กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--นีลเส็น
ชาวไทยเปลี่ยนการเก็บออมเงินมาเป็นการลงทุนในตลาดหุ้น กองทุนรวมและลดภาระหนี้สินพบชาวไทยมากกว่าครึ่งยังคงลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยเพิ่มขึ้น 4 จุด แตะ 106 ในไตรมาสแรกของปี เป็นผลมาจากการความคาดหวังต่อโอกาสด้านการงานและสถานภาพทางการเงินที่ดีขึ้น อ้างอิงจากผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคทางอินเตอร์เน็ตทั่วโลกของนีลเส็น
ผลสำรวจออนไลน์รายไตรมาสของนีลเส็นติดตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภค, ความกังวลใจหลัก, ความตั้งใจในการใช้จ่าย, มุมมองทางด้านเศรษฐกิจ และอื่นๆ ระดับความเชื่อมั่นที่สูงหรือต่ำกว่าระดับมาตรฐานที่ 100 บ่งชี้การมีมุมมองเชิงบวกหรือลบของผู้บริโภค
จากผลสำรวจทั่วโลก 7 ใน 10 ประเทศที่มีความเชื่อมั่นสูงสุดมาจากประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก ในขณะเดียวกันนีลเส็นพบว่า 9 ใน 10 ประเทศที่มีความเชื่อมั่นต่ำที่สุดในโลก มาจากประเทศในแถบยุโรปเ ทั้งนี้ อินเดียยังคงเป็นประเทศที่มีความเชื่อมั่นสูงสุดในโลก ในไตรมาสแรก (ดัชนี 131 จุด) อันดับรองลงมาคือ ซาอุดิอาระเบีย (118) และอินโดนีเซีย (116) ตามลำดับ
มุมมองเชิงบวกต่อความคาดหวังด้านงานและความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานภาพทางการเงินไม่ได้ทำให้ชาวไทยใช้จ่ายมากขึ้น
เมื่อพูดถึงมุมมองต่อความคาดหวังด้านงานในอีก 12 เดือนข้างหน้า หกสิบสามเปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคชาวไทย อธิบายว่าความคาดหวังด้านงานของพวกเขาในปีหน้าอยู่ในระดับที่ดีหรือดีเยี่ยม เพิ่มขึ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสที่แล้ว ด้วยระดับความเชื่อมั่นที่มีต่อด้านการงานของผู้บริโภค จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้บริโภคชาวไทยจะมีความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานภาพทางการเงินในอีก 12 เดือนข้างหน้าของพวกเขาด้วยเช่นกัน โดยหกสิบสามเปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคเหล่านี้เชื่อว่าสถานภาพทางการเงินของพวกเขาจะอยู่ในระดับที่ดีหรือดีเยี่ยม เพิ่มขึ้นเจ็ดเปอร์เซ็นต์จากผลสำรวจในไตรมาสที่ผ่านมา
อย่างไรก็มตาม ผู้บริโภคระบุว่าพวกเขามีความตั้งใจที่จะใช้จ่ายน้อยลงในอีก 12 เดือน โดยห้าสิบหกเปอร์เซ็นต์กล่าวว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้าไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีหรือเหมาะสมที่จะซื้ออะไรที่พวกเขาต้องการ ซึ่งเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เห็นว่าไม่เหมาะนี้เพิ่มขึ้นสามเปอร์เซ็นต์ จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2553 และหาก เทียบกับในไตรมาสที่3ของปี 2553 มีเพียงสี่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ที่มีความคิดดังกล่าว
คุณแอรอน ครอส กรรมการผู้จัดการ นีลเส็น ประเทศไทย กล่าวว่า “ในไตรมาสแรกของปี 2554 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศไทยได้รับการกระตุ้นจากการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างมาก จากมุมมองในเชิงบวกต่อความคาดหวังด้านงานและได้รับอิทธิผลเสริมจากความรู้สึกดีเกี่ยวกับสถานภาพทางการเงิน แต่ภาพที่สวยงามดูเหมือนจะหยุดอยู่แค่ตรงนี้ เนื่องจาก ผู้บริโภคชาวไทยมีแนวโน้มที่จะรัดเข็มขัดมากขึ้น จากความกังวลในเรื่องค่าอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลให้พวกเขามองหา “ความคุ้มค่า” ในการซื้อสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย”
คุณแอรอน เสริมอีกว่า “สิ่งนี้น่าจะกระตุ้นให้กลุ่มผู้ค้าปลีก จัดโปรโมชั่นและการแนะนำสิ่งใหม่ๆออกมาให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค นอกจากนี้ จากข้อมูลดัชนีค้าปลีกของนีลเส็น เรายังพบ การแข่งขันด้านราคาในกลุ่มผู้ค้าปลีกของสินค้าอุปโภคบริโภคที่รุนแรงขึ้น เพื่อแย่งชิงลูกค้าในตลาด ในขณะที่ต้องเสนอสิ่งที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค เมื่อผู้บริโภคซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน กลุ่มผู้ค้าปลีกอาจจะได้รับผลกระทบในเรื่องของกำไรในระยะสั้น”
ชาวไทยตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
มากกว่า 8 ใน 10 ของผู้บริโภคชาวไทย (84%) เปลี่ยนนิสัยการใช้จ่ายเพื่อประหยัดรายจ่ายในครอบครัวมากขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2554 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หกสิบสี่เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริโภคชาวไทยกล่าวว่าพวกเขาลดค่าใช้จ่ายในการหาสิ่งบันเทิงนอกบ้าน (ซึ่งในไตรมาสที่แล้วมี 44% ที่ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้) ห้าสิบสองเปอร์เซ็นต์ กล่าวว่าพวกเขาใช้จ่ายน้อยลงในการซื้อเสื้อผ้าใหม่ ( เพิ่มขึ้นจากสี่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสก่อน) นอกจากนี้สี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ระบุว่าพวกเขาลดค่าใช้จ่ายในด้านการท่องเที่ยวในวันหยุดลง (จากเดิม 33% ในไตรมาสก่อน)
ชาวไทยเปลี่ยนจากการเก็บออมเงินหันมาลงทุนในตลาดหุ้นและลดภาระหนี้
หลังจากใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตแล้ว1 ใน 6 ของผู้บริโภคชาวไทยเลือกที่จะออมเงินเป็นอันดับแรก (ลดลง 12 จุดเมื่อเทียบกับไตรมาสที่4 ของปี 2553) ซึ่งแสดงให้เห็นระดับการลดลงที่มากที่สุดจากตัวเลือกทั้งหมดที่ชาวไทยจะเลือกใช้กับเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น อย่างไรก็ตามผู้บริโภคชาวไทยยังคงติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของประเทศที่ประชาชนออมเงินมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ผลสำรวจของนีลเส็นยังพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยเลือกใช้กับเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นเพิ่มมากขึ้น ในด้าน “การจ่ายหนี้บัตรเครดิตและเงินกู้” (เพิ่มขึ้น 5 จุดจากไตรมาสที่ 4 ปี 2553) รวมทั้ง “การลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม” (เพิ่มขึ้น 8 จุด มาอยู่ที่26%)
นีลเส็นพบ ผู้บริโภคชาวไทยจำนวนน้อยลง ที่กล่าวว่าพวกเขาใช้จ่ายไปกับด้านการท่องเที่ยวในวันหยุด การซื้อสินค้าเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตลอดจนการปรับปรุงและตกแต่งบ้าน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้
ชาวไทยมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปัญหาเศรษฐกิจยังคงเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความใส่ใจมากที่สุดในอีก 6 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตามระดับความกังวลในเรื่องนี้ได้อยู่ที่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ ลดลงสี่เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสที่แล้ว
การวิเคราะห์ของนีลเส็นยังเปิดเผยว่าความกังวลที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า คือ ปัญหา “ภาวะโลกร้อน” โดยพบ สิบสามเปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคชาวไทยแสดงความกังวลต่อปัญหานี้เพิ่มขึ้นมากที่สุด (เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสที่ 4 ปี 2553) และมีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นที่มองว่า “ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น” เป็นความกังวลหลัก (เพิ่มขึ้น 3%จากไตรมาสที่ 4 ปี 2553)
เกี่ยวกับการสำรวจ
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกนี้ จัดทำขึ้นในช่วงวันที่ 23 มีนาคม — 12 เมษายน 2554จากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกว่า 28,000 คน จาก 51 ประเทศ ในทวีปเอเชียแปซิฟิค ยุโรป ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา รวมทั้งอเมริกาเหนือ ในประเทศไทย ผู้ตอบคำถามคือ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวน 500 คน
เกี่ยวกับนีลเส็น
บริษัท นีลเส็น จำกัด ( NYSE: NLSN) เป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลทางการตลาด และข้อมูลของผู้บริโภค รวมถึงการบริการการตรวจวัดและจัดเก็บข้อมูลทางด้านต่างๆ เช่น ทีวี ออนไลน์ และโทรศัพท์มือถือ ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในแวดวงการตลาดเป็นอย่างดี นีลเส็นเปิดดำเนินการมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยมี สำนักงานใหญ่อยู่ที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
นิจวรรณ คูหา ( นิกกี้ ) Email:[email protected]
Tel:02-674-6000 ext.5131 or 089-772-7707