“เฟรเกรนท์ กรุ๊ป” ย้ำการออกแบบทุกโครงการ “ผู้บริโภค”ต้องมาก่อน

ข่าวอสังหา Monday April 18, 2011 14:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--โมโด ก้าวกระโดดแห่งนวัตกรรมความคิด เพื่อศักยภาพความปลอดภัยสูงสุดในทุกวิถีชีวิตของโครงการเฟรเกรนท์ “เฟรเกรนท์ กรุ๊ป” ย้ำจุดยืนวิถีแห่งผู้สร้าง ประกาศชัดแนวคิดการออกแบบทุกโครงการ “ผู้บริโภค”ต้องมาก่อนเสมอ พร้อมมุ่งเน้นใส่ใจคุณภาพเรื่องความปลอดภัยสูงสุดของลูกบ้าน ขณะเดียวกันเปิดแปลนโครงการล่าสุด Circle Living Prototype โชว์ศักยภาพความมั่นคงแข็งแรงอาคาร สามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ที่ระดับ 8.4 ริกเตอร์ ต้านทานแรงลมตามกฎหมายระบุที่ความเร็วพื้นฐาน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระบบระบายน้ำประสิทธิภาพชั้นเยี่ยม เชื่อมั่นสร้างความมั่นใจการอาศัยอยู่อย่างปลอดภัยให้ลูกค้า และจะช่วยผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นทะลุเป้า นายเจมส์ ดูอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเกรนท์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า การออกแบบอาคารคอนโดมิเนียมที่ดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือเฟรเกรนท์ กรุ๊ป จะคำนึงถึงการรองรับโครงสร้างอาคารให้มีความแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่ามาตรฐานกฎหมายกำหนดในทุกโครงการ ซึ่งแนวคิดการออกแบบอาคารของบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้สร้าง จะคิดถึงผู้บริโภคก่อนเสมอ โดยมุ่งเน้นและให้ความสำคัญถึงชีวิตและทรัพย์สินของลูกบ้าน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับลูกบ้านอย่างสูงสุด นายเจมส์กล่าวว่า “การที่บริษัทฯ ลงทุนสร้างแต่ละโครงการ ก็เหมือนกับการสร้างบ้านของตนเองที่ทำทุกอย่างด้วยความใส่ใจ พิถีพิถัน และประณีตในทุกรายละเอียด ยกตัวอย่างเช่น โครงการ The Prime11 เราออกแบบโครงสร้างให้มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถต้านทานแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ ซึ่งตอนที่เราทำในขณะนั้น ยังไม่มีกฎหมายออกมาควบคุม เราออกแบบก่อนที่กฎกระทรวงออกแบบอาคารต้านแรงแผ่นดินไหวจะบังคับใช้เมื่อปลายปี 2550 ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเราใส่ใจในคุณภาพเรื่องความปลอดภัยของลูกบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราคิดก่อนที่จะเกิดปัญหา” สำหรับโครงการ Circle Living Prototype โครงการล่าสุดของบริษัทฯ ที่อยู่ระหว่างการขายพื้นที่ และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณไตรมาส 3 ในขณะนี้ได้มียอดจองพื้นที่ห้องชุดมากกว่า 50% แล้ว ส่วนการทำตลาดหลังจากนี้บริษัทฯ จะมุ่งเน้นลูกค้าต่างชาติ และจะมีการให้ข้อมูลเรื่องโครงสร้างการออกแบบอาคารที่มั่นคงแข็งแรง เพื่อสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อพื้นที่ให้กับลูกค้า คาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี และจะช่วยผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการออกแบบอาคารให้สามารถต้านทานแรงแผ่นดินไหวได้ตามมาตรฐานการออกแบบอาคารต้านทานการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว มยผ.1302 ของกรมโยธาธิการและผังเมืองกระทรวงมหาดไทย และตามกฎกระทรวงว่าด้วยเรื่องกำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวปี พ.ศ.2550 โดยการออกแบบตามมาตรฐานนี้ ตัวอาคารจะสามารถรองรับแผ่นดินไหวที่ระดับ 8.4 ริกเตอร์ โดยที่ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่รอยเลื่อนบริเวณทะเลอันดามัน ซึ่งมีระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ 500 กิโลเมตร และศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปในดิน 20 กิโลเมตร ขณะเดียวกันตัวอาคารได้รับการออกแบบให้สามารถต้านทานแรงลมได้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 7 พระราชบัญญัติควบคุมอาคารในหมวดแรงลม และมาตรฐานการคำนวณแรงลมและการตอบสนองของอาคาร (มยผ.1311-50) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และข้อบัญญัติกรุงเทพฯ ปี พ.ศ.2544 ซึ่งกำหนดให้คำนวณออกแบบแรงลมที่ความเร็วพื้นฐาน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมทั้งได้มีการทดสอบอุโมงค์ลม โดยจำลองขนาดและรูปร่างของอาคารที่จะก่อสร้าง รวมถึงอาคารและสิ่งแวดล้อมโดยรอบในรัศมี 500 เมตร ซึ่งจากการทดสอบทำให้ได้ค่าแรงที่กระทำต่ออาคารที่มีความถูกต้องแม่นยำ เป็นผลทำให้อาคารที่ได้รับการออกแบบมีความปลอดภัยต่อการอยู่อาศัย ทั้งเรื่องกำลังในการรับแรงของอาคาร และความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยในอาคารขณะเกิดแรงลมสูงสุด นอกจากนี้โครงการฯ ยังได้รับการออกแบบให้สามารถรับน้ำฝนได้ที่ระดับปริมาณ 200 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง โดยกรณีที่ระบบระบายน้ำของกรุงเทพฯ มีปัญหาและเกิดน้ำท่วมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งเป็นถนนหน้าโครงการ น้ำจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่จะไม่ไหลเข้าสู่ถนนของโครงการโดยทันที เนื่องจากระดับถนนของโครงการอยู่สูงกว่าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ 15 เซนติเมตร ขณะที่พื้นชั้นที่ 1 ของโครงการอยู่สูงกว่าระดับถนนของโครงการ 50 เซนติเมตร และอยู่สูงจากระดับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ถึง 65 เซนติเมตร “ที่สำคัญโครงการฯ ได้รับการออกแบบจากบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการก่อสร้างทั้งในและต่างประเทศ โดยมีบริษัท Quintrix Architects จำกัด รับผิดชอบด้านการออกแบบ บริษัท Leo International Design Group จำกัด ด้านการตกแต่งภายใน บริษัท BERMUDA Landscape Architects จำกัด ด้านระบบนิเวศ และบริษัท Meinhardt (Thailand) จำกัด รับผิดชอบด้านการนำทรัพยากรและพลังงานมาใช้อย่างคุ้มค่า ดังนั้นลูกค้าของโครงการจึงสามารถมั่นใจในเรื่องความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยของตัวอาคาร และการเป็นอาคารที่พักอาศัยที่มีระบบควบคุมบริหารจัดการอาคารทันสมัยที่สุดได้เป็นอย่างดี” นายเจมส์กล่าว โครงการ Circle Living Prototype ดำเนินการโดยบริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ใกล้สี่แยกมักกะสัน กรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ เป็นอาคารสูง 53 ชั้น จำนวน 477 ห้อง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2556 เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ก่อสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดอาคารอัจฉริยะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นโครงการต้นแบบที่นำระบบ Digital Project ซึ่งระบบการออกแบบที่สามารถเห็นรูปร่างและรายละเอียดต่างๆ ของอาคารก่อนที่จะลงมือสร้างจริงมาใช้ในการออกแบบอาคาร สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการ สามารถคลิ๊กเข้าไปดูได้ที่ www.circle2condo.com และ Sales Gallery โทร.02-652-9999 รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ บริษัท โมโด จำกัด เอมิกา รพีรัตนกุล โทร.02-513-2677

แท็ก นวัตกรรม  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ