BWG ธุรกิจรุ่งได้งานเพิ่มอีกร่วม 100 ลบ. หลังรัฐเข้มโรงงานกำจัดขยะอุตฯถูกวิธี

ข่าวทั่วไป Monday July 4, 2011 16:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--IR PLUS BWG ประกาศได้ลูกค้าเพิ่มอีกมูลค่างานรวมกันกว่า 100 ลบ. หลังรัฐเข้มโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างถูกวิธี "สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ" มั่นใจปีนี้ธุรกิจฟื้นตัวเต็มที่ตามภาวะเศรษฐกิจ และโรงงานอุตสาหกรรม คุยจะเห็นการเติบโตของบริษัทฯ อย่างชัดเจนต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจไปสู่การผลิตพลังงานทดแทนเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้รับงานประมูลจากลูกค้าเพิ่มอีกคิดเป็นมูลค่ารวมร่วม 100 ล้านบาท โดยเป็นงานกำจัดกากอุตสาหกรรมของ บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำจัด (มหาชน) มูลค่า 18 ล้านบาท บริษัท เอสแอลพี เอ็นไวรอนเมนทอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับโรงงาน มูลค่า 1.7 ล้าน บริษัท ทีโอซีไกคอน จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจด้านปิโตรเคมี มูลค่า 2.3 ล้านบาท บริษัท พีทีทีโพลีเอททีลีน จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจด้านปิโตรเคมี มูลค่า 1.1 ล้านบาท บริษัท จีสตีล จำกัด (มหาชน) มูลค่า 1.5 ล้านบาท บริษัท ไทยเอ็กซ์เพลส จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม มูลค่า 5 ล้านบาท บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่า 30 ล้านบาท บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มูลค่า 20 ล้านบาท และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มูลค่า 16 ล้านบาท รวม 95.6 ล้านบาท "ขณะนี้ BWG ได้รับงานจากทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมในประเทศ ส่งผลให้ปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เดินหน้านโยบายลดปัญหามลพิษอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมต้องจัดการกากอุตสาหกรรมให้เป็นระบบที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงมีกากอุตสาหกรรมที่เข้าบำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากปัจจุบันนี้ BWG ถือเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวของประเทศไทย ที่ให้บริการบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ทั้งฝังกลบ เผาทำลายด้วยเตาอุณหภูมิสูง รีไซเคิล และแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตพลังงาน จึงได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีดังกล่าว" นายสุวัฒน์กล่าวต่อว่า การขยายตัวอย่างชัดเจนและต่อเนื่องของปริมาณกากอุตสาหกรรมในประเทศ เชื่อว่าจะส่งผลให้บริษัทเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 1/2554 เป็นต้นไป โดยในไตรมาสดังกล่าว BWG สามารถสร้างรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโตได้อย่างเด่นชัด โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท หรือหุ้นละ0.07 บาท เพิ่มขึ้น 26.17 ล้านบาท หรือร้อยละ 406.18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ที่ขาดทุนสุทธิ 5.17 ล้านบาท หรือขาดทุนหุ้นละ 0.02 บาท และถือว่าใกล้เคียงกับกำไรงวด 9 เดือนของปี 2553 ที่ทำได้ 23 ล้านบาท และเชื่อว่าในไตรมาสที่ 2/2554 จะสามารถสร้างผลประกอบการให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามทิศทางการขยายตัวของกากอุตสาหกรรมดังกล่าว "ในปี 2552 มีกากอุตสาหกรรมทั้งที่อันตรายและไม่อันตรายในประเทศไทยรวมกันประมาณ 21 ล้านตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 26.8 ล้านตันในปี 2553 และในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 20% จากปีก่อน หรืออยู่ที่ประมาณ 30 ล้านตัน ในขณะที่ปัจจุบัน BWG บำบัดกากทั้ง 2 ประเภทรวมกันประมาณ 2.7 แสนตัน- 3 แสนตัน/ปี เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละปี ดังนั้นเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจ บริษัทฯ จึงเตรียมลงทุนก่อสร้างหลุมฝังกลบและลงทุนในระบบกำกับดูแล และควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งระบบอำนวยความสะดวกในการขนส่งกากอุตสาหกรรมเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถรองรับกากอุตสาหกรรมได้เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของปริมาณกากดังกล่าว นอกจากนั้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดธุรกิจจัดการกากอุตสาหกรรมจากการกำจัดไปสู่การรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่และแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในธุรกิจพลังงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการบริหารจัดการและสร้างรายได้อย่างมั่นคงในระยะยาว" นายสุวัฒน์กล่าว ข้อมูลบริษัท บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจการบริหารและจัดการสิ่งปฏิกูลฯอย่างครบวงจร (One Stop Service) โดยธุรกิจหลักที่ให้บริการมาตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการ คือ การกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบตามหลักสุขาภิบาล และวิธีการฝังกลบอย่างปลอดภัย (รวมทั้งการฝังกลบอย่างปลอดภัยเมื่อทำการปรับเสถียร หรือทำให้เป็นก้อนแข็งแล้ว) โดยมีศูนย์บริหารและจัดการฯ อยู่ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งภายในศูนย์บริหารและจัดการฯ บริษัทยังสามารถให้บริการบำบัด (Treatment) สำหรับการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีทางเคมีกายภาพด้วย ในปี 2550 บริษัทได้มีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเพิ่มเติมในการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ (Recycle) ด้วยการทำเชื้อเพลิงผสม (Fuel Blending) นอกจากนี้บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่การบำบัด (Treatment) ด้วยวิธีเผาทำลายในเตาเผาเฉพาะสำหรับของเสียอันตราย ผ่านบริษัท อัคคีปราการ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย นอกจากนั้น บริษัทมีรายได้ค่าบริการจากการจัดการสิ่งปฏิกูลฯ ด้วยวิธีการอื่นซึ่งบริษัทมิได้เป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเองอีกส่วนหนึ่งด้วย อาทิ การส่งไปเป็นวัตถุดิบทดแทนหรือเผาทำลายร่วมในเตาเผาปูนซีเมนต์ และการส่งไปยังโรงงาน เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ (Recycle) เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ