กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--บลจ. แอสเซท พลัส
บลจ.แอสเซท พลัส จะ Rollover 2 กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 8 (ASP-ACFIXED8) อายุประมาณ 3 เดือน ชูผลตอบแทน 3.25%* ต่อปี และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 2 (ASP-MMF2) อายุ 6 เดือน ชูผลตอบแทน 3.55% ต่อปี*
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด กล่าวว่า จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของรัฐบาลชุดใหม่ เช่น การเพิ่มค่าจ้างรายวันเป็น 300 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท การลดหนี้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาท เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี มาตรการลดภาษีบ้านหลังแรกและรถยนต์คันแรก และเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุตั้งแต่ 600-1,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนโยบายการเพิ่มรายได้เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศนั้น ซึ่งหากรัฐบาลดำเนินนโยบายครบทุกมาตรการน่าจะช่วยในการกระตุ้นการบริโภค และผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวขึ้นได้ และอาจกระตุ้นให้เงินเฟ้อในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ 4.08% อยู่ที่ระดับ 5%
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยคาดว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 24 ส.ค. นี้ กนง. น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% อยู่ที่ระดับ 3.50%
ทั้งนี้ ในสภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอกสูง ทั้งจากการที่สหรัฐฯ ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ และปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป การลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศระยะสั้นๆ น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เสียโอกาสผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 22 สิงหาคม นี้ บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 8 (ASP-ACFIXED8) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย และตราสารหนี้ในประเทศ เช่น ตั๋วแลกเงินของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารธนชาต (TBANK) บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์ (LHB) และบจ. เอเซียเสริมกิจ ลีสซิ่ง (ASK) อายุประมาณ 3 เดือน โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 3.25% ต่อปี*
และในวันที่ 24 สิงหาคม นี้ บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 2 (ASP-MMF2) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ อายุ 6 เดือน โดยรอบการลงทุนนี้จะพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทเอกชนต่างๆ เช่น ตั๋วแลกเงินของ ธนาคารเกียรตินาคิน (KK) บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร?ตี้ (AP) บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์ (LHB) และบจ. เอเซียเสริมกิจ ลีสซิ่ง (ASK) โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 3.55% ต่อปี*
“ทั้งนี้ ทั้ง 2 กองทุน เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นๆ และคาดหวังผลตอบแทนที่ดี ในระดับความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ เนื่องจาก กองทุนลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ในประเทศ และมีรอบการลงทุนสั้นๆ ประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาการลงทุนที่เหมาะสม ตามช่วงการปรับตัวของดอกเบี้ยขาขึ้น” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว
*รายละเอียดพอร์ตการลงทุนกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 8 (ASP-ACFIXED8)
*รายละเอียดพอร์ตการลงทุนกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 2 (ASP-MMF2)
ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111
สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308
อีเมล์: [email protected]