กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--ปตท.
เปิดโลกการเรียนรู้จากการฝึกงานในภาคสนามจริงทั้งในสถานีบริการ ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ ก่อนสัมผัสชีวิตจริง เป็นการสร้างรายได้ให้แก่นักศึกษา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ
เช้าวันนี้ (19 พ.ย. 50) บริษัท ปตท.บริการธุรกิจค้าปลีก จำกัด บริษัท เอ็ม.บี.ซี.แลนด์ และ บริษัท รีเทล บิซิเนส อัลไลแอนซ์ จำกัด ได้ลงนาม กับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในบันทึกข้อตกลง “โครงการความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี” หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประเภทวิชาพาณิชยกรรมสาขางานธุรกิจค้าปลีก โดยให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติงานในสถานประกอบการ และส่งเสริมสนับสนุนให้นักศึกษาพัฒนาการเรียนรู้ได้จากประสบการณ์จริง
นายกฤษณะพล โกมลบุณย์ กรรมการบริษัท ปตท.บริการธุรกิจค้าปลีก เปิดเผยว่า การลงนามในครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความร่วมมือที่ดีระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชนในการดูแลสังคม หากแต่ยังเป็นการสร้างเยาวชนซึ่งถือเป็นอนาคตของชาติให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศต่อไปในอนาคต โดยการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนเหล่านี้ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนให้แก่นักเรียน นักศึกษา สาขางานธุรกิจค้าปลีก ผ่านการฝึกงานภาคปฏิบัติในสนาม อันจะเป็นการผลิตกำลังคนให้ได้มาตรฐานสากลสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานอย่างแท้จริง
ทั้งนี้นักเรียนและนักศึกษาระบบทวิภาคีที่เข้าร่วมจะมีโอกาสเข้าฝึกปฏิบัติงานแบบมืออาชีพ ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สถานีบริการน้ำมันเจ็ท หรือธุรกิจค้าปลีกในกลุ่ม ปตท. อาทิ ร้านกาแฟ Caf? Amazon ร้านสะดวกซื้อ Jiffy และร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในปั๊ม ปตท. เป็นต้น ซึ่งนักศึกษาระดับ ปวช.จะมีโอกาสใน
การเรียนรู้งานต่างๆ อาทิ งานจัดเรียงสินค้า งานแคชเชียร์ งานบริการอาหารสด และงานบริการน้ำมัน เป็นต้น ในขณะที่ นักศึกษาระดับ ปวส. จะได้รับโอกาสในการฝึกงานตำแหน่งผู้จัดการส่วนหน้าลาน ผู้จัดการส่วนบริการอาหารสด และผู้จัดการงานสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น
สำหรับในกรณีนักศึกษาที่มีความสามารถ มีโอกาสสูงที่จะผ่านการพิจารณาเข้าทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสมกับบริษัท โดยเฉพาะในส่วนของสถานีบริการน้ำมันเจ็ทนั้น จากสถิติที่ดำเนินโครงการในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่า ประมาณกว่าร้อยละ 90 ของนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับคัดเลือกให้บรรจุเป็นพนักงานของบริษัทในระดับหัวหน้างาน หรือหากนักศึกษาไม่ประสงค์จะเข้าร่วมงานกับบริษัท เช่นอาจจะต้องการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นก็สามารถกระทำได้โดยไม่มีข้อผูกพันใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้หากนักศึกษาต้องการหางานทำ นักศึกษาก็สามารถนำประกาศนียบัตรที่ได้รับจาก ปตท. ไปยื่นเพื่อประกอบการสมัครงาน ซึ่งบริษัททั่วไป โดยเฉพาะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีก จะให้ความเชื่อมั่นกับกลุ่มนักศึกษาเหล่านี้ เนื่องจากผ่านงานที่เป็นระบบอย่างดีจากกลุ่ม ปตท. มาแล้ว นายกฤษณะพล กล่าว
นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเสริมว่า โครงการความร่วมมือที่เกิดขึ้นครั้งนี้จะมีส่วนผลักดันให้การจัดการอาชีวศึกษาได้บรรลุยุทธศาสตร์ในการผลิตนักศึกษาให้มีคุณภาพตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ และช่วยพัฒนาสมรรถนะของกำลังคนระดับกลางให้มีคุณวุฒิสูงขึ้น เพื่อเสริมสร้างฐานเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็งและมีศักยภาพอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ข้อตกลงที่เกิดขึ้นในวันนี้อาจจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่าง สอศ. และกลุ่มบริษัท ปตท. ในสาขาอื่นๆ เช่น ปิโตรเคมี หรือช่างอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไปในอนาคตอีกด้วย