กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--IR network
"แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี" พร้อมรับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน เปิดกลยุทธ์มุ่งเน้นผลิตสินคุณภาพพร้อมเจาะฐานลูกค้าหน้าใหม่ขยายตลาดเพิ่ม ควบคู่กับการรักษาฐานลูกค้าเก่า และผลิต Cutting Tools แบบ Customize ตรงตามความต้องการและมีประสิทธิภาพ "พีท ริมชลา" ประเมินแนวโน้มธุรกิจของ HTECH ครึ่งปีหลังยังสดใส ยันปีนี้รายได้โตตามเป้าหมาย พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ไม่ต่ำกว่า 40% ด้านบอร์ดใจดีจ่ายปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.09 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 9 ก.ย.
นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยว่าจากปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่เป็นอยู่ในขณะนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงผู้ประกอบการในประเทศไทย เนื่องจากทั้งสองแห่งนี้มีอำนาจการซื้อสูง เพื่อเป็นการป้องกัน และรองรับกับปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ในส่วนของบริษัทเอง ได้ตั้งรับโดยการมองหาตลาดใหม่ๆ ในส่วนอื่นเพิ่มเติม พร้อมกับรักษาฐานลูกค้าเก่า รวมถึงการผลิต Cutting Tools แบบ Customize เพื่อให้ตรงตามความต้องการและมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นการบริการแบบครบวงจรที่บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติทำได้ยากกว่าบริษัท
ทั้งนี้บริษัทและบริษัทย่อยได้แจ้งผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ของบริษัทและบริษัทย่อยลดลง โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 47.70 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิจำนวน 51.73 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานรวมงวดไตรมาส 2/2554 มีกำไรสุทธิจำนวน 22.40 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 29.15 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการขยายตัวของต้นทุนขาย 3.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.44% และการขยายตัวของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 11.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 92.30% ซึ่งการขยายตัวของต้นทุนและค่าใช้จ่ายหลักจะมาจากบริษัทย่อย (บริษัทแฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (ฟิลิปปินส์) จำกัด) ซึ่งเริ่มดำเนินกิจการในเดือนมีนาคม 2554
"แม้ช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมาการเติบโตของธุรกิจจะช้ากว่าปกติ แต่เชื่อว่าแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลัง น่าจะยังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากสถานการณ์และความต้องการทางอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE หรือ HDD และอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มีแนวโน้มขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี และคาดว่าประเทศไทยเองน่าจะให้การยอมรับในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัทพัฒนาขึ้น ขณะที่บริษัทย่อย คือ Halcyon Technology (Philippines) น่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากทักษะการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ ซึ่งน่าจะผลักดันให้รายได้ของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้คือ 400-450 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคงไว้ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 40%"นายพีทกล่าว
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2554 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับเดือนมกราคม-มิถุนายน 2554 ให้กับผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท โดยเป็นเงินปันผลจากกิจการส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 21.6 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2554 เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 โดยประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 26 สิงหาคม 2554 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2554