กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--ป.กก.
นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(ป.กก.) เป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานศูนย์อำนวยการและบริการนักท่องเที่ยว ณ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการอำนวยการ บริการ ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว รับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์จากนักท่องเที่ยว และสร้างเสริมความเชื่อมั่น/มั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยว ตลอดจนนักกีฬาจากชาติต่างๆที่เดินทางมาแข่งขันกีฬาและกิจกรรมนันทนาการในประเทศไทยโดยทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ณ บริเวณชั้น 1 ประตู 3 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2554 เวลา 9.49 น.
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(ป.กก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2545 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาร่วม 9 ปี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กีฬา การศึกษาด้านการกีฬา และนันทนาการ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีหน่วยงานในสังกัดประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา กรมการท่องเที่ยว การกีฬาแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และมีกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว อีกทั้งบริษัท ไทยแลนด์พริวิเลจการ์ด จำกัด และบริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด ร่วมเป็นทีมงานด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยกันผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชนและคนไทยทุกคน มีรายปีละประมาณ 700,000-900,000 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าประเทศไทยเฉลี่ยปีละประมาณ 14.5-16 ล้านคน อีกทั้งในอนาคตการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวของตลาดโลก และแนวนโยบายของรัฐบาล ในการดำเนินการด้านการท่องเที่ยวไทย ให้ได้จำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพชาวต่างชาติ จำนวน 30 ล้านคน และสร้างรายได้จาการท่องเที่ยว จำนวน 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558-2559 มีผลทำให้การดูแล ช่วยเหลือ บริการ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาเยือนประเทศไทย มีความสำคัญมากขึ้น มีการแข่งขันที่สูงขึ้น พร้อมๆกับปัญหาหลายๆอย่างที่ตามมา ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม สาธารณสุข แรงงาน วัฒนธรรม การคมนาคม ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะการเปิดตลาดอาเซียน(AEC) ดังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้พยายามผลักดันการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยว ช่วยเหลือ และให้บริการนักท่องเที่ยว ในรูปแบบต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว มาโดยตลอด แต่ไม่สามารถรองรับปัญหาต่อจำนวนนักท่องเที่ยวได้เพียงหน่วยงานเดียว จึงต้องช่วยกัน ดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยมีการบูรณาการและทำงานเป็นทีมด้านท่องเที่ยวของชาติไทย ในลักษณะเบ็ดเสร็จ(One Stop Service)อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะเจ้าภาพหลักในด้านการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้ผลักดันการให้บริการนักท่องเที่ยว ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นป ระตูทองของการรับนักท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศไทย จำนวนกว่า 8-10 ล้านคนต่อปี ในรูปแบบของศูนย์อำนวยการและบริการนักท่องเที่ยว(Tourist Service Center at Suvarnabhumi Airport) จำนวน 10 ภาษา(ภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน และภาษาไทย ) มีเจ้าหน้าที่ จำนวน 14 คน ให้บริการนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ณ บริเวณชั้น 1 ประตู 3 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โทร/โทรสาร:0 2134 4077 E-mail: tsc@mots.go.th , Touristcenter13@gmail.com โดยช่วงที่ผ่านทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ผลักดันการจัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ในรูปแบบของหน่วยงานภายในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชื่อว่า สำนักอำนวยการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เมื่อปี พ.ศ. 2551 มีบทบาทเด่นๆในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในช่วงการปิดสนามสุวรรณภูมิ สึนามิ และการประกันภัยจราจลแก่นักท่องเที่ยว ต่อมา เมื่อปี พ.ศ. 2553 ได้มีการปรับบทบาทและเปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์อำนวยการและบริการท่องเที่ยว มีสำนักงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ โทร.0 2356 0650 โทรสาร 0 2356 0655 E-mail: tsc@mots.go.th โดยเป็นหน่วยงานกลาง ในการจัดทำแผนยุ ทธศาตร์ในการบริหารจัดการวิกฤตการท่องเที่ยวไทย(Policy @ Strategy Plan) และแผนแผนปฏิบัติการในการบริหารจัดการวิกฤตการท่องเที่ยวไทย(Action Plan) รวมทั้งการบูรณาการการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทยร่วมกับหน่วยงานทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ตลอดจนเป็นหน่วยงานหลักของไทยในการประสาน แลให้การบริการนักท่องเที่ยวในระดับต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งก่อนการเดินทาง(Pre) ขณะเดินทาง(Process) และหลังการเดินทาง(Post Tour)ท่องเที่ยวในประเทศไทย ในรูปแบบของข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ และข้อเสนอแนะต่างๆมาโดยตลอดเวลาที่ผ่านมา และมองว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ส่วนใหญ่เดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ และมาเที่ยวที่กรุงเทพมหานคร เป็นอันดับแรกของประเทศไทยและของอาเซียน จึงเป็นในการขยายการอำนวยการและบริการนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก และที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูทองแห่งการท่องเที่ยวไทยด้วย
ป.กก. กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับในปี 2554-2559 ประเทศไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมระดับนานาชาติทางด้านกีฬา กว่า 300 รายการ(ระดับโลก 69 รายการ ระดับนานาชาติ 68 รายการ ระดับเอเชีย 92 รายการ ระดับอาเซียน 24 รายการ) โดยเฉพาะในปี 2555 กรุงเทพมหานคร จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลโลก และในปี 2557 จะเป็นเจ้าภาพแข่งขันบีชเกมส์โลก ณ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะสร้างเสริมรายได้ และจำนวนนักกีฬาจากนานาชาติที่ต้องดูแลในรูปแบบของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ตลอดจนปี 2558 การเปิดเสรีอาเซียน และนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน มีนโยบายในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นด้วย จึงเป็นตัวกระตุ้นให้ประเทศไทย ต้องร่วมใจกันดูแล และบริการนักท่องเที่ยวในฐานะเจ้าบ้านที่ดีร่วมกันให้ได้มากที่สุด และหากในปี 2554 บ้านเมืองสงบ ไม่มีปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติที่ร้ายแรง อย่างสึนามิ ไม่มีปัญหาการเมืองที่รุนแรง คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ าสู่ประเทศไทย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 จะมีประมาณ 18.5-19.5 ล้านคน มีรายได้จาการท่องเที่ยวภาพรวม ประมาณ 900,000-1,000,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยเชิงบวกที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2554 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 10 อันดับแรกจากมาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย อินเดีย อังกฤษ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และกลุ่มอาเซียน ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น คงไม่เพีงแต่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีหน้าที่ดูแล และบริการนักท่องเที่ยว แต่ขึ้นอยู่กับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และคนไทยทุกคน ที่ต้องร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆเพื่อประเทศชาติ เป็นเจ้าบ้านที่ดี คงความเป็นไทย และพัฒนา/ปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ตลอดเวลา ก็จะสามารถสร้างผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ชุมชน สังคมและประเทศชาติได้อย่างยั่งยืนโดยการท่องเที่ยวไทยต่อไป