ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 29, 2011 12:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 25,750-25,850 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,821 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.97-30.00 - GFQ11 Hi- Low 25,520-24,290 ปิดที่ 25,470 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 34.1 ดอลลาร์ หรือ 1.9% แตะที่ 1,797.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 20.7 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 40.952 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 134.72 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 11,284.54 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 17.53 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 1,176.80 จุด ดัชนี Nasdaq ขยายตัว 60.22 จุด หรือ 2.49% ปิดที่ 2,479.85 จุด ขานรับถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงมุมมองในแง่บวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐว่า เศรษฐกิจในประเทศจะสามารถขยายตัวได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดบวก 7 เซนต์ แตะที่ 85.37 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง ในขณะที่มีรายงานข่าวว่า พายุเฮอริเคนไอรีนกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ชายฝั่งทางตะวันออกของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมัน กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 29 สิงหาคม ขายออก 1.51ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1232.31ตัน เข้าสู่ระดับ 1230.80ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) แม้ว่านายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงว่าเฟดจะยังไม่ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่สาม (QE3) ในขณะนี้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.77% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4489 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4378 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4485 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 1.03% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.660 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 77.460 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.71 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 29.98-30.10 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.97-30.00บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ในวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.นี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 75,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึง 117,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 9.1% ตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงซบเซาอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างมาก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ลงสู่ระดับ 1% ต่อปี จากเดิมที่ประมาณการไว้ในระดับ 1.3% อันเนื่องมาจากการชะลอตัวลงของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ การส่งออก และการใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง - นายวูลฟ์กัง โชเบิล รัฐมนตรีกระทรวงคลังเยอรมนีชี้เศรษฐกิจโลกเสี่ยงที่จะถดถอยเป็นเวลา 7 ปี เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและปัญหาหนี้ในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น พร้อมกับผลักดันให้ประเทศที่มีปัญหานี้ใช้มาตรการรัดเข็มขัดอย่างเคร่งครัด มีรายงานว่า รมว.คลังเยอรมนีกล่าวสุนทรพจน์ปิดการประชุม Lindau Nobel Laureate Meeting for Economic Sciences ครั้งที่ 4 ว่า การที่กลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเงินของตนเองนั้น คงจะต้องใช้เวลา - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนส.ค.ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 55.7 จุด จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 63.7 จุดมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนส.ค.ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2551 ทั้งนี้ การเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศทบทวนอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 1% ต่อปี จากเดิมที่ประมาณการไว้ในระดับ 1.3% ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางท่านกังวลว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแออาจบั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้ยิ่งตกต่ำลงไปอีก กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศทบทวนอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 1% ต่อปี จากเดิมที่ประมาณการไว้ในระดับ 1.3% การปรับลดประมาณการจีดีพีล่าสุดนี้เป็นเพราะสหรัฐมีการขยายตัวที่ช้าลงในส่วนของสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ การส่งออกที่ชะลอตัว และการใช้จ่ายที่ลดลงจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น โดยการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลที่แท้จริงขยับขึ้นเพียง 0.4% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับที่ขยายตัวได้ 2.1% ในไตรมาสแรก ซี่งการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลนี้มีสัดส่วนราว 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ และเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ