MOVIE: "Let The Bullets Fly"

ข่าวบันเทิง Monday April 4, 2011 10:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--สหมงคลฟิล์ม Let the Bullets Fly ประเภท แอ็คชั่น-คอมเมดี้ กำหนดฉาย 13 เมษายน 2011 ความยาว 132 นาที เว็บไซด์ภาพยนตร์ - บริษัทจัดจำหน่าย มงคลซีเนม่า อำนวยการสร้าง บาร์บี้ ถัง (The Myth, New Police Story) กำกับ/เขียนบท เจียงเหวิน (กำกับ: Devils on the Doorstep, The Sun Also Rises) นำแสดง โจวเหวินฟะ (Confucius, Shanghai, Curse of the Golden Flower) เจียงเหวิน (แสดง: Warriors of Heaven and Earth, Jasmine Women) หลิวเจียหลิง (Detective Dee, Infernal Affairs II-III) ฮูจุน (Red Cliff I-II, Bodyguards and Assassins) เกอโหยว (The Banquet, A World Without Thieves) การกลับมาแสดงหนังยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ของ โจวเหวินฟะ ผลงานทุนสร้าง 600 ล้านบาท ระดมทีมงานจาก Warriors of Heaven and Earth และ The Emperor and the Assassin โดยผู้สร้าง The Myth และ New Police Story ---------------------------------------------------เนื้อเรื่อง---------------------------------------------------- ซุปเปอร์สตาร์แห่งเอเชีย “โจวเหวินฟะ” จับมือกับยอดผู้กำกับ เจียงเหวิน ใน Let the Bullets Fly หนังจีนยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ที่มีฉากดวลปืนอันดุเดือด การไล่ล่าที่ตื่นเต้นเร้าใจ และรวมถึงลูกบ้าที่สนุกสนานตามสไตล์หนังแอ็คชั่น/คอมเมดี้ ผลงานทุนสร้าง 600 ล้านบาท ที่เป็นการระดมทีมงานคุณภาพระดับโลกอย่าง เจ้าเฟย ผู้กำกับภาพจาก The Emperor and the Assassin และ Warriors of Heaven and Earth และ วิลเลี่ยม ชาง ผู้ออกแบบงานสร้างคู่บุญของผู้กำกับ หว่องการ์ไว ที่มีผลงานที่ผ่านมาอย่าง Chungking Express, In The Mood For Love และ 2046 ประเทศจีนในช่วงทศวรรษที่ 20 แม่ทัพจีนต่างช่วงชิงความใหญ่ ประเทศตกอยู่ในกลียุค หัวเมืองต่างๆถูกปกครองโดยรัฐบาลฉ้อฉล และทหารผู้กระหายอำนาจ ใช้กองกำลังส่วนตัวบุกยึดตามหัวเมือง ขณะที่ชีวิตในชนบทเองก็ย่ำแย่ไม่ต่างกัน เมื่อประชาชนตกเป็นเหยื่อของกองโจร ที่สั่งสมกำลังและตั้งกฏเป็นของตัวเอง ในโลกอันโหดร้าย ชีวิตของคนมักจะแสนสั้นและไร้ค่า แต่มีผู้ชายคนหนึ่งที่มีอดีตอันลึกลับ เขามีชื่อเล่นฟังดูน่าขันว่า "พอร์คกี้" หรือชื่อจริงคือ จางมู่จื่อ (เจียงเหวิน) มือปืนฝีมืขั้นเทพและหัวหน้ากองโจรที่ถูกเรียกว่า แก๊งค์ไพ่นกกระจอก เริ่มแรกเลยนั้นมันดูเหมือนการดักปล้นรถไฟธรรมดา แต่กลับกลายเป็นบทสรุปที่นองเลือดแบบไม่ตั้งใจ จาง พบว่าตัวเองต้องสวมรอยเป็นนายกเทศมนตรี ที่เสียชีวิตระหว่างเดินทางไปรับตำแหน่งที่เมืองทางตอนใต้ แต่สิ่งที่ จาง ไม่รู้ก็คือ ถัง (เกอโหย่ว) นายกเทศมนตรีไม่ได้เสียชีวิตจากการบุกปล้น และการดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด เขาได้สวมรอยเป็นที่ปรึกษาที่เสียชีวิตไป และเป็นที่ปรึกษาของ จาง ที่ปลอมตัวเป็นนายกเทศมนตรี ที่น่าสนุกไปกว่านั้นสำหรับ จาง และแก๊งค์ของเขา คือเมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงจุดหมาย ก็พบว่าเมืองแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของ หวง (โจวเหวินฟะ) พ่อค้าผู้ร่ำรวยและโหดเหี้ยม ทั้งสองต่างรู้สึกได้ถึงการคุกคามจากอีกฝ่าย พวกเขาต้องเผชิญหน้ากันในการแย่งชิงอำนาจ และต้องพยายามหาแผนการและสั่งสมกำลัง เพื่อกำจัดอีกฝ่ายและเป็นผู้ครองอำนาจแต่เพียงผู้เดียว -----------เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เบื้องหลังเหตุการณ์ใน Let the Bullets Fly-------------- ในปี 1911 การปฏิวัติประเทศจีนนำโดย ดร.ซุนยัตเซ็น ได้ล้มล้างราชวงศ์ชิงที่กำลังอ่อนแอ และได้ปูทางไปสู่การเป็นสาธารณรัฐ อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็ยังขาดกำลังคนในการต่อสู้กับอำนาจของกองทัพจากระบบการปกครองเก่า ที่ยังคงครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่เหมือนเผด็จการที่มีกองกำลังเป็นของตัวเอง เพื่อความอยู่รอดของสาธารณรัฐ ดร. ซุน ได้ต่อทำข้อตกลงกับ นายพลหยวนซื่อไข่ ผู้บังคับบัญชาการกองทัพเป่ยหยางที่ทรงอำนาจ ภายใต้ข้อตกลง ดร. ซุน ยอมถอยออกมา เพื่อให้ นายพลหยวน เป็นประธานาธิปดี เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ นายพลหยวน ใช้กำลังจัดการกับเผด็จการจากอำนาจเก่า แต่ทุกอย่างมาถึงจุดสิ้นสุดในช่วงปลายปี 1915 เมื่อ นายพลหยวน ประกาศความตั้งใจที่จะเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ นั้นทำให้เกิดการต่อต้านทั่วประเทศ แม้กระทั่งผู้ที่สนับสนุน นายพลหยวน ภายในกองทัพเป่ยหยาง เมื่อ นายพลหยวน เสียชีวิตอย่างกระทันหันในปีถัดมา ความโกลาหลก็ก่อตัวขึ้น กองทัพใหญ่และเล็กต่างพยายามขยายอำนาจให้มากที่สุด -------------------ผู้กำกับ เจียงเหวิน พูดถึงการสร้าง Let the Bullets Fly------------------ ในการสร้างภาพยนตร์ เกือบทุกครั้งที่มันเกิดขึ้นจากความจำเป็นและบังเอิญ Let the Bullets Fly ก็เป็นหนึ่งในนั้น สำหรับผมแล้วมันเกิดขึ้นหลังจากที่ผมกำกับ In the Heat of the Sun, Devil on the Doorstep และ The Sun Also Rises หนังสามเรื่องที่ผมต้องการทำตั้งแต่เข้าวงการ โดยแต่ละเรื่องก็มีบรรยากาศและทิศทางในการเล่าเรื่องที่ต่างกัน ตอนนี้ทั้งสามเสร็จสิ้นหมดแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองสามารถเปิดรับสิ่งอื่นที่สนใจได้ การทำสร้างหนังกลายเป็นเรื่องที่เป็นอิสระและเป็นโลกที่กว้างใหญ่ขึ้นสำหรับผม...แล้วอุบัติเหตุก็เกิดขึ้น ผมอ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนังสือของ หม่าซีตู นักเขียนชาวเสฉวนชื่อดัง ที่มีทั้งความตื่นเต้น ขอบเขตเรื่องที่กว้างใหญ่ และอารมณ์ร่วมที่เชื่อมถึงผู้ชมได้ทั่วโลก อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกสนใจ นั้นคือการมองทะลุเข้าไปถึงจิตใจของตัวละคร และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในโลกของพวกเขา เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาต้องเจอกับชะตากรรมที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำคัญของเรื่อง ความน่าสนใจสำหรับผมก็คือการมองเรื่องราวได้หลายแง่มุม เมื่อคุณพร้อมที่จะดำดิ่งไปกับมัน อารมณ์ความรู้สึกของคุณก็จะยิ่งถูกกระเทาะเปลือกออกมา มีตัวละครมากมายใน Let The Bullets Fly ทั้งหมดมีตัวตนของตัวเอง โดยพื้นผิวแล้วเรื่องราวอาจดูมีความซับซ้อน แต่ใจความสำคัญของเรื่องนั้นมีความเรียบง่าย ในระหว่างการทำเตรียมงานสร้าง ผมมักจะเอามุมมองของตัวเองใส่เข้าในตัวละครอย่าง จาง สำหรับผมแล้ว จาง และ Let the Bullets Fly ถ่ายทอดความรู้สึกและทำให้ผมค้นพบตัวตนอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการในจุดนี้ของชีวิต ---------------------------------------------เบื้องหลังการสร้าง--------------------------------------------- หอสังเกตุการณ์ไคผิง หอสังเกตุการณ์ไคผิง ได้มอบผลงานด้านภาพที่แตกต่าง ไม่เพียงแต่จะเป็นฉากหลังที่สำคัญของ Let the Bullets Fly แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้รับเลือกจากคณะกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกแห่งยูเนสโก ครั้งที่ 31 หอสังเกตุการณ์ไคผิง อยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ที่มีบทบาททางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ปลายยุคราชวงศ์ชิงจนถึงช่วงสาธารณรัฐช่วงแรก หมิงซื่อโหลว หมิงซื่อโหลว เป็นอาคารที่ใช้เป็นแมนชั่นของ หวง ใน Let the Bullets Fly เป็นหนึ่งในอาคารเก้าหลังที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน ถูกสร้างในปีค.ศ. 1925 โดยชาวจีนที่ไปค้าขายในอเมริกาจนประสบความสำเร็จ โดยมีการใช้เสาแบบยุคโรมัน และโดมแบบยุคไบแซนไทน์ หมิงซื่อโหลว เป็นตึกที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และเป็นตัวอย่างของการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกและตะวันออก ลานกว้างตระกูลเหมย ลานกว้างตระกูลเหมย เป็นสถานที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ทางสถาปัตยกรรมของ หอสังเกตุการณ์ไคผิง โดยเมื่อย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1931 ลานกว้างเปรียบได้กับเมืองขนาดย่อม โดยมีตึกขนาดสามชั้นมากกว่า 108 อาคาร บนพื้นที่ที่กว้างมากกว่า 5 เอเคอร์ โดยเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ใน Let the Bullets Fly จะเป็นสถานที่ที่ถูกใช้ในฉากปะทะกันระหว่างแก๊งค์ของ จาง และเจ้าถิ่นอย่าง หวง ออกแบบงานสร้างและเครื่องแต่งกาย องค์ประกอบน่าสนใจใน Let the Bullets Fly ก็คือผลงานโปรดักชั่นที่อลังการและการออกแบบเครื่องแต่งกาย โดยผู้ออกแบบงานสร้างก็คือ วิลเลี่ยม ชาง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาทำงานสร้างบรรยากาศของสาธารณรัฐยุคแรก โดยเขาต้องค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อที่จะได้สร้างได้อย่างสมจริงที่สุด ทั้งความสง่างามของชุดกี่เพ้า ที่สวมโดย หลืวเจียหลิง รวมถึงชุดทหารและแจ็คเก็ตที่เป็นเอกลักษณ์ของ ดร.ซุนยัตเซ็น ที่ผู้ชายหลายคนในเรื่องสวมใส่ และรวมถึงชุดแบบชาวตะวันตกของ โจวเหวินฟะ ----------------------------------------------แนะนำตัวละคร----------------------------------------------- The Godfather (รับบทโดย โจวเหวินฟะ) หวง คือเจ้าเมืองที่เหี้ยมโหด เขาร่ำรวยจากการค้าฝิ่นและส่งแรงงานชาวจีนไปทั่วโลก และเข้ายึดครองเมืองทางตอนใต้เพื่อเป็นอาณาจักรของตัวเอง จนกระทั่งผู้ชายที่มีลักษณะเช่นเดียวกับเขาอย่าง จาง เดินทางมาถึง และสวมรอยเป็นนายกเทศมนตรีคนใหม่ การปะทะกันระหว่างชายสองคนที่ไม่รู้จักคำว่าถอยจึงบังเกิดขึ้น The Hooker (รับบทโดย โจวหยุน) นางโลมจิตใจดี เธอเป็นผู้หญิงในสังกัดของ หวง ความงามของเธอไม่เพียงแต่จะได้รับความสนใจจากบรรดาสมุนของ จาง แต่ก็ยังรวมถึงตัวหัวหน้าเองด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์ตึงเครียดในเมืองเริ่มบานปลาย เธอก็ต้องตัดสินใจเลือกว่าจะยืนอยู่ข้างไหน The Enforcer (รับบทโดย เฉินคุน) หูฮั่น คือมือขวาคนสนิทของ หวง ไม่เพียงแต่ที่เขาจะเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้านาย เขายังมีความโหดเหี้ยมและบ้าอำนาจไม่ต่างกัน นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ หูฮั่น ได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมประชาชนในเมืองตามคำสั่งของ หวง The Butler (รับบทโดย เหยาลู่) หูเฉียน คือลูกน้องขี้ประจบและยอมทำทุกอย่างตามที่ หวง ต้องการ โดยเขารวมถึง หูฮั่น และ หูไป๋ คือสามมือสังหารที่ทำเรื่องเลวร้ายไปทั่วเมือง The Martial Scholar (รับบทโดย เจียงอู่) วู่จือชง คือผู้ฝึกสอนกองทัพของ หวง เขามีความภูมิใจในตำแหน่ง "บัณฑิตของราชวัง" ที่ราชวงศ์ชิงเคยมอบตำแหน่งให้เขาก่อนล่มสลาย ถึงแม้ว่าจะดูน่าเกรงขามแต่ภายใจจิตใจของเขาก็มีแต่ความกลัว เขาไม่เชื่อใจใครนอกจากตัวเอง The Fake (รับบทโดย หูจุน) อาวุธลับคนสำคัญของ หวง เขาคือหัวหน้ากองโจรที่ปล้นชิงแถบชานเมือง โดยอ้างตัวว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ไพ่นกกระจอก แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหัวหน้าแก๊งค์ตัวจริงอย่าง จาง เขาก็รู้ว่าตัวเองเจอกับของแข็งเสียแล้ว The Governor (รับบทโดย เจียงเหวิน) หัวหน้าของกองโจรชื่อดัง "แก๊งค์ไพ่นกกระจอก" จาง คืออดีตเจ้าหน้าที่ทหารที่กลายเป็นคนนอกกฏหมาย หลังจากที่กองทัพของเขาแตกพ่ายหลังจากการช่วงชิงอำนาจในยุค 20 เขาคือนักแม่นปืนที่เก่งที่สุดและทำชอบตัวเหมือนกับ โรบิน ฮู้ด จาง ต้องกลายเป็นฮีโร่จำเป็น เมื่อเขาสวมรอยเป็นนายกเทศมนตรีเพื่อเข้ามาจัดการเผด็จการครองเมือง Number Two (รับบทโดย เซาปิง) เบอร์สองที่ จาง วางใจที่สุด เขามีลักษณะของผู้นำ เมื่อถึงเวลาคับขันเขาก็พร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ และนำสมาชิกแก๊งค์ทุกคนทำตามคำสั่งของหัวหน้าอย่างเคร่งขัด Number Three (รับบทโดย เหลียวฟาน) เบอร์สามที่กล้าหาญและมีความสามารถ เขาจะอยู่แถวหน้าสุดเวลาอยู่ในสนามรบเสมอ โดยเมื่อเดินทางมาถึงเมือง เขาตกหลุมรักกับ ฟลอร่า ซึ่งอยู่ในการดูแลของ หวง การเดินตามหัวใจของเบอร์สามกลายเป็นอีกหนึ่งชนวนของความขัดแย้ง Number Four (รับบทโดย จอห์น โด) เงียบขรึมและชอบครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง เขาเป็นผู้ชายที่ใช้การกระทำแทนคำพูด Number Five (รับบทโดย หลี่จิง) เขาเป็นคนที่จงรักภักดีกับ จาง มากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังเป็นนักแม่นปืนที่เก่งไม่แพ้ จาง อีกด้วย Number Six (รับบทโดย จางโม) สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของแก๊งค์ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ จาง มีความเป็นพ่อกับลูกมากกว่าหัวหน้าและลูกน้อง แต่แล้วก็เกิดเหตุบางอย่างกับเขาที่ทำให้ จาง กับ หวง ถึงจุดแตกหัก The Counselor (รับบทโดย เกอโหย่ว) ถัง คือนักล่อลวงที่คิดว่าตัวเองเจอแจ็คพ็อต เมื่อเขาได้รับโอกาสสวมรอยเป็นนายกเทศมนตรี แต่โชคร้ายที่ต้องเจอกับแก๊งค์ไพ่นกกระจอกของ จาง ที่บุกปล้นรถไฟ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการปลอมตัวเป็นที่ปรึกษาของ จาง จนกว่าเขาจะสามารถหาทางทำให้ตัวเองหลุดพ้น... ไปพร้อมกับผลประโยชน์กับตัวเอง The Mistress (รับบทโดย หลิวเจียหลิง) คนรักของ ถัง ที่ช่วยเขาในการสวมรอยเป็นนายกเทศมนตรี เธอคืออดีตนางโลมที่ต้องเล่นละครต่อด้วยการเป็นภรรยาของนายกเทศมนตรี เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยกลัวและไม่ปล่อยวาง โดยเฉพาะหลังจาก จาง เข้ามาสวมรอยเป็นสามีคนใหม่ของเธอ The Dead counselor (รับบทโดย เฟิงเสี่ยวกัง) ที่ปรึกษาผู้โชคร้ายของ ถัง ที่เดินทางไปพร้อมกับเขาในการรับตำแหน่งนายกเทศมนตรี กระทั่งเขาพบกับเรื่องราวที่ไม่คาดฝันจนทำให้เจ้านายของเขาต้องสวมรอยรับตำแหน่งเก่าของเขาเสียเอง The Wife (รับบทโดย เหมียวพู่) ภรรยาของ ถัง ที่ถูกทิ้งเอาไว้ที่บ้านเกิด เธอตัดสินใจเดินทางข้ามประเทศกับลูกชายคนโต เพื่อตามหาสามีหลังจากที่ลูกคนเล็กถูกเจ้าหนี้ของ ถัง จับเป็นตัวประกัน -------------------------------------------------ทีมนักแสดง------------------------------------------------- โจวเหวินฟะ (รับบทเป็น หวง) เขาเกิดเมื่อปี 1955 ในเมืองจงซาน มณฑลกวางตุ้ง และไปเติบโตบนเกาะฮ่องกง เขาเข้าเรียนในสถาบันสอนการแสดงของสถานีโทรทัศน์ TVB ด้วยความสามารถที่ล้นเหลือ ทำให้เขาได้รับเลือกเล่นบทนำในละครโทรทัศน์และกลายเป็นขวัญใจของคนดูของชาวฮ่องกงอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเส้นทางการแสดงนหนังของเขาก็เริ่มขึ้น โดยตั้งแต่ปี 1976 เขาแสดงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 81 เรื่อง ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยยี่ยมมากแล้วจากทุกสถาบันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Hong Kong Film Awards, the Golden Horse Film Awards ของไต้หวัน และ the Asia-Pacific Film Festival ชื่อเสียงภายนอกประเทศของเขาก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน โดยเขาแสดงในหนังชื่อดังอย่าง City on Fire และ Prison on Fire ของ ริงโก้ แลม รวมถึงผลงานสร้างชื่ออย่าง A Better Tomorrow, A Better Tomorrow II, The Killer, Once a Thief และ Hard-Boiled ที่เขาร่วมงานกับผู้กำกับคู่บุญ จอห์น วู และทำให้เขาได้รับโอกาสแสดงหนังฮอลลิวู้ด เช่น The Replacement Killers และ Pirates of the Caribbean: At World’s End โจวเหวินฟะ ยังคงกลับมารับแสดงในภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่ในบ้านเกิดเสมอ ดังที่ได้เห็นจากหนังอย่าง Crouching Tiger, Hidden Dragon และ Curse of the Golden Flower รวมถึงหนังคุณภาพที่เป็นตัวแทนภาพยนตร์จีนที่ถูกส่งชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อย่าง Confucius อีกด้วย หลิวเจียหลิง (รับบทเป็น The Mistress) หลิวเจียหลิง เกิดในซูโจว ประเทศจีน ปี 1965 เธออพยพไปเกาะฮ่องกงตั้งแต่อายุ 14 และเริ่มเป็นนักแสดงละครโทรทัศน์ให้กับทาง TVB เธอเริ่มมีผลงานภาพยนตร์ครั้งแรกในเรื่อง Naughty Boys ก่อนที่จะมาโด่งดังในหนังตลกสลับร่าง He's a Woman, She's a Man ของผู้กำกับ ปีเตอร์ ชาน คู่กับ เลสลี่ จาง และเรื่อง The Eagle Shooting Heroes ที่แสดงคู่กับ โจวซิงฉือ อย่างไรก็ตาม หลิวเจียหลิง เป็นที่รู้จักกับการแสดงในหนังดราม่าที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่บทบาทแจ้งเกิดของเธอเรื่อง I am Sorry โดยเธอยังทำงานร่วมกับผู้กำกับชื่อดังมากมาย เช่น สแตนลี่ย์ กวาน, แอน ฮุย และ โหวเชี่ยวเฉียน ผลงานการแสดงของเธอมีมากกว่า 2 ทศวรรษ รวมถึงบทนักเต้นสุดเซ็กซี่ใน Days of Being Wild และหัวหน้าแก๊งท์มาเฟียใน Infernal Affairs II หลิวเจียหลิง เพิ่งมีผลงานการแสดงล่าสุดใน Detective Dee ที่เธอแสดงร่วมกับ หลิวเต๋อหัว, หลี่ปิงปิง และ เหลียงเจียฮุย โดยรับบทเป็น จักรพรรดินีบูเช็กเทียน และจากการแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอ ก็ทำให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในเทศกาลหนังเมืองเวนิส เกอโหย่ว (รับบทเป็น ถัง) ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกอโหย่ว เป็นนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินจีน เขาสร้างชื่อจากการรับบทเป็นผู้ชายธรรมดาที่เชื่อมถึงได้กับประชาชนทุกคน โดยเริ่มมีผลงานคุณภาพอย่าง Ballad of the Yellow River และ After Seperation ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Golden Rooster Award ก่อนที่จะทำให้ผู้ชมต้องตะลึงกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมเคียงข้างกับ กงลี่ ในภาพยนตร์ของ จางอี้โหมว ที่ชื่อ To Live ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ เขาคือนักแสดงที่สามารถเล่นได้ทุกบทบาท เกอโหย่ว มักได้รับบทตลกในหนังชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Be There or Be Square, Big Shot's Funeral และ Cell Phone เขาถือเป็นขวัญใจของผู้ชม และยังเป็นนักแสดงคู่บุญของผู้กำกับคุณภาพ เฟิงเสี่ยวกัง ที่ได้ร่วมงานกันมาตลอด เช่น A World Without Thieves, The Banquet และหนังโรแมนติกคอมเมดี้ ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอย่าง If You Are the One ฮูจุน (รับทเป็น จาง ตัวปลอม) ผลงาน >>> Red Cliff I-II, Bodyguards and Assassins, Hua Mulan เฉินคุน (รับบทเป็น หูฮั่น) ผลงาน >>> Hua Mulan, The Founding of the Republic, The Painted Skin ------------------------------------------------ประวัติทีมสร้าง---------------------------------------------- เจียงเหวิน (รับบทเป็น จาง / กำกับ / เขียนบท) ในปี 1993 เจียงเหวิน ถือว่าเป็นนักแสดงและผู้กำกับที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่ง เขาเขียนบทและกำกับหนังเรื่องแรกที่ชื่อ In The Heat of The Sun สร้างมาจากนิยายของ หวังซัว ที่ชื่อ Feral Animals โดยผลงานเรื่องแรกของเขาได้รับเสียงชื่นชมอย่างกึก้อง และทำให้นักแสดงนำ เซียหยู่ ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากเทศกาลหนังเมืองเวนิส โดยยังได้รับการคัดเลือกโดยนิตยสารไทมส์ให้เป็นหนึ่งในสิบหนังยอดเยี่ยมประจำปี 1995 และได้รับ 6 รางวัลม้าทองคำ รวมถึงภาพยนตร์และผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกด้วย ในปี 1998 เจียงเหวิน เขียนบท กำกับ และนำแสดงใน Devils on the Doorstep ภาพยนตร์ตลกร้ายที่เกิดเรื่องในยุค 1940 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นยึดครองจีน หนังได้รับรางวัล Grand Prix จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ครั้งที่ 53 รวมถึง Netpac Award และเทศกาลหนังเมืองฮาวาย หลังจากหยุดกำกับไปห้าปี เจียงเหวิน กลับมากำกับเรื่อง The Sun Also Rises ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สาม และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่เข้าร่วมประกวดรางวัลสิงโตทองคำ จากเทศกาลหนังเมืองเวนิส โดย Let the Bullets Fly ก็ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สี่ของยอดผู้กำกับแห่งเอเชียคนนี้ บาร์บี้ ถัง (ผู้อำนวยการสร้าง) ผลงาน >>> The Myth, New Police Story, The Legend of Drunken Master วิลเลี่ยม ชาง (ผู้ออกแบบงานสร้าง) ผลงาน >>> Chungking Express, In The Mood For Love, 2046, My Blueburry Nights เจ้าเฟย (ผู้กำกับภาพ) ผลงาน >>> Raise The Red Lantern, The Emperor and the Assassin, Warriors of Heaven and Earth

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ