กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
- ทองทรงตัวใกล้จุดสูงสุดบริเวณ 1,622-1,623 ดอลลาร์
- ยังไม่มีประเด็นใหม่ประเด็นเพดานหนี้สหรัฐยังไม่ชัดเจน
- คาดราคาแกว่งตัวในกรอบแคบ
แนวโน้มราคาโลหะมีค่า
ราคาทองคำและโลหะเงินแกว่งตัวในกรอบแนวรับและแนวต้าน โดยมีแรงขายกลับออกมาในการซื้อขายช่วงค่ำจนราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับ แต่ด้วยปัญหาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐที่ยังไม่ชัดเจนจึงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา จนราคาเริ่มดีดตัวกลับและปรับตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณกรอบแนวต้าน และมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นต่อได้ในการซื้อขายวันนี้ แต่ด้วยราคาที่ปรับขึ้นมามาก จึงคาดว่าการฟื้นตัวของราคาคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านขึ้นไปได้ไกลนัก และจะเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาจนราคากลับลงมาแกว่งตัวอยู่ในกรอบการเคลื่อนไหวเดิมเพื่อรอติดตามประเด็นเรื่องการเจรจาเพื่อเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าในช่วงที่เหลือของสัปดาห์รัฐบาลสหรัฐคงจะพยายามหาทางทำให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาได้ก่อนที่จะครบกำหนดในสัปดาห์หน้า การเก็งกำไรในตลาดทองและโลหะเงินในช่วงนี้จึงต้องติดตามประเด็นข่าวต่างๆอย่างใกล้ชิด ส่วนแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคายังคาดว่าจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,605-1,610 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ สำหรับราคาทอง และ 39.90-40 , 40.30-40.50 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ สำหรับราคาของโลหะเงิน ส่วนแนวต้านของราคาทองคำอยู่ที่บริเวณ 1,620-1,625 และ 1,630 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ส่วนโลหะเงินอยู่ที่บริเวณ 41.10 และ 41.60 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ สำหรับราคาของโลหะเงิน ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อ จึงทำให้ราคาทองและโลหะเงินในประเทศปรับขึ้นได้น้อยลงกว่าปกติ
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54
Close chg. Support Resistance
22,830 -90.00 22800,22750 22950,23000
ราคาทองดีดตัวกลับหลังจากปรับฐานลงในการซื้อขายช่วงค่ำและมีแนวโน้มที่ราคาจะขยับขึ้นไปเคลื่อนไหวบริเวณ 1,620-1,625 และ 1,630 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ หากถือครองฝั่งซื้อไว้ในช่วงที่ราคาปรับฐานยังสามารถถือครองสถานะเพื่อรอปิดสถานะในช่วงที่ราคาปรับขึ้นเข้าใกล้แนวต้านดังกล่าว แต่หากยังไม่มีสถานะควรรอเปิดสถานะในช่วงปรับฐาน หรืออาจเก็งกำไรฝั่งขายหากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,530 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ การแข็งค่าของเงินบาทคงมีผลให้ราคาในประเทศปรับขึ้นได้น้อยกว่าปกติ
ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54
Close chg. Support Resistance
1,206 -17.00 1195,1180 1,220, 1,230
มีแนวโน้มที่ราคาจะดีดตัวขึ้นต่อและหากผ่านแนวต้านบริเวณ 41.0-41.2 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ขึ้นไปได้ จะเกิดเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรทางเทคนิครอบใหม่ และคาดว่าราคาจะปรับขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 41.70-41.80 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ต่อไป อย่างไรก็ตามด้วยปัจจัยต่างๆที่ยังไม่ชัดเจน ในช่วงที่ราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้ 41 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ หรือผ่านแนวต้านดังกล่าว อาจทยอยปิดสถานะซื้อเพื่อลดความเสี่ยง แล้วรอเปิดสถานะใหม่ในช่วงที่ราคาปรับฐาน หรือในกรณีที่ราคาปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 41.70-41.80 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ สามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งขาย โดยมีจุดปิดสถานะเพื่อตัดขาดทุนอยู่ที่ 42ดอลลาร์