กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--คลาสสิกโกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปรับเพิ่มขึ้น 5.40 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,506.40 USDต่อออนซ์ เนื่องจาก เงิน USD อ่อนค่าลง จากนักลงทุนคลายความกังวลในปัญหาหนี้ของกรีซ และหันมาให้ความสนใจในการที่กลุ่มยูโรโซนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลงสนับสนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น
Key Points in Gold Market
- ราคาทองคำในตลาด COMEX ปรับเพิ่มขึ้น 5.40 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,506.40 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,477.60 — 1,509.70 USDต่อออนซ์ โดยช่วงแรกเมื่อเปิดตลาดราคาทองคำปรับลดลงจาก ข่าวจีนปรับเพิ่มอัตราเงินสดสำรองตามก.ม.อีก 0.5% และการปรับเพิ่ม Initial Margin ในการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าในตลาดเซี่ยงไฮ้ แต่ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นได้ เมื่อเงิน USD อ่อนค่าลงเมื่อมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มยูโรโซนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความไม่มั่นใจต่อนโยบายการเงินของ FED หลังจากจบ QE2 แล้ว ( +/- )
- จีนปรับเพิ่มอัตราเงินสดสำรองตามก.ม.อีก 0.5 เป็น 21% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของจีนในเดือนเม.ย.เท่ากับ 5.3% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และจีนยังคงมีนโยบายการเงินเข้มงวดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่จีนจะจำกัดการใช้มาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจะใช้มาตรการอื่นๆแทน ( - )
- ตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ ประกาศปรับขึ้น Initial Margin สำหรับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าโลหะเงิน ทำให้ราคาโลหะเงินตกต่ำลงอีก 2.02% ปิดที่ 34.80 USDต่อออนซ์โดยมีแรงขายทั้งในตลาดเซี่ยงไฮ้ และในตลาด COMEX ( - )
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ 1.4226 ดอลลาร์ต่อยูโร เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซ และหันไปให้น้ำหนักกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นสูงกว่าเป้าหมายของอีซีบี ( + )
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วลดลง 44,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 434,000 ราย และ ดัชนีราคาผู้ผลิต ปรับตัวสูงขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. สูงขึ้นมากกว่าคาด และทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ในขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ที่ปรับตัวสูงขึ้น 0.5% น้อยกว่าคาด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศแสดงว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น ในขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่ดีนัก ( + )
- SPDR ขายทองคำออก 7.88 ตัน เหลือถือครองทองคำจำนวน 1,193.16 ตัน ( - )
Technical Analysis:
ราคาทองคำได้ส่งสัญญาณการเกิด bearish divergent โดยราคาได้ทำจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่จุดต่ำสุดและราคาปิดอยู่ในระดับต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้คาดว่าราคาทองคำในระยะสั้นยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,475 1,452 และ 1,443 สำหรับแนวต้านจะอยู่ที่ 1,510