สามารถกวาดรายได้กว่า 30,000 ล้านในปี 49 ทะลุเป้าเป็นปีที่ 4 กำไรเพิ่มกว่า 200 เปอร์เซ็นต์

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday February 28, 2007 16:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--สามารถคอร์ปอเรชั่น
กลุ่มบริษัทสามารถ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีครบวงจร โชว์กำไรงวดปี 49 จำนวนทั้งสิ้น 1,990 ล้านบาทพุ่งขึ้นกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากทุกสายธุรกิจกวาดรายได้รวมกันกว่า 31,000 ล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลช่วงครึ่งปีหลัง ประจำปี 49 ครบทั้ง 3 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และการรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ แม้ในช่วงปีที่ผ่านมาจะเกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง และความผันผวนในด้านเศรษฐกิจก็ตาม
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปี 49 ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของกลุ่มสามารถ โดยมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันนับจากช่วงวิฤตเศรษฐกิจ จากเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้จำนวน 25,000 ล้านบาท ปรากฎว่าเมื่อสิ้นปี 49 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 31,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 48 ถึง 64 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นกำไรสุทธิ 1,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ และมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 18 เปอร์เซนต์ ดังนั้น บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) จึงพร้อมใจกันประกาศจ่ายปันผลสำหรับการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง ปี 2549 ในอัตราหุ้นละ 0.22 บาท , 0.17 บาทและ 0.32 บาทตามลำดับ
ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทสามารถ แบ่งออกเป็น 3 สายธุรกิจ ดังนี้
สายธุรกิจ ICT Solutions ภายใต้การนำของ บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ทำรายได้ปี 49 รวม 2,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 48 ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิ 331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34 เปอร์เซ็นต์ รายได้ของสายธุรกิจนี้ส่วนใหญ่มาจากการติดตั้งระบบและการให้บริการทางด้านไอทีและเครือข่ายการสื่อสารแก่โครงการสำคัญต่างๆ อาทิ โครงการ AIMS ในสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการ School Net หรือการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล โดยในปีที่ผ่านมา สามารถเทลคอมเพิ่มรายได้จากการขายได้ถึง 47 เปอร์เซนต์และเพิ่มรายได้จากงานบริการถึง 20 เปอร์เซนต์ จากผลประกอบการที่ดีขึ้นเป็นลำดับ บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) จึงประกาศจ่ายเงินปันผลช่วงครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.17 บาท นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทางด้าน IT Outsourcing คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติจัดตั้งบริษัท สมาร์ทแวร์ จำกัด (Smartware) ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เพื่อให้บริการครบวงจรทางด้านซอฟต์แวร์ ทั้งนี้ ในปี 50 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้จากสายธุรกิจ ICT Solutions ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท
สายธุรกิจ Mobile Multimedia นำโดยบริษัท สามารถไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) มีรายได้ปี 49 ทั้งสิ้น 24,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิ 488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ด้วยยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรวมทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านเครื่อง คิดเป็นจำนวนที่จำหน่ายได้ในประเทศถึง 2 ล้านเครื่องและในจำนวนนี้เป็นเฮาส์แบรนด์ไอ-โมบายถึง 1.7 ล้านเครื่อง ยิ่งไปกว่านั้น จากความคืบหน้าในการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้ยอดจำหน่ายมือถือของไอ-โมบายอินเตอร์พุ่งขึ้นกว่า 400 เปอร์เซนต์ โดยสามารถจำหน่ายมือถือในต่างประเทศได้ทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา และจากผลประกอบการที่โดดเด่นดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้ประกาศจ่ายเงินปันผลช่วงครึ่งปีหลัง ในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท
นอกจากนี้ เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจของไอ-โมบายในต่างประเทศ บริษัทฯจึงมีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและให้บริการที่ใหญ่ที่สุดในระดับภูมิภาค ล่าสุด ไอ-โมบายอินเตอร์ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทในเครือ Celcom ของ Telekom Malaysia จัดตั้งบริษัท C-mobile เพื่อจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์เสริมและบัตรเติมเงินรวมทั้งให้บริการรับชำระเงินในประเทศมาเลเซีย ภายใต้ชื่อ Blue cube ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะเปิดได้ทั้งสิ้น 130 สาขาและจะขยายเป็น 250 สาขาในปีต่อไป โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบเดียวกันนี้ให้ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 1,000 สาขาในปี 2553
ในปี 2550 สามารถ ไอ-โมบาย ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 27,000 ล้านบาท พร้อมรุกธุรกิจครบวงจรทั้งโทรศัพท์มือถือและสื่ออินเตอร์แอคทีฟ โดยไตรมาสแรกจะเปิดตัวโทรศัพท์จำนวน 7 รุ่น ด้วยคุณสมบัติที่พิเศษโดดเด่นไม่เหมือนใคร ผ่าน Brand Ambassador “ทาทา ยัง” ภายใต้ Concept “Everywhere we can go”
นายวัฒน์ชัยกล่าวถึงสายธุรกิจ Technology Related ว่า “รายได้รวมจากบริษัท สามารถวิศวกรรม บริษัท วันทูวันฯ และบริษัท วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็มส์ ซึ่งอยู่ในสายธุรกิจนี้ ก็มีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 48 ถึง 74 เปอร์เซนต์ อีกทั้งบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 10 เปอร์เซนต์ ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้กลุ่มบริษัทสามารถสร้างรายได้และผลกำไรได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม ในปี 2550 นี้ นายวัฒน์ชัยกล่าวว่าบริษัทฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมในหลายด้านเพื่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเน้นให้เป็นปีแห่งการเพิ่มมูลค่าหรือความคุ้มค่าในการใช้สินค้าและบริการของกลุ่มสามารถฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ทั้งสิ้น 35,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์ โดยนอกจากจะเน้นการขยายตลาดให้กับธุรกิจในปัจจุบันทั้งในและต่างประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง
“กลุ่มบริษัทสามารถ” มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างครบวงจร ภายใต้บริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท และมี 3 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) โดยแบ่งออกเป็น 3 สายธุรกิจ คือ สายธุรกิจสื่อสารไอทีและโทรคมนาคมครบวงจร (ICT Solutions) สายธุรกิจการสื่อสารข้อมูลและอุปกรณ์สื่อสารไอที (Mobile-Multimedia) สายธุรกิจเทคโนโลยีอื่นๆ. (Technology Related)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม PR.Corp.
วรรษกร ปลื้มจิตต์ (ตุ๊ก) โทร. 0-2502-8687
จุฑารัตน์ ชัยวิชาชาญ (อ้อม) โทร. 0-2502-8183
วทิรา ลุยากร (ใหม่) โทร.0- 2502-8236

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ