กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
- คลายกังวลยุโรปหลัง Stress Test ออกมาดีกว่าคาด
- SPDR ถือทองเพิ่ม 10.6 ตัน
- คาดกรณีเพดานหนี้สหรัฐยังเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทอง
แนวโน้มราคาโลหะมีค่า
ราคาทองและโลหะเงินปิดตลาดค่อนข้างทรงตัวหากเทียบกับระดับราคาเมื่อวันพฤหัสซึ่งเป็นวันทำการวันสุดท้ายของตลาดอนุพันธ์ของไทยในสัปดาห์ก่อน โดยในช่วงค่ำของวันพฤหัสต่อเนื่องจนถึงในช่วงกลางวันของวันศุกร์ราคาปรับฐานลงค่อนข้างแรง โดยราคาทองปรับฐานลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,575 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ส่วนโลหะเงินทำจุดต่ำสุดในวันเดียวกันที่บริเวณ 38 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก่อนที่ราคาโลหะทั้ง 2 ชนิดจะดีดตัวกลับ และสำหรับราคาทองมีแรงซื้อเข้ามามากจนราคาทำจุดสูงสุดใหม่ที่บริเวณ 1,597 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ การปรับฐานของราคาในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนเกิดขึ้นจากรายงานผลการประเมินความเสี่ยงของสถาบันการเงินในยุโรปซึ่งปรากฏว่ามีสถาบันการเงินไม่ผ่านการประเมินน้อยกว่าที่ตลาดคาด จึงทำให้ตลาดคลายกังวลในประเด็นหนี้ยุโรลง จึงลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยลงบ้างในช่วงดังกล่าว แต่ด้วยประเด็นปัญหาเรื่องการขอเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐที่ยังไม่มีความคืบหน้าและอาจไม่ทันกำหนดในช่วงต้นเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นกำหนดเวลาที่สถาบันจัดอันดับความเชื่อถือหลายแห่งเตือนว่าจะมีการปรับลดเครดิตของสหรัฐลง จึงทำให้มีแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา ดังนั้นการเคลื่อนไหวของราคาทองและโลหะเงินในสัปดาห์นี้ประเด็นหลักคงอยู่ที่กรณีการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ หากมีรายงานข่าวที่ทำให้ตลาดกลับมีมุมมองว่ารัฐบาลสหรัฐสามารถหาแนวทางในการกู้เงินเพื่อให้ทันกำหนดได้ก็จะเป็นปัจจัยลบที่ทำให้ราคาทองและโลหะเงินปรับฐานลง แต่หากยังไม่มีความชัดเจนก็จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองทรงตัวในระดับนี้ต่อไป หรือหากปรับฐานลงก็จะมีแรงซื้อรอรับจนทำให้การปรับฐานเกิดขึ้นเพียงในช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตามด้วยราคาที่ปรับขึ้นมาติดต่อกันหลายวัน แม้จะยังไม่มีความชัดเจนจากกรณีของสหรัฐราคาก็คงจะดีดตัวขึ้นไปได้ไม่ไกล
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54
Close chg. Support Resistance
22,800 +150.00 22680,22600 22900,22960
คาดว่าราคาจะแกว่งตัวระหว่าง 1,575-1,600 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ โดยมีประเด็นเรื่องการขอเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐเป็นปัจจัยที่จะมีผลต่อราคา ซึ่งคาดว่าในช่วงที่ยังไม่มีความชัดเจน ราคาจะแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ในบริเวณนี้ การเก็งกำไรฝั่งซื้อยังถูกเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นลดช่วงการปรับขึ้นของราคาในประเทศ ควรรอเปิดสถานะในช่วงที่ราคาปรับฐาน แต่หากราคาดีดตัวผ่าน 1,600 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ โดยยังไม่มีการปรับฐานอาจเลือกเก็งกำไรฝั่งขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา
ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54
Close chg. Support Resistance
1,199 +93.00 1160,1150 1205,1215
ราคาแกว่งตัวขึ้นลงแรงในการซื้อขายวันพฤหัส โดยคาดว่าราคายังมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงหลังจากดีดตัวขึ้นในวันศุกร์ค่อนข้างแรง แนวต้านระยะสั้นที่บริเวณ 39.60-39.70 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ยังเป็นระดับที่คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมา ซึ่งสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งขายหากราคาปรับขึ้นเข้าใกล้แนวต้านดังกล่าวโดยมีจุดปิดสถานะเพื่อตัดขาดทุนอยู่ที่ 40 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ส่วนฝั่งซื้อควรรอเปิดสถานะช่วงที่ราคาปรับฐานลงมายังแนวรับบริเวณ 38.20-38.30 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์