บทสัมภาษณ์ “นน - ชานน ริกุลสุรกาน” เพื่อนทะเล้น เน้นมันส์ฮา ใน “เพื่อนไม่เก่า”

ข่าวบันเทิง Thursday May 19, 2011 17:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--สหมงคลฟิล์ม บทบาท-คาแร็คเตอร์ ในเรื่อง “เพื่อนไม่เก่า” ผมรับบทเป็น “ต๋อย” เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เพราะดันไปบนบานกับพระธาตุลำปางหลวง เป็นคนที่สนุกสนานเฮฮาร่าเริงตามแบบฉบับคนที่เรียนนิเทศฯ เลย ก็จะคอยสร้างความสนุกสนานเฮฮาให้กับเพื่อนไปตลอดการเดินทาง บางครั้งก็สนุกเกินไปจนไม่รู้จักกาลเทศะ คือเพื่อนเครียดอยู่เราก็ดันฮาได้ เป็นประมาณตัวป่วนของกลุ่มครับ และเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดการเดินทางของกลุ่มเพื่อนไม่เก่านี้ด้วยครับ มีการเปลี่ยนลุคไปมากน้อยแค่ไหน สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นการเปลี่ยนลุคครั้งใหญ่เลยครับ ต้องไว้ผมยาวถึงกลางหลัง คือเมื่อก่อนเราก็อยากที่จะไว้ผมยาวเหมือนกันนะ แต่ไว้ได้ซักพักก็ต้องตัด เพราะอากาศเมืองไทยมันร้อนมาก ทางทีมงานก็เลยให้ไปต่อผม ซึ่งตอนที่ไปต่อ ผมมันก็ยังไม่ยาวเท่าไหร่ คือยังสั้นอยู่มาก พอต่อเสร็จรู้สึกอึดอัดมาก เราเองก็ยังไม่ชินกับผมที่ยาวขนาดนี้ คือจะหวีมันก็ติด มันจะเจ็บตลอดเวลา แล้วมันรู้สึกหนักหัวมาก ปวดหัว เลย เพราะต้องรับน้ำหนักโดยเฉียบพลัน ก็ต้องปรับตัวไปซักพักใหญ่ แล้วเวลาเกล้าผมนี่สุดยอดมาก ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงเลยทีเดียว ซึ่งที่เปลี่ยนหลักๆ ก็จะเป็นเรื่องของผมมากกว่าครับ เรื่องราวของ “เพื่อนไม่เก่า” “เพื่อนไม่เก่า” เป็นภาพยนตร์แนวโร้ดมูฟวี่ เป็นเรื่องราวของเด็กกลุ่มหนึ่งที่ไปบนบานกับพระธาตุลำปางไว้ว่า ถ้าเพื่อนคนหนึ่งสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในลำปางได้ จะมาแก้บนด้วยการปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ ขึ้นมาลำปาง ซึ่งในที่สุดเพื่อนคนนั้นก็สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในลำปางได้ ก็เลยต้องมาแก้บนปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ ขึ้นไปลำปางด้วยกัน แล้วระหว่างทางก็จะเจอเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เพราะด้วยเพื่อนแต่ละคนก็มีคาแร็คเตอร์นิสัยที่ต่างกัน พอถ่ายหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ออกัสรู้สึกสนิทกันมากขึ้นเลยนะครับ คือออกัสก็อยู่ด้วยกันมาตลอด แต่พอเล่นหนังเรื่องนี้ก็ได้สนิทกันแบบจริงๆ จังๆ กลายเป็นเพื่อนรักกันไปแล้ว ในเรื่องนี้จักรยานของนนที่ขี่ค่อนข้างจะแตกต่างจากของเพื่อนๆ เพราะมีรถพ่วงต่อมาอีกด้วย ในเรื่องเราจะค่อนข้างพิเศษหน่อย เราเรียนนิเทศฯ มาก็อยากทำอะไรที่มันแหวกๆ ไม่เหมือนชาวบ้าน ก็ต้องเป็นจักรยานแนวโบราณๆ หน่อย ไม่มีเกียร์ อยากเท่ แล้วนิสัยเป็นคนชอบเล่นกีต้าร์ ก็พกเอาไปด้วย ก็ต้องหารถมาพ่วงต่อ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีอ๋องมาซ้อนท้ายด้วย เพราะเขาขี่จักรยานไม่เป็น ขนาดเอาจักรยานสี่ล้อมาให้ลองยังขับล้มเลย (หัวเราะ) ภาพยนตร์เรื่องนี้ไปถ่ายทำกันในหลากหลายจังหวัด มีประทับใจที่ไหนมากที่สุด โดยส่วนตัวก็ประทับใจหลายที่นะ แต่ที่ประทับใจมากที่สุดผมยกให้เป็นที่พระธาตุลำปางหลวง คือผมเพิ่งรู้มาด้วยว่าที่นี่ถูกยกให้เป็นสถานที่ Unseen in Thailand ซึ่งตัวผมเองก็เคยได้ยินเหมือนกันว่าพระธาตุลำปางหลวงนั้นศักดิ์ศิทธิ์มากๆ แล้วมีพระธาตุกลับหัวอยู่ในโบสถ์ด้วย พอไปเห็นรู้สึกว่ามันเป็น Amazing จริงๆ นะ ก็รู้สึกว่าชอบมาก แล้วผมเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปอยู่แล้วด้วย ก็ได้เก็บภาพบรรยากาศงามๆ ในพระธาตุลำปางหลวงมาเยอะทีเดียว ตั้งแต่เล่นมารู้สึกว่ามีฉากไหนที่ยากเป็นพิเศษบ้างมั้ย คือฉากที่ยากมันก็มีบ้าง แต่มันก็มีฉากที่เหนื่อยและผมรู้สึกตลกกับอ๋องมาก มันเป็นฉากที่ผมต้องปั่นจักยานขึ้นเนิน แล้วอ๋องมันซ้อนท้าย คือมันเป็นซีนที่พวกเราทุกคนรู้สึกว่าแย่มากๆ หลังจากผ่านปัญหาผ่านความผิดหวังต่างๆ มา แล้วเราต้องปั่นจักรยานขึ้นเนินซึ่งมันชันมากประมาณ 45 องศา บวกกับการแสดงแอ็คติ้ง สื่อให้รู้ว่าผิดหวัง สิ้นหวัง เสียใจ ทุกอย่างมันแย่ไปหมด แล้วอ๋องมันซ้อนหลังผมอยู่ ซึ่งกล้องในมุมนั้นก็จับภาพไม่เห็นมันหรอก แต่ว่าอ๋องมันอินจัดกับการแสดง มันก็พยามพูดให่รู้ว่าเสียใจ มันก็บอกว่า “ต๋อย กูขอโทษ” น้ำเสียงเศร้าๆ คือผมก็ไม่รู้ว่ามันจะพูดทำไม เพราะกล้องก็จับไม่เห็นอยู่แล้ว ก็หลุดขำจักรยานล้มเลย คือฉากนี้ถ่ายไป 4 เทค ซึ่งผมก็เตรียมตัวกับฉากนี้มาบ้างพอสมควร เพราะรู้ว่ามันเป็นฉากที่ค่อนข้างหนักแน่ ปั่นจักรยานขึ้นเนิน ก็ต้องฟิตซ้อมออกกำลังกายล่วงหน้ากว่า 2 อาทิตย์ เพื่อให้ร่างกายของเราแข็งแกร่งด้วยครับ การร่วมงานกับผู้กำกับ “พี่ปิง เกรียงไกร วชิรธรรมพร” พี่ปิงเป็นผู้กำกับที่เก่งมากครับ ถึงแม้อายุเขายังน้อยอยู่ แต่ว่าความสามารถเก่งเกินอายุจริงๆ เวลาอยู่ในกองเขาจะไม่ซีเรียสเลย จะเล่นเฮฮาตลอดเวลา แต่ว่าในหัวเขานี่สุดยอดจริงๆ คิดอะไรออกมาเป็นช็อตหมดแล้วทุกอย่าง แล้วเขาเป็นคนที่ควบคุมความกดดันได้ดีมากเลยครับ แล้วที่ประทับใจคือพี่ปิงเหมือนเป็นครูที่ช่วยในเรื่องของแอ็คติ้งการแสดงได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียง การใช้สายตา แถมยังแบ่งปันวิธีการเล่นกีต้าร์แบบเจ๋งๆ ให้ผมด้วยครับ ก็ดีใจและสนุกที่ได้มาทำงานร่วมกันในเรื่องนี้ครับ แล้วนนมีอะไรแลกเปลี่ยนคืนกับพี่เขาบ้างหรือเปล่า ผมก็จะแบ่งปันวิธีการขี่จักรยานแบบเจ๋งๆ ให้พี่ปิง เพราะพี่ปิงเองก็ขี่จักรยานไม่ค่อนแข็งเท่าไหร่ เพิ่งมาหัดขี่ก่อนที่หนังจะเปิดกล้องไม่กี่วันเอง ผมก็จะสอนเขา อย่างผมเองก็ขี่จักรยานค่อนข้างแข็ง ขี่แบบปล่อยมือได้ ก็จะสอนพี่เขาครับ แล้วชีวิตจริงเคยบนอะไรประหลาดๆ บ้างหรือเปล่า คือผมเองไม่เคยบน แต่ถ้าทำอะไรประหลาดๆ บ้าๆ เหมือนต๋อยก็เคย คือที่มหา’ลัยจากที่เรียนไปโรงอาหารมันค่อนข้างไกลมาก ซึ่งมหา’ลัยก็จะมีรถรางให้บริการ แต่ทั้งมหา’ลัยมีแค่ 2 คัน คือถ้าใครเลยเส้นก็ต้องลง ซึ่งวันนั้นมันก็เป็นวันของเราพอดีที่เลยเส้น แต่เราอยู่ปี 1 ยังคงเปรี้ยวอยู่ก็วิ่งแข่งกับรถรางเลย วิ่งแซงเลย คนก็มอง ก็ตลกดีครับ ถ้าให้เลือกเล่นเป็นใครก็ได้ในหนังเรื่อง “เพื่อนไม่เก่า” อยากเล่นเป็นเพื่อนคนไหนมากที่สุด ผมอยากเล่นเป็น “โป้” ครับ ก็อยากที่จะเล่นกับผู้หญิงบ้าง (หัวเราะ) ล้อเล่นครับ คือจริงๆ ผมเองก็มีพื้นฐานทางด้านภาษาจีนอยู่บ้าง ก็เลยอยากรู้ว่าถ้าเราต้องเล่นเป็นโป้แล้วเราจะทำได้หรือเปล่า เพราะมันค่อนข้างท้าทายดี นิยามของเพื่อนไม่เก่า สำหรับเพื่อน ยังไงมันก็ยังเป็นเพื่อนอยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าเพื่อนจะรวยจะจน จะดีจะชั่วอย่างไร มิตรภาพความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่ เพื่อนไม่เคยเก่าครับ เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ ผมว่าความน่าสนใจมันน่าจะอยู่ที่มุมมองของเพื่อนมากกว่า คือพี่ปิงเขาเขียนบทค่อนข้างที่จะเข้าใจความรู้สึกของวัยรุ่นครับ คือถ้าวัยรุ่นตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เขาจะทำอย่างไร หาทางออกได้อย่างไร พอผมได้เล่นผมยังรู้สึกอินในคาแร็คเตอร์ของต๋อยเลย คือเข้าใจว่าทำไมต๋อยถึงเป็นอย่างนั้น ทำไมกีถึงมีความรู้สึกอย่างนั้น ผมรับประกันได้เลยว่าคนที่ดูเรื่องนี้จะรู้สึกอินตามไปกับคาแร็คเตอร์ และพอดูจบจะรู้สึกรักเพื่อนของคุณเพิ่มเข้าไปอีก ผมก็อยากเชิญชวนให้ทุกคนได้ไปชมภาพยนตร์เรื่อง “เพื่อนไม่เก่า” กันครับ เพราะทุกคนก็ทำงานกันอย่างเต็มที่จริงๆ ทุกคนเหนื่อยกันมาก อย่างผมเองก็ขี่จักรยานจนขาปูดเลย ก็อยากชวนทุกคนไปดูหนังกันครับ แล้วคุณจะรักเพื่อนของคุณมากยิ่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ