กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน เผยความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 22,586.1 เมกะวัตต์ ทำลายเป้าหมายการพยากรณ์ทั้งในกรณีฐานและกรณีสูงสุด แต่มั่นใจปริมาณสำรองเพียงพอถึง 20.4% ไม่เกิดปัญหาไฟตกไฟดับแน่นอน และขอเชิญชวนให้ประชาชนช่วยกันประหยัดไฟมากยิ่งขึ้น
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) เมื่อวานนี้ 24 เมษายน 2550 อยู่ที่ระดับ 22,586.1 เมกะวัตต์ ถือว่าทำลายเป้าหมาย Peak ในปี 2550 ที่พยากรณ์ไว้ทั้งในกรณีฐานที่ระดับ 22,513 เมกะวัตต์ และกรณีสูงที่ระดับ 22,562 เมกะวัตต์
แม้ว่าค่า Peak จะทะลุเกินเป้าหมาย แต่ประเทศไทยก็ยังมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่พึ่งได้ อยู่ที่ระดับ 27,208 เมกะวัตต์ หรือมีปริมาณสำรองไฟฟ้าที่ระดับ 20.4% นับว่าเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับแน่นอน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงาน จะมีการติดตามสถานการณ์ไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด และขอเชิญชวนให้ประชาชนหันมาประหยัดการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยให้ประชาชนประหยัดเงินค่าไฟฟ้าให้กับตนเองแล้ว ประเทศชาติเองก็สามารถชะลอการลงทุนการก่อสร้างไฟฟ้าแห่งใหม่ได้ โดยประชาชนสามารถขอทราบรายละเอียดหรือวิธีการประหยัดไฟฟ้าได้ที่ สนพ.ทุกวันในเวลาราชการ หรือสามารถดูวิธีประหยัดไฟฟ้าผ่าน www.eppo.go.th
การเกิด Peak เมื่อวานนี้ นับรวมเป็นครั้งที่ 16 ในปี 2550 แบ่งเป็น เดือนมีนาคม จำนวน 9 ครั้ง และเดือนเมษายน จำนวน 7 ครั้ง ดังนี้
มีนาคม 2550 ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) เมษายน 2550 ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak)
วันที่ 13 21,317.8 เมกะวัตต์ วันที่ 2 21,781.8 เมกะวัตต์
วันที่ 14 21,374.6 เมกะวัตต์ วันที่ 3 22,136.9 เมกะวัตต์
วันที่ 15 21,272.6 เมกะวัตต์ วันที่ 4 21,300.6 เมกะวัตต์
วันที่ 16 21,365.9 เมกะวัตต์ วันที่ 5 21,088.6 เมกะวัตต์
วันที่ 26 21,366.8 เมกะวัตต์ วันที่ 20 21,644 เมกะวัตต์
วันที่ 27 21,896.4 เมกะวัตต์ วันที่ 23 22,216.3 เมกะวัตต์
วันที่ 28 22,071.4 เมกะวัตต์ วันที่ 24 22,586.1 เมกะวัตต์ระดับสูงสุด ณ ตอนนี้
วันที่ 29 22,161 เมกะวัตต์
วันที่ 30 21,909.8 เมกะวัตต์