กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 3.80 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,498.90 USDต่อออนซ์ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,506.50 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD ในขณะที่เงินยูโร และเงินสกุลในเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อต้านเงินเฟ้อ
Key Points in Gold Market
- ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 3.80 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,498.90 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,493.80 — 1,506.50 USDต่อออนซ์ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,506.50USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD ในขณะที่เงินยูโร และเงินสกุลในเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อต้านเงินเฟ้อ แต่เงินUSD และเงินเยนอ่อนค่าลง เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐและญี่ปุ่นยังคงดำเนินนโยบายการเงิน คงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป
- แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ การประกาศจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศใน ยุโรป และเอเชีย รวมถึงจีน ทำให้เงินสกุลยูโรและเงินสกุลในเอเชียแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะเงินหยวน ซึ่งจีนจะปล่อยให้ เงินหยวนแข็งค่า เพื่อช่วยลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อ การแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลในเอเชีย และเงินยูโร ทำให้มีความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก เมื่อค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ราคาทองคำในสกุลเงินที่แข็งค่าขึ้นจะถูกลง ดังนั้นนอกจากปัจจัยในเรื่องวิกฤตหนี้ในยุโรป และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจะสนับสนุนราคาทองคำแล้ว การแข็งค่าของเงินสกุลเงินในเอเชียและยุโรปเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ทองคำมีราคาปรับตัวสูงขึ้น
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร โดยมาอยู่ที่ 1.4559 ดอลลาร์ต่อยูโร เนื่องจากราคาบ้านในสหรัฐปรับลดลง และสหรัฐจะคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป ในขณะที่ประเทศอื่นๆในเอเชียและยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ( + )
- ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น แสดงถึงการฟื้นตัวในตลาดบ้าน แต่ราคาบ้านปรับลดลง ทำให้คาดว่าสหรัฐจะคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป ( +)
- ราคาน้ำมัน Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 3.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 111.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ( + )
- วิกฤตหนี้ในยุโรป นักลงทุนคาดว่า กรีซอาจต้องปรับโครงสร้างหนี้ ( + )
- สถานการณ์ในลิเบีย ฝรั่งเศสและอิตาลี ร่วมมือกับอังกฤษในการส่งกำลังทหารจำนวนหนึ่งเพื่อให้คำแนะนำในด้านการสู้รบและการฝึกอบรมด้านการรบแก่กลุ่มต่อต้าน ด้าน UN ส่งกองกำลังเพื่ออารักขาการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ฝ่ายต่อต้าน (+)
- SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ 1,430.25 ตัน
Technical Analysis:
ในระยะสั้นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำเริ่มจำกัดมากขึ้น เนื่องจากเข้าใกล้กรอบแนวต้านสำคัญที่ 1,500-1,510 ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีแรงเทขายออกมาเมื่อราคาทองคำเข้าใกล้กรอบแนวต้านดังกล่าว อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยจากกราฟรายวันราคาทองคำยังสามารถยืนอยู่เหนือเส้น uptrend line ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,453