กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--SIPA
ดร. นิรชราภา ทองธรรมชาติ รักษาการผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการการตลาดต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้กล่าวว่า “เนื่องในวโรกาสมหามงคล ทางสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA ได้จัดทำโครงการให้ทุนชื่อว่า “๘๔ โครงการ ๘๔ พรรษา มหาราชัน” จัดขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554 และนอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ให้มีโอกาสพัฒนางานและการขยายโอกาสทางธุรกิจจากผลงานด้านซอฟต์แวร์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ประกอบการด้านไอทีทั่วไป, ผู้ที่ส่งผลงานซอฟต์แวร์เข้าประกวดทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ, ผู้ที่ได้รับรางวัลซอฟต์แวร์จากเวทีการประกวดในระดับต่างๆ รวมทั้งผู้ที่ได้เข้ารับการบ่มเพาะด้านไอทีในศูนย์บ่มเพาะของมหาวิทยาลัยทั้งในกรุงเทพมหานครและในภูมิภาค และยังได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ใกล้เรียนจบ รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ยังไม่เคยทำธุรกิจซอฟต์แวร์มาก่อน ก็สามารถเขียนรายละเอียดโครงการมาขอรับทุนได้ โดยได้เปิดโครงการนี้มาตั้ง
แต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2554 ซึ่งมีผู้ส่งผลงานมาร่วมกว่า 500 โครงการ ซึ่งรายละเอียดของการให้ทุนนั้นประกอบด้วย ผู้ประกอบการรุ่นใหม่สามารถขอทุนได้ไม่เกิน 300,000 บาท จำนวน 60 ทุน ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขอทุนได้ไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 20 ทุน และผู้ประกอบการขนาดกลาง ขอทุนได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท จำนวน 4 ทุน ส่วนประเภทของโครงการแบ่งเป็น 1) Enterprise Software 2) Digital Content (เช่น : Animation, Game, e-Learning) 3) Embedded System Software 4) Mobile Application หรือซอฟต์แวร์ประเภทอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก 4 ประเภทข้างต้น ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมารวมเป็นทุนมูลค่าถึง 58 ล้านบาท
ดร.นิรชราภา ยังได้กล่าวอีกว่า “นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอของโครงการตามกรอบการให้ทุน และรายละเอียดอื่นๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งผู้ที่สนใจหรือผู้ประกอบอาชีพด้านไอทีก็จะทราบกันดี สำหรับความคืบหน้าของการคัดเลือกผลงานซอฟแวร์ซึ่งมีผู้ส่งมากว่า 500 โครงการนั้น ในขั้นแรกจะต้องผ่านการคัดกรองจากผู้ทรงคุณวุฒิอย่างละเอียดจากคณะกรรมการอีกหลายท่าน เพื่อที่จะให้ได้ผลงานอันยอดเยี่ยมและเหมาะสม ที่จะสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในวงการธุรกิจซอฟแวร์ของประเทศไทยให้ก้าวหน้า ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีหัวข้อเกี่ยวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมีผู้ส่งเข้ามามากเป็นอันดับที่หนึ่ง รองลงมาคือเป็นในเรื่องการท่องเที่ยวและการศึกษา โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลผู้ได้รับทุนสนับสนุนทั้งหมดได้ภายในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2554 ซึ่งทาง SIPA ก็จะได้แจ้งให้ทราบถึงรายชื่อของซอฟแวร์ และหน่วยงานที่คิดค้นทั้ง 84 โครงการให้รับทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยผลที่ทาง SIPA คาดว่าจะได้รับจากโครงการนี้ ก็คือการผลิตผลงานคุณภาพของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย, ทำให้ผลงานเป็นที่รู้จักและยอมรับทั้งภายในและต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงเพื่อให้ได้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนาประเทศ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือการที่ภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทยอย่างหาที่เปรียบมิได้นั่นเอง
สำหรับผู้ที่สนใจในกิจกรรม หรือโครงการต่างๆ ของทาง SIPA ซึ่งล้วนแต่ช่วยส่งเสริมวงการซอฟแวร์เมืองไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ จะสามารถเข้าไปดูข้อมูล หรือรายละเอียดต่างๆ ที่เว็บไซต์ www.sipa.or.th ได้ทุกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือจะโทรศัพท์สอบถามได้ที่ 02-1417100 ก็ได้เช่นกันค่ะ” รักษาการผู้อำนวยการฯ กล่าวทิ้งท้าย