กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๙.๐๐ — ๑๑.๐๐ น. ณ ห้องประชุมป๋วยอึ๊งภากรณ์ ชั้น ๗ อาคารสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้จัดให้มี พิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกันเพื่อความร่วมมือในการศึกษาการใช้โครงข่ายเคเบิลใ ยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ร่วมกันของรัฐวิสาหกิจกลุ่มไฟฟ้าและกลุ่มสื่อสาร ได้แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
โดยมีนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นประธานในพิธีดังกล่าว
นายสมชัยฯ กล่าวถึงความเป็นมาของความร่วมมือนี้ว่า ในปีที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจทั้ง ๕ แห่ง ได้ร่วมกันจัดทำผลการศึกษาภาพรวมโครงข่าย Fiber Optic ที่มีอยู่ของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง และเตรียมความพร้อมใน การดำเนินการตามแนวน โยบายของภาครัฐในการพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคมร่วมกันเพื่อรองรับการเข้าถึง ระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสารสนเทศของประชาชน ตามนโยบายบอร์ดแบนด์แห่งชาติที่รัฐบาลได้ประกาศไว้เมือวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาในปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะสามารถสะท้อนให้เห็นภาพโครงข่าย Fiber Optic และอัตราการใช้งานจริงของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งแล้ว ยังพบว่ารัฐวิสาหกิจกลุ่มไฟฟ้ามีโครงข่าย Fiber Optic เหลือจากการใช้งานในกิ การภายในของรัฐวิสาหกิจกลุ่มไฟฟ้า และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการสื่อสารโดยสามารถรองรับการส่งผ่านข้อมูลสารสนเทศได้อีกจำนวนมาก แต่ยังคงมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาในเชิงเทคนิค โดยเฉพาะจุดเชื่อมต่อและการแบ่งพื้นที่การวางโครงข่ายว่าในข้อเท็จจริงสามารถจะนำโครงข่ายดังกล่าวมาใช้งานร่วมกันได้หรือไม่ เพียงใด ตลอดจนมีข้อจำกัดในเรื่องใดบ้าง ดังนั้น การดำเนินการของรัฐวิสาหกิจทั้ง ๕ แห่งในปีนี้ จะเป็นการศึกษาเชิงเทคนิคและในประเด็นสำคัญอื่นๆ ในเชิงลึกเพิ่มเติม โดยมีเป้าหม ายให้เกิดภาพรวมโครงข่ายที่สามารถใช้เปิดให้บริการได้อย่างทั่วถึงโดยเร็ว และคาดว่าการศึกษาดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๔
นายสมชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างรัฐวิสาหกิจกลุ่มไฟฟ้าและกลุ่มสื่อสารนับเป็นจุดเริ่มต้นและตัวอย่างที่ดีของการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนการบริหารการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งปัจจุบัน สคร. ได้ผลักดันให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างรัฐวิสาหกิจให้ แพร่หลายมากยิ่งขึ้น และในอนาคตอาจผลักดันให้การใช้ทรัพยากรร่วมกันเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน เพื่อให้การใช้ทรัพยากรและการลงทุนเป็นไปอย่างประหยัด และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป