กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เร่งเครื่องเตรียมความพร้อม เพื่อเปิดประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี ๒๕๕๘

ข่าวทั่วไป Friday May 27, 2011 17:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--ก.ก. นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้การต้อนรับ และเข้าประชุมระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการการตรวจสอบและประเมินผลประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ค.ต.ป.กก.) โดยมีนายสีมา สีมานันท์ ในฐานนะประธานกรรมการ การตรวจสอบและประเมินผลประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุม โดยมีนางธนิฎฐา เศวตศิล มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางแสงจันทร์ วรสุมันต์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตัวแทนจาก กรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมประชุม เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ณ ห้องประชุม ๑ ชั้น ๒ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ถนนราชดำเนินนอก) นายสมบัติ คุรุพันธ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ประเด็นสำคัญจากการประชุมครั้งนี้คือการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนา และส่งเสริมสำหรับแนวทางหรือกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวเพื่อเตรียมการรองรับการเปิดเสรีทางการค้าตามกรอบความร่วมมือของอาเซียนและการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC: AESAN Economic Community) ซึ่งจะเปิดในปี ๒๕๕๘ (ค.ศ. ๒๐๑๕) ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มีการเตรียมการวางแนวทางด้านการจัดทำหลักสูตรเกี่ยวกับวิชาชีพ ซึ่งเป็นไปตามกรอบความร่วมมือของอาเซียนในปี ๒๕๕๘ โดยจะมีการบังคับใช้ข้อตกลงร่วมกันด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (MRA : ASEAN Mutual Recognition Arrangement on Tourism Professionals) คือ ความตกลงการยอมรับคุณสมบัตินักวิชาชีพการท่องเที่ยว โดยมีคณะกรรมการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพการท่องเที่ยวทำหน้าที่กำกับให้เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานสมรรถนะร่วมสำหรับวิชาชีพการท่องเที่ยวอาเซียน ทั้งนี้นักวิชาชีพท่องเที่ยวที่ผ่านการรับรองมีวุฒิประกอบวิชาชีพการท่องเที่ยวภายในประเทศสมาชิกอาเซียนโดยอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายและข้อบังคับของประเทศผู้รับ ซึ่งจะส่งผลให้เกิด ๑) การเพิ่มขึ้นของคู่แข่งจากประเทศสมาชิกอาเซียนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยทั้งในด้านการบริการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการลงทุน ๒) บุคลากรด้านการท่องเที่ยวของไทยมีจุดที่ต้องปรับคือด้านภาษาต่างประเทศ ซึ่งอาจเสียเปรียบคู่แข่งจากประเทศอื่น ดังนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงได้ประสานงานร่วมกันกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ ฯลฯ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป นอกจากนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดทำหลักสูตรมาตรฐานโดยมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งเข้ามาช่วยกำกับดูแล อาทิ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด ฯลฯ เพื่อยกระดับและพัฒนาบุคลากรภายในประเทศไทยให้มีมาตรฐานพร้อมสำหรับการเปิดประเทศเข้าสู่สมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นอกจากนี้ประเทศไทยจะได้โอกาสในการ่วมทุนกับนักธุรกิจในกลุ่มอาเซียนเพิ่มเพื่อเพิ่มความชำนาญและการรู้จักตลาดที่ขยายตัวในอนาคต อย่างไรก็ตามเรื่องการรักษาความปลอดภัย เรื่องการเดินทางเข้าออกภายในแต่ประเทศของกลุ่มสมาชิกอาเซียนจำเป็นต้องมีการวางแผนและบริหารจัดการที่ดี เพราะเมื่อมีการเคลื่อนย้ายผู้ขึ้นมากขึ้น อาจเป็นช่องทางให้เกิดมิจฉาชีพฉวยโอกาสกระทำทำกฎหมายต่างๆ ได้งานขึ้น ทั้งนี้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจะเป็นหน่วยงานหนึ่งที่จะดำเนินการประสาน สอดส่องดูแลในสาขาการท่องเที่ยว ดูแลนักท่องเที่ยวควบคู่กันไป ในต้อนท้ายคณะกรรมการการตรวจสอบและประเมินผลประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีข้อแนะนำในการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในร่วมหารือกับมหาวิทยาลัยภายในประเทศให้มากขึ้น เพื่อการกระจายความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ในมหาวิทยาลัยทั่งประเทศเพราะมหาวิทยาลัยต่างๆ ล้วนมีความพร้อมในด้านวิชาการรองรับอยู่ก่อนแล้ว และที่สำคัญทำอย่างไรจะให้ประชาชนในประเทศไทยทั้งหมดรับทราบและตื่นตัวในการเปิดประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือ ค.ศ. ๒๐๑๕ ในครั้งนี้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะประชาสัมพันธ์ให้คนในประเทศไทยได้ทราบอย่างทั่วถึงต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ