิ้วไปแล้ว ซัมซุงก็มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จนล่าสุดเพิ่งเปิดตัว “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ 10.1 นิ้ว (Samsung Galaxy Tab 10.1)” ไปเมื่อเร็วๆ นี้ที่งาน Mobile World Congress 2011 ที่บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน และเรียกเสียงฮือฮาจากสาวกแท็บเล็ตทั่วโลก ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ชัดเจนขึ้น พร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน หลังจากนั้นไม่นานแบรนด์คู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันมาระยะหนึ่งก็ได้เปิดตัวทายาทรุ่นที่ 2 ออกมาที่บางกว่าเดิม ทำให้แท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์เดียวกันต้องทำการลดราคาลงมา ส่งผลให้อุณหภูมิการแข่งขันในตลาดแท็บเล็ตพุ่งสูงขึ้นร้อนระอุไปทั่วโลก
นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงการปรับตัวของซัมซุงเพื่อต่อกรกับการแข่งขันอันดุเดือดว่า “จากการที่แบรนด์คู่แข่งได้เปิดตัวทายาทรุ่นที่ 2 ออกมาด้วยขนาดที่บางกว่าเดิม ทำให้แท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์เดียวกันต้องทำการลดราคาลงมาอยู่ที่หนึ่งหมื่นต้นๆ นั้น นับเป็น ความท้าทายที่ทำให้ซัมซุงต้องโชว์ศักยภาพที่เหนือกว่าในทุกๆ ด้านทั้งในด้านตัวผลิตภัณฑ์เองและในด้านราคา ซัมซุงจึงปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างรวดเร็ว ด้วยความแข็งแกร่งของทีม R & D เพียงชั่วข้ามคืนทำให้ซัมซุงสามารถที่จะปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ออกมาโดยมีรูปโฉมที่บางลงจากที่เปิดตัวครั้งแรกที่ 10.9 มม. เป็น 8.6 มม. ในราคาที่ย่อมเยาว์ลง หรือเริ่มต้นเพียง 499 ดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น สำหรับความจุ 16 กิกะไบต์ นับว่าเป็นการมองสถานการณ์ได้ขาด และปรับตัวตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วเกินคาด”
“สำหรับแผนการทำตลาดสมาร์ทแท็บเล็ตของซัมซุงนั้น ซัมซุงจะยังคงจำหน่าย กาแล็คซี่ แท็บ ขนาด 7 นิ้ว ต่อไปอย่างน้อยจนกระทั่งสิ้นปี ด้วยกระแสที่ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่มากทั้งในตลาดโลกและตลาดในเมืองไทย แต่ด้วยกระแสการแข่งขันที่รุนแรง ประกอบกับการตัดราคาขาย และมีการนำเครื่องหิ้วเข้ามาจากต่างประเทศมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าเป็นจำนวนมาก ทำให้ซัมซุงตัดสินใจปรับกลยุทธ์ด้านราคาของซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ ขนาด 7 นิ้ว เพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภคที่กำลังมองหาแท็บเล็ตมาใช้ ทั้งยังคงความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ ขนาด 7 นิ้ว จะวางจำหน่ายในราคา 14,900 บาท ตั้งแต่ 4 เมษายนนี้ เป็นต้นไปที่ร้านซัมซุง ช็อป และตัวแทนจำหน่ายซัมซุงทั่วประเทศ”
“การแข่งขันในตลาดแท็บเล็ตยังคงต้องดูกันอีกไกล เพราะนี่เป็นเพียงช่วงเริ่มแรกของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์เท่านั้น สำหรับซัมซุงเองก็จะยังคงไม่หยุดยั้งในการพัฒนาสมาร์ทแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ ที่ล้ำหน้าเกินใครทั้งในด้านฟังก์ชันและดีไซน์ออกมาสู่ตลาดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคอย่างแน่นอน” นายวิชัยกล่าวสรุป