กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--บลจ.บัวหลวง
นาย วศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (บลจ.บัวหลวง) แนะนักลงทุนเลือกสร้างสมดุลการลงทุน โดยเลือกระยะเวลาการลงทุนที่เหมาะสมพร้อมกับเปิดโอกาสรับผลตอบแทน จากดอกเบี้ยขาขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการลงทุนเต็มที่โดยมองว่าถ้าเปรียบเทียบการให้ผลตอบแทนตามระยะเวลาการลงทุนนั้น โดยปกติการลงทุนที่มีระยะเวลามากกว่ามักจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งถ้าผลตอบแทนแทบจะใกล้เคียงกันนักลงทุนอาจเลือกพักเงินในการลงทุนระยะ สั้นมากๆ เพื่อรอผลตอบแทนการลงทุนปรับขึ้นแล้วเข้าลงทุนต่อได้ แต่ถ้าเหมือนภาวะปัจจุบันที่ผลตอบแทนในแต่ระยะเวลาเช่น 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน ให้ผลตอบแทนที่ต่างกันพอสมควร นักลงทุนควรเลือกลงทุนในตัวที่ให้ผลตอบแทนดี เพื่อที่ให้ระหว่างช่วงที่รอดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนปรับขึ้นนั้นได้รับ ประโยชน์จากการลงทุนอย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่ลืมที่จะลงทุนให้สอดคล้องกับความจำเป็นใช้เงินก้อนนั้นๆ ด้วย
สำหรับ นักลงทุนผู้มีเงินออมสามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นๆ เพื่อสามารถรับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นได้ทันกับการปรับเพิ่มของอัตราดอกเบี้ยแต่ ไม่ต้องการพลาดรับผลตอบแทนที่เหมาะสมระหว่างทาง กองทุนรวม B-Fixterm16/11 เป็นทางเลือกหนึ่ง โดยกองทุนมีแผนลงทุนในตั๋วเงินคลัง เงินฝาก ตราสารหนี้ของสถาบันการเงิน และตราสารหนี้ของเอกชน ในประเทศในสัดส่วนประมาณร้อยละ 51 และส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป กองทุน B-Fixterm16/11 คาดว่าจะให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ 3.40 ต่อปี มีอายุการลงทุนประมาณ 9 เดือน ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท เปิดขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 25 มิถุนายนถึง 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 และเมื่อกองทุนนี้ครบอายุนักลงทุนจะได้รับเงินลงทุนและผลตอบแทนโดยวิธีการ รับซื้อคืนอัตโนมัติ ที่สำคัญสำหรับนักลงทุนประเภทบุคคลได้รับผลตอบแทนโดยไม่ต้องเสียภาษี
กองทุนรวม B-Fixterm16/11 บริหารและจัดการกองทุนโดยบลจ.บัวหลวง จำกัด ภายใต้การสนับสนุนของธนาคารกรุงเทพ นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปได้ที่ บัวหลวงโฟน 1333 หรือที่บลจ.บัวหลวง 0-2674-6488 กด 8 หรือที่ www.bblam.co.th