กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ISMED
โครงการส่งเสริมคลัสเตอร์ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เพื่อเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเอเชีย (ระยะที่ 2)
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เป็นตลาดค่อนข้างใหญ่ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเป็นกระแสการท่องเที่ยวที่หลายประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยววัยทำงานและวัยเกษียณจัดเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพทางการเงิน และมีแนวโน้มของการเจ็บป่วยจากการทำงานหรือการเจ็บป่วยตามอายุขัย
ประเทศไทยได้รับการกล่าวขวัญในหมู่ชาวต่างชาติที่ต้องการรับบริการทางการแพทย์ว่าเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจัยส่งเสริมที่สำคัญ ได้แก่ การมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การที่เข้าประเทศได้อย่างไม่ลำบาก ค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง และความมีอัธยาศัยดีจากผู้ให้บริการ นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวหลักโดยมีการท่องเที่ยวทางทะเล ภูเขา ศิลปะวัฒนธรรม อาหาร ความบันเทิง และแหล่งซื้อของต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี
โครงการส่งเสริมคลัสเตอร์ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เพื่อเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเอเชีย (ระยะที่ 2) เป็นโครงการที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สนับสนุนให้สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ดำเนินการต่อจากโครงการสร้าง คลัสเตอร์ผู้ประกอบการบริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ซึ่งได้ดำเนินงานแล้วเสร็จในปี 2553
สำหรับการดำเนินโครงการระยะที่ 2 มุ่งเน้นการให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการ โดยการเป็นพี่เลี้ยงเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับสากลของผู้ประกอบการธุรกิจที่สนับสนุนบริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เช่น ผู้ประกอบการตัวแทนท่องเที่ยว โรงแรม/สถานพักฟื้น และสถานพยาบาล ซึ่งได้รวมเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ในเชิงกายภาพแล้วให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสนับสนุนระหว่างสมาชิกในกลุ่มคลัสเตอร์ รวมถึงการส่งเสริมการทำตลาดแบบรวมกลุ่มของคลัสเตอร์
ผู้ประกอบการธุรกิจที่สนับสนุนบริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ จัดทำแผนธุรกิจเชิงลึก ควรมีความพร้อม ดังนี้
- เป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนการค้า [มีทรัพย์สินไม่เกิน 200 ล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน)] และ/หรือเป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจการค้าที่เชื่อถือได้
- มีความพร้อมที่จะทุ่มเทและทำงานอย่างจริงจังตามแผนธุรกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยมีการลงทุนและจัดบุคลากรผู้รับผิดชอบตามแผนธุรกิจ
- ต้องไม่ล้มเลิกการเข้าร่วมโครงการ และ/หรือถอนบุคลากรที่รับผิดชอบตามแผน
- ต้องให้สัตยาบรรณยืนยันในการเข้าร่วมโครงการ
กิจกรรมสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
- ต้องเข้าร่วมกิจกรรมอบรมและสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “แนวทางการวางแผนการตลาดเกี่ยวกับธุรกิจนำเที่ยวเชิงการแพทย์” เพื่อเตรียมความพร้อมอย่างเต็มวันได้ทั้ง 2 วัน (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) ซึ่งจะจัดขึ้นประมาณวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2554 ณ จังหวัดเชียงใหม่** และต้องจัดเตรียมข้อมูลของธุรกิจล่วงหน้าเพื่อใช้วางแผนจัดทำแผนธุรกิจ (ด้านการตลาด)
- การจัดทำแผนธุรกิจ (ด้านการตลาด) โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน/ที่ปรึกษาเชิงลึก เข้าให้คำปรึกษาแนะนำเป็นระยะๆ และร่วมปรับปรุงแผนธุรกิจจนแล้วเสร็จ โดยผู้ประกอบการ ต้องจัดทำแผนธุรกิจและส่งมอบให้สถาบันภายใน 60 วันหลังการสัมมนา
- ผู้ประกอบการนำแผนธุรกิจไปใช้ในการปฏิบัติงานจริง อย่างน้อย 1 ปี ระหว่างนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน/ที่ปรึกษาอาวุโสจะทำการสุ่มติดตามผลการนำแผนธุรกิจไปใช้ ทุกๆ 1 เดือน โดยการเข้าพบผู้ประกอบการหรือการพูดคุยทางโทรศัพท์ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาอุปสรรคและปรับปรุงแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาพการตลาด
ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ กรุณาส่งใบสมัครเข้าร่วมปรึกษาแนะนำเชิงลึก (แบบฟอร์ม 001) และแบบตอบรับเข้าร่วมอบรมและสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (แบบฟอร์ม 002) ภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2554
ผู้ประกอบการที่สนใจขยายบริการสู่ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมใน “คู่มือเพื่อการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์” ได้ที่ www.Thailandmedicaltourismcluster.com หรือ www.Thailandmedicaltourismcluster.org
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2564-4000 ต่อ 3010, 7302