กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ภาวะตลาดทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 22,000 - 22,100
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,543.40
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.27 — 30.30
- GFQ11 Hi- Low 22,300 — 22,150 ปิดที่ 22,160
Gold & Silver Insight
สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,541.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,525.00-1,546.00 ดอลลาร์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.7 เซนต์ ปิดที่ 36.543 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงเปราะบาง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 18,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 90,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.2% จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 9.1%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดลบ 62.29 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 12,657.20 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 9.42 จุด หรือ 0.70% แตะที่ 1,343.80 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 12.85 จุด หรือ 0.45% แตะที่ 2,859.81 จุด หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 2.47 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่96.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.60-99.18 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด
กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 11 กรกฎาคม ขายออก 0.41ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1205.81ตัน เข้าสู่ระดับ 1205.41ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.79% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4245 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4359 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.44% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6040 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.5970 ดอลลาร์ต่อยูโรโดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4197 ดอลล่าร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.74% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.620 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 81.220 เยนโดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 81.22 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.25-30.28 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.27-30.30 บาทต่อดอลล่าร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อยอดค้าปลีกและการบริโภคในภาคเอกชน ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 35.3 จุด จากระดับ 34.2 จุดในเดือนพ.ค. อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าจำนวนผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นลบต่อเศรษฐกิจ มีมากกว่าผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นบวก
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีนกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ว่า จีนควรใช้นโยบายการเงินอย่างระมัดระวังต่อในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ ควบคู่ไปกับใช้มาตรการด้านการคลังแบบเชิงรุก เพื่อส่งเสริมการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นายเซียะกล่าวว่า ในขณะที่จีนยังคงควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบอย่างเข้มงวดนั้น การใช้นโยบายการคลังในเชิงรุกถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้จีนสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ
- คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการคนใหม่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับ "ผลกระทบที่เลวร้าย" หากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ นางลาการ์ด ซึ่งรับตำแหน่งผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมากล่าวในการสัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐว่า การผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐจะทำให้มีการขึ้นดอกเบี้ยและทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงสหรัฐมียอดเงินกู้ชนเพดานหนี้ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันได้มีการกำหนดเพดานหนี้ไว้ที่ระดับ 14.29 ล้านล้านดอลลาร์ภายในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ขณะที่กระทรวงคลังสหรัฐระบุว่า สหรัฐอาจเริ่มเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 สิงหาคม
- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐสภาสหรัฐ จะจัดประชุมอีกครั้งในวันนี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ และลดยอดขาดดุลงบประมาณ เพื่อให้สหรัฐรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ กระทรวงการคลังระบุว่าสหรัฐอาจจะผิดนัดชำระหนี้หากรัฐสภาไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางซึ่งปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับ 14.29 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในวันที่ 2 ส.ค.นี้ โดยประธานาธิบดีโอบามาได้จัดการประชุมร่วมกับผู้นำรัฐสภาสหรัฐเป็นเวลา 3 ครั้งแล้ว เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ แต่จนถึงขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า ความไม่แน่นอนที่ว่ารัฐสภาสหรัฐจะอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลหรือไม่นั้น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ภาคเอกชนลังเลที่จะเพิ่มการจ้างงาน และทำให้อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 9.2%
- ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่า การประชุมของผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) และคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ต้องยืดเยื้อออกไป ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า อิตาลีอาจเป็นประเทศต่อไปที่เผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
7 — 8กรกฎาคม2554
วัน ? Non-Farm Employment Change 25k 97k 18k
ศุกร์ ? Unemployment Rate 9.1% 9.1% 9.2%
? Average Hourly Earnings m/m 0.3% 0.2% 0.0%
? Wholesale Inventories m/m 1.1% 0.6% 1.8%
วัน ? Housing Starts 184k 182k
จันทร์ ? BOC Business Outlook Survey