กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 22,650 - 22,750
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,614
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.72-29.75
- GFQ11 Hi- Low 22,950— 22,860 ปิดที่ 22,880
Gold & Silver Insight
สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,616.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,605.00-1,622.80 ดอลลาร์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 77.4 เซนต์ ปิดที่ 39.794 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 62.44 จุด หรือ 0.51% แตะที่ 12,240.11 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 4.22 จุด หรือ 0.32% แตะที่ 1,300.67 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 1.46 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 2,766.25 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 4 เซนต์ แตะที่ 97.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าพายุโซนร้อน "ดอน" เตรียมกระหน่ำชายฝั่งรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันบางแห่งต้องปิดทำการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงเกินคาดของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ
ส่งมอบ กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 29 กรกฎาคม ซื้อเข้า 18.18 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1244.79 ตัน เข้าสู่ระดับ 1262.97 ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการลงมติร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้ที่เสนอโดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยุโรปร่วงลง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.36% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4314 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4365 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4304 ดอลล่าร์ต่อยูโร
USD/JPY
ค่าเงินอ่อนค่าลง 0.27% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 77.760 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 77.970 เยนต่อ ดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 77.76 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB
ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 29.75-09.78บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.72-29.75บาทต่อดอลล่าร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- มาริสา ลาโก ผู้ช่วยรัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐยังคงดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มากที่สุดในโลกในปี 2553 ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเปิดกว้าง มีรายงานของกระทรวงการคลังเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ข้อมูลดังกล่าวชี้ชัดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงเห็นว่าสหรัฐเป็นประเทศที่น่าทำธุรกิจ รายงานประจำปีของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด ระบุว่า FDI ในสหรัฐขยายตัว 2.28 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2553 หรือ 49% จากปี 2552 ขณะที่ FDI ทั่วโลกขยายตัวเพียง 5% และเฉพาะ FDI ในภาคการผลิตสหรัฐก็ขยายตัวถึง 62% ในปีที่แล้ว
- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐประกาศเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้และลดยอดขาดดุลงบประมาณซึ่งเสนอโดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรออกไป ซึ่งบ่งชี้ว่าความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากของสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามที่จะผลักดันให้สหรัฐรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ การประกาศเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นว่า นายโบห์เนอร์ไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนจากสมาชิกภายในกลุ่มให้รับรองข้อเสนอของเขาได้
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 2.4% สู่ระดับ 90.9 จุดในเดือนมิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 2.0% นายลอว์เรนซ์ ยุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NAR กล่าวว่า แม้ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนมิ.ย. แต่ภาวะโดยรวมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงซบเซา เนื่องจากผู้บริโภคยังคงเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยาก และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังคงไร้ทิศทาง
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ก.ค. ลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 398,000 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 400,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 415,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลดลง 8,500 ราย สู่ระดับ 413,750 ราย
- นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้นำในสภาคองเกรสจะประนีประนอมในการเจรจาเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ หากเจ้าหน้าที่สภานิติบัญญัติจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต เล็งเห็นความสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นหลัก ทั้งสองพรรคก็ควรจะยอมประนีประนอมในเรื่องนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
25-29กรกฎาคม2554
วัน ? Unemployment Claims 422k 413k 398k
พฤหัส ? Pending Home Sales m/m 8.2% -1.5% 2.4%
? German Unempolyment Change 18k -15k -11k
? CBI Relized Sales -2 1 -5
วัน Prelim GDP q/q 0.5% 0.2%
S&P/CS Composite -20 HPI y/y -4.0% -4.6%
CB Consumer Confidence 58.5 52.1
New Home Sales 319k 321k