กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--IMAGE PR
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ดึง “หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย” ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมพัฒนาและเสริมศักยภาพตลาดไมซ์ในประเทศ ชูกรอบความร่วมมือใน 5 แนวทางสำคัญ มุ่งเน้นการสร้างความมีส่วนร่วม การกระจายกิจกรรมไมซ์สู่ทุกภูมิภาคของประเทศ และการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อยกระดับและขับเคลื่อนตลาดไมซ์ในประเทศ ตั้งเป้าการเติบโตร้อยละ 30 ต่อยอดสู่ผลลัพธ์แห่งการ “กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ”
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า “ตลาดไมซ์ในประเทศมีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 20-30 ต่อปี และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น สสปน.จึงได้เร่งเดินหน้าปรับโครงสร้างกลยุทธ์การบริหารงาน และพัฒนาแผนงานด้านการตลาดไมซ์ในประเทศแบบครบวงจร โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ ตามแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานของ สสปน.อันได้แก่ การดึงงาน (Win) การส่งเสริมการตลาด (Promote) และการประชาสัมพันธ์ (Promote) ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จะเป็นกลยุทธ์การดำเนินงานที่สำคัญในด้านการส่งเสริมการตลาด โดยเฉพาะตลาดไมซ์ในประเทศของ สสปน.และขับเคลื่อนให้ตลาดไมซ์ในประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง"
ทางด้าน นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “จากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศที่คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4-5 ในปีนี้ ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังคงสามารถเดินหน้าและเติบโตได้ตามเป้า เนื่องจากปัจจัยบวกหลายประการ และเพื่อให้สามารถบรรลุได้ตามเป้าหมาย และแนวทางที่สำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีคือการเร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ อันจะขยายผลสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระดับมหภาค
และอุตสาหกรรมไมซ์ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพสำคัญ อันมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับ สสปน.เพื่อร่วมกันดำเนินงานและขยายเครือข่ายการทำงาน พร้อมทั้งเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานระหว่างกัน เพื่อต่อยอดให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้อย่างมั่นคง”
การผลักดันและพัฒนาตลาดไมซ์ในประเทศ เป็นแนวนโยบายและแผนงานที่รัฐบาลและเอกชนให้การผลักดันและสนับสนุนร่วมกันอย่างเต็มที่ ซึ่งทุกภาคส่วนเห็นพ้องกันว่า “ตลาดไมซ์ในประเทศ” เป็นเสมือนเสาหลักให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ไทย และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพที่เป็นปัจจัยบวกต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจากการประมาณการ สสปน.คาดว่าในปี 2554 อุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศจะเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 โดยคาดว่าจะมีผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศ จำนวน 2.5 ล้านคน สร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 17,500 ล้านบาท
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันระหว่างสองหน่วยงานเพื่อร่วมกันยกระดับและขับเคลื่อนตลาดไมซ์ในประเทศเพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาเศรษฐกิจไทยในองค์รวม โดยมุ่งเน้นกรอบความร่วมมือใน 5 แนวทางได้แก่ 1) การสร้างการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมไมซ์ในประเทศ 2) การส่งเสริมให้เกิดการจัดประชุมในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ 3) การสร้างความรู้ความเข้าใจต่ออุตสาหกรรมไมซ์ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ 4) การร่วมกันจัดกิจกรรมเพิ่มเสริมศักยภาพของไทยสู่ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมไมซ์ และ 5) การร่วมกันดำเนินกิจกรรมที่มุ่งเน้นส่งเสริมความรับผิดขอบต่อสังคม (CSR) และตระหนักในผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
“จากกรอบแนวทางความร่วมมือร่วมกับ สสปน. ดังกล่าว มีความสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานด้าน “ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของประเทศไทย” ของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และทางหอการค้าไทยจะให้การสนับสนุนตลาดไมซ์ในประเทศ ไปพร้อมๆ กับการส่งเสริมการมีส่วนร่วม และเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านเครือข่ายหอการค้าทั่วประเทศไทยเพื่อให้เข้าใจและเล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ พร้อมๆ กับการส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมไมซ์ในทุกภูมิภาค ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะสนับสนุนการเติบโตของตลาดไมซ์ในประเทศแล้ว แต่ยังช่วยขับเคลื่อนและกระตุ้นให้จีดีพีของประเทศได้ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 4-5 ได้ตามเป้า” นายดุสิต กล่าวเสริม
ทางด้าน นายอรรคพล กล่าวทิ้งท้ายว่า “ที่ผ่านมาสสปน.ได้เร่งดำเนินงานกระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรในทุกภาคส่วน และความร่วมมือร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะส่งผ่านองค์ความรู้ แนวทางการปฏิบัติ และกระตุ้นการมีส่วนร่วมไปยังหน่วยงานภาคเอกชนให้เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของตลาดไมซ์ในประเทศในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของตน ซึ่ง สสปน.มั่นใจว่าในปี 2558 ตลาดไมซ์ในประเทศ หรือ Domestic MICE จะไม่ได้หมายรวมถึงประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโอกาสทางการตลาดสำหรับประชากรกว่า 880 ล้านคน จากกลุ่มประเทศอาเซียนและจีนตอนใต้ และจะมีอัตราการเติบโตของตลาดไมซ์ในประเทศอีก 100% จากปี 2552”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ สสปน.
คุณปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้จัดการประชาสัมพันธ์อาวุโส
Email: parichat_s@tceb.or.th
คุณสุเมธ กาญจนพันธุ์ ผู้จัดการประชาสัมพันธ์
Email: sumet_k@tceb.or.th
IMAGE PR