กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
- ทองโลกดีดตัวกลับทางเทคนิคส่วนทองไทยร่วงหลังบาทแข็งหนัก
- เมื่อวานตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการ
- คาดรีบาวด์ต่อแต่ยังไม่ไปไหนไกลและอาจปรับฐานต่อ
แนวโน้มการเคลื่อนไหว:
ราคาทองและโลหะเงินปรับฐานลงแรงหลังตลาดคลายกังวลจากกรณีของกรีซ จึงทำให้มีแรงขายกลับออกมาในตลาดโลหะมีค่า ก่อนที่จะเริ่มมีการดีดตัวทางเทคนิคเกิดขึ้นในการซื้อขายวานนี้ แต่ราคาก็ยังไม่สามารถยุติสัญญาณการปรับฐานลงได้และยังต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมาต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน และสำหรับราคาทองในประเทศซึ่งกลับปรับฐานลงแม้ราคาทองในตลาดโลกเริ่มดีดตัวกลับ เป็นผลจากการแข็งค่าของเงินบาทหลังนักลงทุนต่างประเทศเริ่มมั่นใจถึงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะสามารถจัดตั้งได้ตามกำหนด จึงกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยในปริมาณสูงถึง 1.07 หมื่นล้านบาท ซึ่งตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อและเงินบาทก็จะแข็งค่าขึ้นต่อในภาพรวม ส่วนการเคลื่อนไหวในวันนี้ด้วยตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการในวันชาติสหรัฐ ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาโลหะมีค่ามีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบ ซึ่งการเคลื่อนไหวในระยะสั้นยังคาดว่าจะเกิดการดีดตัวทางเทคนิคขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,500-1,505 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์สำหรับราคาทองคำและ 34.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์สำหรับราคาโลหะเงิน ก่อนที่จะเริ่มปรับฐานลงต่อ และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อ และจะมีผลให้ราคาทองและโลหะเงินในประเทศปรับขึ้นได้ค่อนข้างจำกัด
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54
Close chg. Support Resistance
21,960 -430.00 21900,21800 22000,22500
คาดว่าราคาคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,500-1,505 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ขึ้นไปได้ ประกอบกับเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อ ดังนั้นสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นจึงสามารถเปิดสถานะขายที่บริเวณแนวต้านดังกล่าว เช่นเดียวกับกรณีที่ปรับฐานลงไปต่ำกว่า 1,485 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีแรงขายกลับออกมามาก
ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54
Close chg. Support Resistance
1,051 -34.00 1050,1030 1065,1080
ราคาโลหะเงินเริ่มฟื้นตัวกลับแต่ราคาซิลเวอร์ฟิวเจอร์สกลับปรับฐานลงจากผลของการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งในภาพรวมยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อ แต่ในช่วงสั้นๆอาจเริ่มทรงตัว จึงน่าจะมีผลให้ราคาซิลเวอร์ฟิวเจอร์สสามารถดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบลง และการเก็งกำไรฝั่งซื้อยังเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น หากมีการดีดตัวกลับเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 34.50 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ยังเป็นระดับที่ต้องระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมา และอาจเลือกเก็งกำไรการปรับฐานรวมทั้งกรณีที่ราคาลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 33.70 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์