กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 25,250-25,350
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,791
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.89-29.92
- GFQ11 Hi- Low 25,550-25,200 ปิดที่ 25,470
Gold & Silver Insight
สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,793.8 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 53.2 เซนต์ ปิดที่ 40.351 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเปราะบางอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 4.28 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 11,410.21 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.13 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 1,193.89 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 11.97 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 2,511.48 จุด หลังจากบริษัทในกลุ่มค้าปลีกเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปและการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินฟรังค์
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 93 เซนต์ หรือ 1.07% แตะที่ 87.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.65-89.00 ดอลลาร์ หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 18 สิงหาคม ซื้อเข้า 9.08ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1262.90ตัน เข้าสู่ระดับ 1271.98ตัน
USD/EU
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหลังจากที่ยูโรร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ผลการประชุมระหว่างผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสไม่ได้ระบุถึงมาตรการที่จำเป็นในการยับยั้งการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4440 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4407 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4401 ดอลล่าร์ต่อยูโร
USD/JPY
ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.490 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 76.790 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.60 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB
ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 29.82-29.85 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.89-29.92บาทต่อดอลล่าร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- สกุลเงินฟรังค์สวิสยังคงแข็งค่าขึ้นแม้ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ประกาศเดินหน้าใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการสกัดการแข็งค่าของเงินฟรังค์ ด้วยการเพิ่มเพดานเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ตั้งสำรองไว้กับธนาคารกลางอีก จากเดิม 1.20 แสนล้านฟรังค์ เป็น 2 แสนล้านฟรังค์ เนื่องจากเงินฟรังค์ยังคงมีมูลค่าสูงเกินจริง แม้ธนาคารกลางพยายามใช้มาตรการต่างๆในการสกัดการแข็งค่าของเงินฟรังค์แล้วก็ตาม นอกจากนี้ ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ยืนยันว่าจะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อรับมือกับการแข็งค่าขึ้นอย่างมากของเงินฟรังค์ หลังจากที่นักลงทุนแห่เข้าซื้อเพราะเห็นว่าเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงที่ตลาดการเงินมีความผันผวนอย่างหนัก
- นายโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐ ได้จัดการเจรจากับนายซี่ จินผิง รองประธานาธิบดีจีนในวันนี้ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการเจรจาครั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ก่อนที่การเจรจาจะเปิดฉากขึ้นที่โถงรับรองในกรุงปักกิ่ง รองประธานาธิบดีจีนได้ให้การต้อนรับนายไบเดนในพิธีอย่างสมเกียรติ ซึ่งการเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ ถือเป็นการเดินทางเยือนเอเชียครั้งแรกของรองประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนายไบเดนมีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ในวันพรุ่งนี้
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 ส.ค.ร่วงลง 3.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 210.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 4.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 354.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 154.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 700,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลัง การกลั่นน้ำมันลดลง 0.9% สู่ระดับ 89.1% มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.5%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนก.ค.พุ่งขึ้น 0.2% หลังจากที่ปรับตัวลดลง 0.4% ในเดือนมิ.ย. ส่วนดัชนีพีพีไอพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% การพุ่งขึ้นของดัชนีพีพีไอซึ่งเป็นมาตรวัดภาวะเงินเฟ้อในส่วนของผู้ผลิตนั้น อาจทำให้โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3 นั้น ลดลงด้วย หลังจากที่มาตรการ QE2 ที่เพิ่งปิดโครงการไปเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ถูกวิพากษ์วิจารย์อย่างหนักว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐและทั่วโลก