กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา บัณฑิตวิทยาลัย จัดอบรมเตรียมความพร้อมว่าที่มหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา พัฒนาศักยภาพสู่การนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ
ผศ.ดร.ไพโรจน์ ด้วงวิเศษ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา ของบุคลากรทางการศึกษาและบุคคลทั่วไปมีมากขึ้น ขณะเดียวกันการเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพทางการศึกษาก็มีความจำเป็น ด้วยเหตุนี้ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จึงจัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การพัฒนาศักยภาพการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ” เพื่อพัฒนาคุณภาพ และสร้างผลงานทางวิชาการที่มีมาตรฐาน ตลอดจนเพื่อให้นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา นำความรู้ที่ได้จากการอบรมไปพัฒนางานวิจัย
ด้าน ดร.ประภาพร แสงทอง รองคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศเรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.2548 และข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.2549 ได้กำหนดเกณฑ์การสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท แผน ก แบบ ก 2 ต้องศึกษารายวิชาครบตามกำหนดในหลักสูตร โดยจะต้องได้คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 พร้อมทั้งเสนอวิทยานิพนธ์และการสอบผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้าย โดยคณะกรรมการที่สถาบันอุดมศึกษาแต่งตั้ง และผลงานวิทยานิพนธ์จะต้องได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารหรือสิ่งพิมพ์ทางวิชาการ หรือเสนอต่อที่ประชุมวิชาการที่มีรายงานการประชุม
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษา ก่อนการนำเสนอผลงานในโครงการประชุมนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ครั้งที่ 1 ในวันที่ 3 มิถุนายน 2554 โดยมีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จำนวน 29 คน เข้าร่วมนำเสนอผลงานวิจัย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสำเร็จการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัยจึงจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น โดยรูปแบบกิจกรรมประกอบด้วย การบรรยายเรื่องเทคนิคการเขียนบทความและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ และการฝึกปฏิบัติการเขียนบทความวิจัยและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ
“บัณฑิตวิทยาลัยมุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมอบรม ได้รับความรู้ ความเข้าใจ และทักษะเกี่ยวกับการเขียนบทความและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ เพื่อจะได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ และสร้างผลงานทางวิชาการที่มีมาตรฐาน ตลอดจนสร้างความก้าวหน้าในการปฏิบัติงานทางการศึกษาและอาชีพต่อไป” ดร.ประภาพร กล่าว