กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 21,250 - 21,350
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,505.90
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.94 — 29.97
- GFJ11 Hi- Low 21,420 — 21,390 ปิดที่ 21,390
Gold & Silver Insight
สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.33% แตะที่ 1,503.80 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,500.40-1,509.60 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.598 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.059 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะและภาวะเงินเฟ้อได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง นอกจากนี้ ทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดบวก 52.45 จุด หรือ 0.42% แตะที่ 12,505.99 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 7.02 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 1,337.38 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 17.65 จุด หรือ 0.63% แตะที่ 2,820.16 จุด ทำสถิติปิดบวกติดต่อกันสามวันทำการ เนื่องจากตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงแอปเปิล อิงค์ และเจนเนอร์รัล อิเล็กทริก (จีอี) อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 84 เซนต์ ปิดที่ 112.29 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้ต้นทุนพลังงานปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 22 เมษายน ขายออก 0.61ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1230.25ตัน เข้าสู่ระดับ 1229.64ตัน
USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) โดยดอลลาร์สหรัฐร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่อยู่ในระดับต่ำและยอดขาดดุลงบประมาณมูลค่ามหาศาลของรัฐบาลสหรัฐยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนหันไปถือครองสกุลเงินที่มีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.22% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4550 ดอลล่าร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4518 ดอลล่าร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4554 ดอลล่าร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินเยนพุ่งขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.87 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 82.46 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 81.90 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 29.88-29.90 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.94-29.97 บาทต่อดอลล่าร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% แตะที่ 114.1 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวที่รวดเร็วขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐ นายเคน โกลด์สเตน นักวิเคราะห์ของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด กล่าวว่า คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายปีนี้ แม้เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 เม.ย.ปรับตัวลง 13,000 ราย แตะระดับ 403,000 ราย น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 392,000 ราย
- ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวขึ้น 2,250 ราย แตะระดับ 399,000 ราย
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในอังกฤษขยายตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลดลง
- ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐในปีงบประมาณ 2553 อยู่ที่ระดับ 1.29 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ที่ 1.65 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2554
- สถาบัน Ifo เปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีในเดือนเม.ย.ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 110.4 จากระดับ 111.1 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
จีนซึ่งเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่ของสหรัฐได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" พร้อมกับเตือนว่าเอสแอนด์พีอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือขั้น AAA ของสหรัฐ อันเนื่องมาจากความเสี่ยงหลายด้าน รวมถึงยอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะของสหรัฐที่สูงขึ้นอย่างมาก
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
21 - 22เมษายน2554
วัน ? Unemployment Claims 416K 394K 403K
พฤหัสฯ ? Philly Fed Manufacturing Index 43.4 37.1 18.5
วัน ? Good Friday ; AllMarkets Closed
ศุกร์