กทม. ทุ่มงบฯ 22 ล้านบาท สนับสนุนการดำเนินงานศตส.กทม.

ข่าวทั่วไป Thursday June 7, 2007 15:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--กทม.
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ศตส.กทม. อนุมัติงบประมาณ จำนวน 22,345,000 บาท ปรับปรุงเรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 เป็นสถานที่ควบคุมผู้ต้องสงสัยเสพ/ติดยาเสพติด อันเป็น การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนผู้ถูกควบคุมตัวคดีเสพ/ติดยาเสพติด
เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย. 50) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้อง เยี่ยมชมสถานที่ควบคุมผู้เกี่ยวข้องคดีเสพ/ติดยาเสพติด ระหว่างการตรวจพิสูจน์ฯ เรือนจำกลางคลองเปรม และสถานที่ควบคุมตัวระหว่างการตรวจพิสูจน์ฯ ที่จะดำเนินการแห่งใหม่ ภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในส่วนของผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดที่ถูกดำเนินการตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ปัจจุบันประสบปัญหาในเรื่องสถานที่ควบคุมตัวระหว่างการตรวจพิสูจน์ เนื่องจากสถานที่ไม่เพียงพอ เพราะมีผู้ที่ถูกควบคุมตัวเป็นจำนวนมากทำให้ต้องอยู่อย่างแออัด ไม่มีคุณภาพชีวิต กรมคุมประพฤติซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 จึงได้ประสานงานกับกรมราชทัณฑ์และได้รับความร่วมมือในการอนุญาตให้ใช้ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ (ติดกับเรือนจำกลางคลองเปรม) ซึ่งมีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์พื้นที่ประมาณ 14 ไร่ มีเรือนนอนคอนกรีต 3 ชั้น 2 หลัง สามารถรับผู้ที่ต้องควบคุมตัวได้ 800-1,000 คน อีกทั้งมีส่วนประกอบที่เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติงาน เช่น โรงเลี้ยงอาหาร โรงครัว ที่อาบน้ำ ลานอเนกประสงค์ อาคารที่ทำการ โรงฝึกวิชาชีพ ฯลฯ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นแดนแยกเป็นสัดส่วนออกจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์อย่างชัดเจน เหมาะที่จะใช้ควบคุมผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ และ ได้ประสานมายังกรุงเทพมหานครเพื่อขอสนับสนุนงบประมาณจากกรุงเทพมหานครเพื่อปรับปรุงสานที่ดังกล่าว ในการนี้สำนักอนามัย ในฐานะเลขานุการ ศตส.กทม. จึงได้เสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุม ศตส.กทม. เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 50 ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้กรุงเทพมหานครสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 22,345,000 บาท โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้อนุมัติให้จัดสรรเงินงบกลางกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร อนุมัติเบิกจ่ายเงินเป็นกรณีพิเศษเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ถูกควบคุมตัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สถานที่ไม่แออัด คณะอนุกรรมการฯ ไม่ต้องพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเพสติดไม่กลับไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และไม่ก่ออาชญากรรมอื่นๆ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชุมชนได้อีกต่อไป
ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการปรับปรุงสถานที่ฯ คาดว่าใช้เวลาทั้งสิ้น 10 เดือน โดยจะแบ่งเป็น 2 เฟส ซึ่งในเฟสแรกจะเป็นการปรับปรุงเรือนนอน โรงอาหาร ห้องอาบน้ำ และสุขา คาดว่าใช้เวลาในการปรับปรุงประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นจะปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดทำสถานที่สำหรับกิจกรรมสันทนาการ อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นจะให้เจ้าหน้าที่สำนักการโยธาตรวจสอบความแข็งแรงโครงสร้างอาคารที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อดูแลความปลอดภัยในการใช้อาคารที่มีอยู่ในปัจจุบัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ